วันที่ 30 มี.ค.68 เวลา 17.30 น. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ ร่วมพิธีละศีลอดเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1446 โดยมีพลโท คมกฤช รัตนฉายา แม่ทัพน้อยที่ 4 ผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 4 พลตรีปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ผู้แทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ที่ปรึกษาสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ ผู้นำศาสนาอิสลาม บุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพี่น้องชาวมุสลิม เข้าร่วมพิธีละศีลอดฯ ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
สำหรับเดือนรอมฎอน ถือเป็นช่วงเวลาอันประเสริฐที่เปี่ยมด้วยการอำนวยพรและความเมตตาของประชาชาติมุสลิมทั่วโลก เป็นช่วงเวลาของการขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์ และการแสดงความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งพี่น้องมุสลิมและต่างศาสนิก ด้วยอิสลามส่งเสริมให้มุสลิมทุกคนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องร่วมสังคมเดียวกัน โดยเฉพาะสังคมพหุวัฒนธรรม สร้างความรัก ความสามัคคี มีความเผื่อแผ่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยผู้นำศาสนาและพี่น้องชาวมุสลิม ได้ร่วมประกอบพิธีฮายัตและขอพรแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก พิธีละหมาดครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อขอพรให้ผู้ประสบภัยปลอดภัยและได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ด้วยความเข้มแข็ง
ทั้งนี้ ช่วงค่ำ มีการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันตรุษอีดิ้ลฟิตรี (วันรายอปอซอ) ประจำปีนี้ เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปรากฏว่ามีผู้เห็นดวงจันทร์ จุฬาราชมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีดิ้ลฟิตรี) ฮิจเราะห์ศักราช 1446 ตรงกับวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 จังหวัดสงขลาจึงประกาศให้เป็นวันหยุดราชการตามประเพณี เพื่อให้พี่น้องชาวมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจและเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญอย่างเต็มที่