วันนี้ (5 มิถุนายน 2568) รองศาสตราจารย์ ดร.อุไร จเรประพาฬ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ บุญรอดชู ผู้ช่วยอธิการบดีและรักษาการแทนหัวหน้าส่วนส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.ปวรุตม์ พวงศรี รักษาการแทนรองผู้อำนวยการ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และบุคลากร ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารและทีมงาน KU Happy Place จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รัชด ชมภูนิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงานโครงการสัมมนาสร้างเครือข่ายด้านสุขภาวะทางจิตใจ ณ ห้องโมคลาน ชั้น 3 อาคารศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน และศูนย์ Smile & Smart Center ชั้น 1 อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยส่วนส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา ได้นำเสนอกระบวนการดูแล ส่งเสริม และพัฒนานักศึกษา ซึ่งดำเนินการโดยยึดนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง มีกระบวนการให้คำปรึกษาและนวัตกรรมการคัดกรองที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ พัฒนาตนเอง และจบการศึกษาไปเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสุขภาวะให้นักศึกษาอย่างเหมาะสม โดยจัดให้มีศูนย์ Smile & Smart Center ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบดูแลและเสริมสร้างศักยภาพนักศึกษาให้เก่ง ดี มีความสุข ให้นักศึกษาทุกคนได้พัฒนาศักยภาพ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีสุขภาวะที่ดี โดยมีบุคลากร ทั้งนักจิตวิทยา พยาบาลจิตเวช และจิตแพทย์ บริการให้คำปรึกษาเป็นรายกรณีและรายกลุ่ม มีทั้งบริการให้คำปรึกษาโดยตรงและออนไลน์ เพื่อให้นักศึกษาทุกคนสามารถเข้าถึงกระบวนการดูแลอย่างทั่วถึง รวมทั้งมี “คลินิกรักษ์ใจ” ซึ่งนักศึกษารวมทั้งบุคลากรสามารถเข้ารับบริการได้ ณ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เหล่านี้เป็นกระบวนการดูแลสุขภาวะทางจิตใจที่ครอบคลุมและมีความพร้อมของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รัชด ชมภูนิช กล่าวถึงการมาศึกษาดูงานว่า “ประทับใจกระบวนการส่งเสริมและพัฒนานักศึกษาที่ชัดเจนของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับนักศึกษา โดยให้นักศึกษาเป็นศูนย์กลางทำให้เกิดการเชื่อมโยงกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิชาการ การเรียนรู้นอกห้องเรียน และการดูแลนักศึกษาในการดำเนินชีวิตภายในมหาวิทยาลัย เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ซึ่งผลลัพธ์จากการผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ที่ทำให้ได้บัณฑิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งความตั้งใจในการพัฒนาทั้งในเชิงระบบ แพลตฟอร์ม และคู่มือมาตรฐานต่าง ๆ ในการทำงาน เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากและคิดว่าหลาย ๆ โมเดลที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ทำ จะเป็น Best Practice ที่ดีให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้นำไปใช้และขยายผลในการทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพนักศึกษาในอนาคตต่อไป”
