วันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางนำครอบครัวมากราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เนื่องจากหลวงปู่ทวดวัดพะโคะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลา ที่มีคนนับถือเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย
วันที่ 18 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วันหยุดสุดสัปดาห์ ที่วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย เดินทางนำครอบครัวมาที่วัดพะโคะ เพื่อมากราบไหว้ขอพรหลวงปปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว และเดินทางไปท่องเที่ยวต่อในพื้นที่จังหวัดสงขลาและหาดใหญ่ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก่อนเดินทางกลับประเทศ บรรยากาศภายในวัดคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเข้าไปกราบไหว้และปิดทองหลวงปู่ทวดเหลืองอร่ามไปหมดทั้งองค์รวมทั้งร่วมกันบริจาคปัจจัยเพื่อให้ทางวัดนำไปพัฒนาวัดสืบทอดพระพุทธศาสนา เนื่องจากจังหวัดสงขลา เห็นคุณค่าของหลวงปู่ทวดและได้ยกย่องเชิดชู หลวงปู่ทวดให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสงขลา
สำหรับประวัติของหลวงปู่ทวดถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาในสมัยหนึ่งที่ท่านเป็นพระหนุ่มจากปักษ์ใต้ไปกอบกู้กรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถซึ่งมีการบันทึกไว้ในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา นี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าตัวตนของหลวงปู่ทวดมีอยู่จริงและในการสืบค้นทางประวัติศาสตร์ ที่ อ.สทิงพระ บ้านเกิดหลวงปู่ทวดอยู่ที่วัดต้นเลียบ ที่ใต้โคนต้นเลียบเป็นที่ฝังรกของหลวงปู่ทวด หลวงปู่ทวดที่มีลูกแก้วคู่บารมี หลวงปู่ทวดกับวัดพะโคะมีความสัมพันธ์กัน หลวงปู่ทวดบวชเณรไปเรียนหนังสือที่วัดดีหลวง ซึ่งเป็นวัดที่ท่านบวชเณร เป็นอุโบสถที่ท่านบวช และลงเรือสำเภาไปกรุงศรีอยุธยา
โดยเรื่องราวเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่ อ.สทิงพระซึ่งถือว่าเป็นบ้านเกิดสามารถสืบค้นหาได้ มีอายุประมาณ 400 กว่าปี หลวงปู่ทวดมีตัวตนอยู่จริงในแผ่นดินนี้และบ้านเกิดของท่านอยู่ที่ อ.สทิงพระ นั่นคือการสืบค้นจากพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาและหลังจากที่ท่านกลับมาจากการกอบกู้กรุงศรีอยุธยาแล้ว ท่านก็กลับมาบูรณซ่อมแซมวัดพะโคะ หลวงปู่ทวดท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจที่ได้สร้างวัดนี้บูรณะวัดนี้ด้วยตัวของท่านเอง โดยได้รับการสนับสนุนและโปรดเกล้าฯจากสมเด็จพระเอกาทศรถในสมัยเมื่อ 400 กว่าปีที่ผ่านมา จนมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย สร้างความเชื่อความศรัทธาในตัวหลวงปู่ทวดวัดพะโคะ