ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผยการถอดถอน “สจ.กอล์ฟ” พ้นตำแหน่ง ต้องเป็นไปตามมติสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล จะเร่งส่งหนังสือให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผยการถอดถอน “สจ.กอล์ฟ” พ้นตำแหน่ง ต้องเป็นไปตามมติสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแล จะเร่งส่งหนังสือให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลเจริญอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 ปี พระราชศีลสังวร (ผ่อง จิรธมฺโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 17-18 (ธ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง
วันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเชิญผ้าไตร น้ำสรง และเครื่องสักการะพระราชทานถวายแด่ พระราชศีลสังวร (ผ่อง จิรธมฺโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 17-18 (ธ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคลครบ 8 รอบ 96 ปี โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทักษิณานุประทาน และเจริญพระพุทธมนต์อายุวัฒนมงคล ภายในพิธีมีนางปวีณ์ริศา เกิดสม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา พร้อมข้าราชการ พุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ เข้าร่วม
เมื่อประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณพิธี เจ้าหน้าที่อัญเชิญผ้าไตร น้ำสรง และเครื่องสักการะพระราชทานเข้าสู่พิธีการ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายสืบสกุล ศรีสุข ข้าราชการบำนาญ ได้อ่านหมายรับสั่งจากสำนักพระราชวัง ประธานในพิธีถวายเครื่องสักการะ ผ้าไตร น้ำสรง และพุ่มดอกบัวพระราชทาน แด่พระเดชพระคุณพระราชศีลสังวร (ผ่อง จิรธมฺโม) ต่อจากนั้นพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์เจริญชัยมงคลคาถา และเจริญพระพุทธมนต์ ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา ก่อนที่ประธานในพิธีจะถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำรับพร และพระราชศีลสังวร (ผ่อง จิรธมฺโม) ถวายอดิเรก ผู้เข้าร่วมพิธีต่างกราบลาพระรัตนตรัย กราบประธานสงฆ์ และถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีโดยสมบูรณ์
พระเดชพระคุณพระราชศีลสังวร (ผ่อง จิรธมฺโม) เดิมชื่อ ผ่อง ปานขาว เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2472 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านขาว ตำบลตะเครียะ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นบุตรคนโตของนายแป้น และนางส่วน ปานขาว เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ก็ต้องหยุดเรียนเพื่อช่วยพ่อแม่ทำไร่ไถนาและดูแลน้อง ๆ จนกระทั่งอายุ 20 ปี ได้อุปสมบท เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2492 ณ วัดบ้านขาว มีพระครูศีลคุณวิจารณ์ วัดศาลาหลวงล่าง ตำบลท่าบอน อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นพระอุปัชญาย์ ได้รับฉายาว่า จิรธมฺโม แปลว่า “ผู้มีธรรมอันยั่งยืน” ท่านมีปฏิปทางดงาม เปี่ยมเมตตา และมีความรู้ทางโหราศาสตร์ซึ่งศึกษามากว่า 40 ปี เป็นที่พึ่งทางใจของญาติโยมทั้งในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะในการให้คำแนะนำเรื่องฤกษ์ยามและแนวทางการดำเนินชีวิต ด้วยเมตตาและความเสียสละ ท่านได้ทำหน้าที่สงฆ์อย่างสมบูรณ์ และเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของสาธุชนมาอย่างยาวนาน
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน 2568 จังหวัดสงขลาจะมีการจัดงานและกิจกรรมสำคัญหลายรายการ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่
วันนี้ ( 11 กุมภาพันธ์ 2568) ณ ลานบินท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสเดินทางไปเป็นประธานเปิดงานมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งกำหนดจัดงานฯ ระหว่างวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ศาลเจ้าแม่เล่งจูเกียง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมติดตามในครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พบปะ พูดคุย และให้กำลังใจสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่มาร่วมต้อนรับ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กําลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง
วันที่ 8 มกราคม 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ปลัดจังหวัดสงขลา และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติราชการใน 4 อำเภอความมั่นคง ได้แก่ อำเภอจะนะ, อำเภอนาทวี, อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในสังคมพหุวัฒนธรรม ผ่านการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในชุมชน เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยและความยั่งยืนในพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และจังหวัดสงขลา
ในการประชุมดังกล่าว นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวถึงความสำคัญของบทบาทกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการดูแลและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชน โดยเฉพาะในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การพัฒนาคูคลอง การดูแลบ้านเมือง และเส้นทางให้สะอาดและเป็นระเบียบ รวมทั้งการป้องกันปัญหาฝุ่น PM2.5 แม้ว่าในจังหวัดสงขลาจะไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ต้องดูแลและไม่ควรละเลย
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเน้นย้ำให้ทางอำเภอรับฟังและจัดการปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด การส่งเสริมการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชน รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มศักยภาพของชุมชนในการพึ่งพาตนเอง
วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2567) เวลาประมาณ 14.10 น. นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งในฐานะพ่อเมืองสงขลา คนที่ 69 พร้อมด้วย นางปวีณ์ริศา เกิดสม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา โดยได้เดินทางเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกในอำเภอเมืองสงขลา ที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองในสมัยพระยาวิเชียรคีรี ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานศาลหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นสัญลักษณ์ของการตั้งเมือง โดยมี นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำคณะส่วนราชการ นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
จากนั้น เดินทางไปสักการะพระพุทธรูปประจำตำหนักเขาน้อย ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา ต่อมาไปยังศาลากลางจังหวัดสงขลา (หลังใหม่) เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำห้องพระ ต่อด้วยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล
วันนี้ (14 สิงหาคม 2567) เวลา 17.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายเฉิน หวยหยู (H.E. Mr. Chen Huaiyu) รองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำ และคณะ ณ ทำเนียบรัฐบาลไหหลำ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบปะพูดหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน โดยมีประเด็นหารือข้อราชการ ดังนี้
รองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำ กล่าวว่า มณฑลไหหลำ เป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศ ซึ่งเป็นเขตนำร่องด้านการท่องเที่ยวและด้านการศึกษา โดยให้มหาวิทยาลัยจากต่างประเทศมาเปิดวิทยาเขตได้ ในปัจจุบัน ได้มีการดำเนินโครงการระหว่างประเทศจีนกับต่างประเทศที่ร่วมกันบริหาร เพื่อให้นักเรียนจีนที่มีรายได้ปานกลางในประเทศสามารถได้รับปริญญาบัตรของจีนและต่างประเทศได้ในคราวเดียวกัน
สำหรับด้านการท่องเที่ยวและบริโภค มณฑลไหหลำได้มีการขยายการเข้าเมือง (Free Visa) ให้ชาวต่างชาติ ทั้งหมด 59 ประเทศ โดยจังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า ขณะที่มณฑลไหหลำกำลังอยู่ระหว่างการสร้างท่าเรือการค้าเสรี เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ใหญ่ และเพื่อให้ชาวจีนสามารถเดินทางผ่านไหหลำและเข้าไปท่องเที่ยวประเทศไทยได้ โดยในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคและมีสินค้ามากกว่า 40 ชนิด ด้านรองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำจึงมีความยินดี หากจังหวัดสงขลามีความสนใจนำวิสาหกิจชุมชนมาร่วมแสดงสินค้าที่จีนในปีหน้านี้
วันนี้ (14 สิงหาคม 2567) เวลา 17.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายเฉิน หวยหยู (H.E. Mr. Chen Huaiyu) รองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำ และคณะ ณ ทำเนียบรัฐบาลไหหลำ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบปะพูดหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน โดยมีประเด็นหารือข้อราชการ ดังนี้
วันนี้ (14 สิงหาคม 2567) เวลา 17.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายเฉิน หวยหยู (H.E. Mr. Chen Huaiyu) รองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำ และคณะ ณ ทำเนียบรัฐบาลไหหลำ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพบปะพูดหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน โดยมีประเด็นหารือข้อราชการ ดังนี้
รองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำ กล่าวว่า มณฑลไหหลำ เป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางใต้สุดของประเทศ ซึ่งเป็นเขตนำร่องด้านการท่องเที่ยวและด้านการศึกษา โดยให้มหาวิทยาลัยจากต่างประเทศมาเปิดวิทยาเขตได้ ในปัจจุบัน ได้มีการดำเนินโครงการระหว่างประเทศจีนกับต่างประเทศที่ร่วมกันบริหาร เพื่อให้นักเรียนจีนที่มีรายได้ปานกลางในประเทศสามารถได้รับปริญญาบัตรของจีนและต่างประเทศได้ในคราวเดียวกัน
สำหรับด้านการท่องเที่ยวและบริโภค มณฑลไหหลำได้มีการขยายการเข้าเมือง (Free Visa) ให้ชาวต่างชาติ ทั้งหมด 59 ประเทศ โดยจังหวัดสงขลาเป็นหนึ่งในประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า ขณะที่มณฑลไหหลำกำลังอยู่ระหว่างการสร้างท่าเรือการค้าเสรี เพื่อรองรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ใหญ่ และเพื่อให้ชาวจีนสามารถเดินทางผ่านไหหลำและเข้าไปท่องเที่ยวประเทศไทยได้ โดยในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคและมีสินค้ามากกว่า 40 ชนิด ด้านรองผู้ว่าราชการมณฑลไหหลำจึงมีความยินดี หากจังหวัดสงขลามีความสนใจนำวิสาหกิจชุมชนมาร่วมแสดงสินค้าที่จีนในปีหน้านี้
ช่วงเย็นวันที่ (8 สิงหาคม 2567) เวลา 18.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นางสาวสมาริน ศิริสวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว สงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ นางอู๋ ตงเหมย กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา และคณะ พร้อมรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารนายหวาน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – จีน เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกัน
ด้วยสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และคณะผู้ติดตาม เข้าร่วมโครงการศึกษาดูงาน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกงสุลใหญ่ฯ มีความยินดียิ่งสำหรับการตอบรับคำเชิญการเข้าร่วมโครงการของผู้บริหารในจังหวัดสงขลา เพื่อเดินทางศึกษาดูงานสภาพสังคม เศรษฐกิจ และแนวทางการทำงานของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะได้นำความรู้มาปรับประยุกต์กับใช้จังหวัดสงขลา พร้อมแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเริ่มการเดินทาง
นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้พูดคุยถึง ประเด็นการแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลจีนได้มีระบบการทำงานที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก โดยการส่งเจ้าหน้าที่มีทักษะและความสามารถเฉพาะทางในด้านการเกษตรและด้านการท่องเที่ยว เข้าไปในพื้นที่ชนบทเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน พร้อมให้แนวทางสำหรับจังหวัดสงขลา หากมีความสนใจ สามารถส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมโครงการไปอบรมด้านการเกษตรของประเทศจีนได้ ทั้งนี้ กงสุลใหญ่ฯ พร้อมให้การช่วยเหลือและสนับสนุนจังหวัดสงขลาในทุก ๆ ด้าน
วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบบ้านตามโครงการบ้านกาชาดแห่งความสุข The Red Cross House of Happiness เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จำนวน 2 หลัง โดยหลังแรกได้เดินทางไปมอบบ้านแก่นางชม หวานแก้ว อายุ 73 ปี ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โดยมี นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ/ นางญาณิน สุริยะวงศ์ ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายกกิ่งกาชาด อำเภอรัตภูมิ ตลอดจนกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วม
สำหรับนางชม หวานแก้ว อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นครัวเรือน TPMAP ที่ตกเกณฑ์ด้านรายได้ ความเป็นอยู่ตามโครงการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังมีบ้านเรือนที่ไม่มั่นคงปลอดภัย โดยได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณของเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา จำนวน 50,000 บาท เพื่อจัดซื้อครอบสันหลังคาครอบสันปิดจั่ว กระเบื้อง และวัสดุต่างๆ ในการซ่อมแชม แต่เนื่องจากสภาพบ้านเดิมทรุดโทรมมาก เมื่อช่างรื้อบางส่วนเพื่อซ่อมแซม ทำให้บ้านส่วนที่เหลือผุพังไปด้วย ทำให้งบประมาณไม่เพียงพอโดยได้มีการบูรณาการจากผู้บริหารเทศบาลตำบลกำแพงเพชร กำนันตำบลกำแพงเพชร ผู้ใหญ่บ้าน ได้รวบรวมสรรพกำลังในพื้นที่ปรับพื้นที่ ปรับปรุงและก่อสร้างบ้านให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงขึ้น
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินทางไปมอบบ้านแก่นายจุมพล โกศล อายุ 42 ปี ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา เป็นครัวเรือนตามข้อมูลสำรวจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในหมู่บ้านเป็นรายครัวเรือนผ่านระบบ Thai QM ประกอบกับมีรายได้ไม่แน่นอน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณของเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 125,000 บาท เพื่อจัดซื้อ กระเบื้อง ประตู หน้าต่าง เสา ทราย หิน และวัสดุต่างๆ ในการซ่อมแซม นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภาคเอกชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการบ้านกาซาดแห่งความสุข เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดขึ้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญ ในการดำรงชีวิต ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาได้จัดทำโครงการบ้านกาชาดแห่งความสุขขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ด้านที่อยู่อาศัย โดยการจัดสรรงบประมาณให้กับทุกอำเภอเพื่อช่วยเหลือในการสร้างที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรง
วันนี้ (4 กรกฎาคม 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 4 กรกฎาคม 2567 ในการนี้ได้รับความเมตตาจาก พระโสภณวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ปฐมาวาส พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เข้าร่วม ณ วัดโพธิ์ปฐมาวาส พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
เมื่อประธานเดินทางมาถึงบริเวณพิธี ในการนี้ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพ พร้อมวางพานพุ่มดอกไม้ถวายสักการะ เบื้องหน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จากนั้นกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล มีใจความว่า “เนื่องในศุภวาระสมัย คล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปีพุทธศักราช 2567 ในนามพสกนิกรจังหวัดสงขลาทุกหมู่เหล่า ขอพระราชทานพระวโรกาสถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง อีกทั้งอานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราชได้โปรดพิทักษ์บันดาลให้ใต้ฝ่าพระบาท จงทรงพระเกษมสำราญพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากภัยพาลโรคาพาธ อุปัทวันตรายทั้งปวง ทรงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัยสรรพสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล พระพรรษายิ่งยืนนาน พระเกียรติยศรุ่งเรือง ปรากฏไปทั่วทิศ ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวจังหวัดสงขลาชั่วกาลนาน”
ต่อจากนั้นศาสนพิธีกรอาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล ประธานสงฆ์นำเจริญจิตตภาวนา ประธานในพิธีถวายผ้าไตรและถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ประธานพิธีกรวดน้ำ เสร็จแล้วพระโสภณวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ปฐมาวาส พระอารามหลวง นำพระสงฆ์ สามเณร ออกรับบิณฑบาตตามลำดับ
ช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม Kick off ปลูกต้นทองอุไร เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์รองรับการเป็นเจ้าภาพร่วมการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยมีนายวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา นายจรินศักดิ์ สงสุวรรณ นายอำเภอนาหม่อม นายราวี บุญสอน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสงขลาที่ 2 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ บริเวณหน้าสำนักงานแขวงทางหลวงสงขลาที่ 2 อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพร่วมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 นั้น เป็นการยืนยันว่าจังหวัดสงขลามีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งจังหวัดสงขลาจะต้องพิสูจน์ให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมจังหวัดเห็นว่าบ้านเมืองของเรามีความสวยงาม น่าอยู่ และที่ยิ่งไปกว่านั้นในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงถือเป็นโอกาสอันดียิ่งที่คนสงขลาจะได้ร่วมกันพัฒนาเมืองให้มีความสวยงาม ด้วยการปลูกต้นทองอุไร ซึ่งเป็นสีประจำวันเฉลิมพระชนมพรรษา ฯ
สำหรับการจัดกิจกรรม Kick off ปลูกต้นทองอุไร ในวันนี้จะเป็นการเตรียมการรองรับเพื่อให้บ้านเมือง ถนนสายหลัก สายรอง มีความสวยงามในห้วงที่มีการจัดการแข่งขันในเดือนธันวาคม 2568 จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่ได้ทำการปลูกต้นทองอุไรในวันนี้ ดูแล บำรุงรักษาให้ต้นไม้เติบโตสวยงามจนถึงห้วงการแข่งขัน
นอกจากนี้ยังต้องขอความร่วมมือทุกๆ ภาคส่วนในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งเราจะทำจังหวัดสงขลาให้เป็นเมืองที่สวยงาม สะอาด น่าอยู่ และปลอดภัยในทุกๆ ด้าน เพื่อให้นักกีฬา ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในครั้งนี้ เกิดความประทับใจกับจังหวัดสงขลา และได้ประชาสัมพันธ์ให้กับคนทั่วไปได้รับรู้และได้กลับมาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาอีกในคราวต่อไป
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 14.00 น. ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานนำคณะทำงานฝ่ายไทย เข้าร่วมประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group – EWG) ร่วมไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 4 เพื่อพิจารณาการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม โดยมี โดยมี Ir. Mohd Fairuz binMuhamad, Under Secretary of Highway Planning Division เป็นประธานร่วมฝ่ายมาเลเซีย โอกาสนี้ นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ทั้งสองประเทศได้หารือประเด็นคงค้างจากการประชุม ครั้งที่ 3 ทั้งในประเด็นการกำหนดเขตก่อสร้าง การจัดระบบการระบายน้ำ การจัดแนวระดับถนน ระบบไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณจุดเชื่อม และการเทพื้นคอนกรีตวางฐานเสาไฟฟ้าใต้พื้นดินบริเวณจุดเชื่อม ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้กำหนดกรอบการดำเนินงานร่วมกัน โดยฝ่ายมาเลเซียจะเริ่มการก่อสร้าง (ระยะทาง 800 เมตร) ในเดือนกรกฎาคม 2567 ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ปี 3 เดือน จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2568 ในขณะที่ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง (ระยะทาง 300 เมตร) ในเดือนตุลาคม 2567 ระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน จะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2568
โดยคณะทำงาน EWG ทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องกันว่า การประชุมวางแผนการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมได้ข้อสรุปที่มีความชัดเจนจนสามารถนำไปสู่การก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ภารกิจของคณะทำงาน EWG ได้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำคณะทำงาน ประกอบด้วย นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายอับดลรอหมาน กาเหย็ม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุมหารือภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศมาเลเซีย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสงขลา
สำหรับการประชุมหารือภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาความร่วมมือร่วมกับกงสุลใหญ่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ประชุมฝ่ายไทย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสงขลา ร่วมกับกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง เพื่อนำประเด็นหารือกับฝ่ายมาเลเซีย มีประเด็นดังนี้ เมืองมรดกโลก, อาหารฮาลาล, การท่องเที่ยวทางเรือสำราญ (Cruise Entertainment), การหารือด้าน Logistic ร่วมกับบริษัท PKT Group, เมืองปีนังแหล่งผลิต Semiconductor ที่สำคัญของอาเซียน
วันนี้ (16 มิถุนายน 2567) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา นางพะเยีย ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่เข้าร่วมสังเกตการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติหน้าที่ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สมัครทั้ง 512 คนที่ผ่านการรับเลือกในระดับอำเภอ เข้าร่วมเฟ้นหาเพื่อเข้าสนามการเลือก สว.ในระดับประเทศ
สำหรับจังหวัดสงขลา มีผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกระดับอำเภอ จากทั้งหมด 20 กลุ่มอาชีพใน 16 อำเภอ รวม 512 คน ซึ่งในวันนีัมีผู้ไม่มารายงานตัว จำนวน 8 คน โดยอำเภอหาดใหญ่ มีผู้สมัครที่ผ่านการรับเลือกมากที่สุด จำนวน 55 คน ครบทั้ง 20 กลุ่มอาชีพ ส่วนอำเภอนาหม่อม และ อ.กระแสสินธุ์ มีผู้ผ่านการรับเลือกน้อยที่สุด คือ 12 คน แยกตามกลุ่มอาชีพ กลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดคือกลุ่มที่ 6 อาชีพทำสวนป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง จำนวน 42 คน รองลงมาคือ กลุ่มที่ 14 เป็นกลุ่มสตรี และกลุ่มที่ 19 กลุ่มอาชีพอิสระ จำนวนเท่ากันคือ 39 คน และกลุ่มที่ 15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ จำนวน 38 คน
โดยการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ทั้ง 20 กลุ่ม จังหวัดสงขลา จะทำการเลือก จำนวน 2 รอบ เช่นเดิม คือ รอบเช้าเลือกกันเองในกลุ่มให้เหลือกลุ่มละ 5 คน จากนั้นจะมาเลือกกันต่อในรอบบ่ายคือการเลือกไขว้ ให้เหลือผู้สมัครเพียงกลุ่มละ 2 คน เพื่อจะไปคัดเลือกต่อในระดับประเทศ และหลังเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด จะปิดประกาศรายชื่อ ณ ศาลากลางจังหวัด และเผยแพร่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมจัดส่งให้กับผู้อำนวยการ การเลือกในระดับประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าจังหวัดสงขลา จะมีผู้ผ่านการรับเลือกเข้าสู่ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ จำนวน 39 คน ส่วนเรื่องร้องเรียน กรณีรวมกลุ่มเพื่อมาสมัคร หรือ ฮั้วคะแนน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่โดยภาพรวมการเลือก สว.ของจังหวัดสงขลา
วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมลงนามในพิธีลงนามสัญญาเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ฯ เป็นประธานในพิธี มีผู้ร่วมลงนามประกอบด้วย นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ COO สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ , ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย , ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และผู้ร่วมงานเป็นผู้แทนชาติสมาชิก ในสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ทั้งหมด 10 ประเทศ
ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 โดยจังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา นั้น
คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดจัดพิธีลงนามในพิธีลงนามสัญญาเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) เป็นพันธกิจที่ประเทศเจ้าภาพต้องดำเนินการตามกฎบัตรและระเบียบสหพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asian Games Federation; SEAGF) ดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ณ ห้องประชุม 1 คณะกรรมการโอลมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมลงนามในพิธีลงนามสัญญาเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ฯ เป็นประธานในพิธี มีผู้ร่วมลงนามประกอบด้วย นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ COO สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ , ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย , ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และผู้ร่วมงานเป็นผู้แทนชาติสมาชิก ในสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ทั้งหมด 10 ประเทศ
ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 โดยจังหวัดเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา นั้น
คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้กำหนดจัดพิธีลงนามในพิธีลงนามสัญญาเมืองเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) เป็นพันธกิจที่ประเทศเจ้าภาพต้องดำเนินการตามกฎบัตรและระเบียบสหพันธ์กีฬาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asian Games Federation; SEAGF) ดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ
เช้าวันที่ (3 มิถุนายน 2567) ที่บริเวณลานหน้าเสาธง ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567 ในการนี้ได้รับความเมตตาจากพระโสภณวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ปฐมาวาส พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี ผศ.ศุภรัตน์ พิณสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา /รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ตำรวจ และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วม
ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพถวายราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระสงฆ์ให้ศีล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติพิธีสงฆ์อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา จากนั้น ประธานในพิธี นำประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 47 รูป จากนั้นคณะสงฆ์และสามเณรรับบิณฑบาตตามลำดับ
วันนี้ (21 พ.ค. 67) เวลา 09.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบเงินต่อยอดกองทุนแม่ของแผ่นดิน และมอบเงินกองทุนแก้ไขปัญหายาเสพติดหมู่บ้าน ชุมชนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีพลตำรวจตรี เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการหมู่บ้าน ชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอสะเดา กล่าวรายงานว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ยาเสพติดได้แพร่ระบาด และมีแนวโน้ม ทวีความรุนแรงขยายวงกว้างสู่หมู่บ้าน ชุมชน ครัวเรือน รัฐบาลได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการสกัดกั้นการนำเข้าตามพื้นที่แนวชายแดน การบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มผู้ค้า และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนบำบัดฟื้นฟู เพื่อคืนสู่สังคม โดยชุมชนมีส่วนร่วม หรือชุมชนบำบัด CBTx ในส่วนของอำเภอสะเดา สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากการ Re-x-ray ของคณะกรรมการหมู่บ้านชุมชนปรากฏผู้ค้าและกลุ่มผู้เสพเพิ่มมากขึ้น จำนวนกลุ่มผู้ค้าทั้งในและนอกบัญชีจำนวน 170 ราย ปรากฏพบ 1,003 ราย และผู้ป่วยจิตเวช จำนวน 109 คน
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอสะเดา ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันในการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ตามแนวทางชุมชนบำบัด CBTx แต่เนื่องจากในพื้นที่อำเภอสะเดา มีจำนวนผู้เสพยาเสพติด ผู้ป่วยจิตเวชจำนวนมาก งบประมาณที่ได้รับจากภาคราชการไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมชุมชนบำบัดได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ประกอบกับนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่สั่งการให้ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชนในจังหวัดสงขลา ให้มีการระดมทุนเพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนแก้ไขปัญหายาเสพติดและต่อยอดกองทุนแม่ของแผ่นดิน
วันนี้ (21 พ.ค. 67) เวลา 10.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปประจำอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีนายบุญพาศ รักนุ้ย อดีตรองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ บริเวณหอพระที่ว่าการอำเภอสะเดา ตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
อำเภอสะเดา ได้ร่วมกับ คณะกรรมการบริหารจัดการก่อสร้างพระพุทธสิหิงค์ (พระพุทธรูปประจำ อำเภอสะเดา) และส่วนราชการบริเวณศูนย์ราชการอำเภอสะเดา จัดพิธีทำบุญทางพระพุทธศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่นายอำเภอที่ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้ทางศาสนาอิสลามยังมีพิธีดุอาร์ (ขอพร) ตามหลักศาสนาเพื่อสันติสุขในพื้นที่อีกด้วย
สำหรับพระพุทธสิหิงค์ (พระพุทธรูปประจำอำเภอสะเดา) มีพิธีวางศิลาฤกษ์หอพระ ไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2561 เริ่มดำเนินการก่อสร้างหอพระ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 และจัดพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่อำเภอสะเดาและพื้นที่ใกล้เคียงได้มาสักการบูชาและเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยมีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 8.15 เมตร องค์พระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว ตั้งประดิษฐาน ณ บริเวณทางเข้าที่ว่าการอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ช่วงเช้าวันนี้ (19 พ.ค. 67) ณ บริเวณภายในสนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิด และปล่อยตัวนักปั่นกว่า 200 ชีวิต ในกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ระยะที่ 1 โดยมีนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางอุไรวรรณ จันลาภ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา นายสุรสิทธิ์ ศรีอินทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายสมชาย จันทรประทิน รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน และนักปั่นเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
จังหวัดสงขลา โดยสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ร่วมกับชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดสงขลา คณะกรรมการกีฬาจังหวัดสงขลา ได้กำหนดจัดโครงการพัฒนาเมืองกีฬา (Sports City) ระยะที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงการแข่งขันจักรยานชิงชนะเลิศ จังหวัดสงขลา (Nignt Criterium) ในระหว่างวันที่ 18 – 19 พฤษภาคม 2567 เป็นการแข่งขันจักรยานชิงชนะเลิศ จังหวัดสงขลา (Nignt Criterium) ทั้งหมด 7 ประเภท ซึ่งได้ดำเนินการจัดการแข่งขันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (14 พ.ค. 67) เวลา 09.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดเวทีการจัดการความรู้ ครั้งที่ 3 การพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับพื้นที่แบบมีส่วนร่วม “เพื่อเด็กทุกคน” พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดสงขลา โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิเวศน์ อรุณเบิกฟ้า ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายแพทย์ วิธู พฤกษนันต์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพันธกิจสังคม นางนรินทร์รัชต์ สีแก้วน้ำใส รองศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ตลอดจนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา วิทยากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ โรงแรมลากูนาแกรนด์ แอนด์ สปาสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting กว่า 500 คน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุมพล ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสำนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และพันธกิจสังคม ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนขบวนการโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ (TSQA) จังหวัดสงขลา และจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สังกัดสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ดำเนินงานโครงการวิจัยการพัฒนาคุณภาพของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 และนักวิชาการด้านการศึกษาในพื้นที่
โดยตลอดระยะเวลาดำเนินงาน 1 ปี ที่ผ่านมา ทำให้ค้นพบแนวปฏิบัติที่ดีจากชั้นเรียน รวมถึงนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูในโรงเรียนเป้าหมาย ในกลุ่มสาระต่าง ๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมทั้งการเรียนรู้ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ปัจจุบันมีโรงเรียนเป้าหมายที่ร่วมโครงการ TSQA จาก 6 สังกัด ปีแรก จำนวน 170 โรงเรียน และจะขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ให้มากขึ้นและขยายไปในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
วันนี้ (12 พฤษภาคม 2567) ที่วัดป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางไปเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี 2567 นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี 2567 โดยได้รับความเมตตาจากพระโสภณวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ปฐมาวาส พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา คุณแม่ละเอียด นาคจันทร์ ห้างทองใบเงินบ้านพรุ และครอบครัว ร่วมเป็นรองประธานองค์ผ้าป่า นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร ตลอดจนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมจำนวนมาก
วัดป่าขาด ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2200 สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดป่าขาดมีโบราณวัตถุที่สำคัญและเป็นหลักฐานที่หลงเหลืออยู่คือซุ้มประตูเก่า ซึ่งเป็นศิลปกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอสิงหนคร ปัจจุบันโบราณสถานและโบราณวัตถุของวัดได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ให้สวยงามและมั่นคง อาทิ พระอุโบสถ วิหาร และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญหรือเป็นของดีวัด คือเหรียญพระเครื่องคงหน้าคงหลัง ด้านหน้าเป็นรูปของพระครูธรรมโฆษิต (พ่อท่านคง) วัดธรรมโฆษณ์ จังหวัดสงขลา อาจารย์ของพ่อท่านคง เจ้าอาวาสวัดป่าขาดด้านหลังเป็นรูปของพ่อท่านคง วัดป่าขาดได้รับการพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2250
โดยยอดปัจจัยที่ได้จากการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ที่ทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนบริจาคเบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 833,799 บาท ทั้งนี้เพื่อนำปัจจัยไปใช้ในการก่อสร้างก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ แทนอาคารเดิมที่มีสภาพเก่าแก่กว่า 350 ปี เพื่อใช้ในการประกอบศาสนกิจที่สำคัญทางศาสนาต่อไป ตลอดจนเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามและส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่
ช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ค. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีเด่น ในการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีเด่น ประจำปี 2567 โดยมีนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา นางศศิจริญญา อำม์พรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 12 นายอับดลรอหมาน กาเหย็ม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านดีเด่น ผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนสาธารณสุขอำเภอ ประธาน อสม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา ชั้น 2 อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เป็นผู้มีความมุ่งมั่น เสียสละในการทำงาน สามารถเข้าถึงประชาชนในชุมชน ช่วยให้ประชาชนสุขภาพดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อสม.เป็นส่วนสำคัญของระบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นกลไกในการเชื่อมโยงกับชุมชน เพื่อตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 จนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย ชื่นชมไทย โดยระบุว่า “ไทยมีระบบการดูแลสุขภาพถึงระดับครอบครัว คือ มี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. กว่าล้านคนเป็นผู้ที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และช่วยดูแลประชาชนถึงในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี ทำให้การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพื่อเข้าสู่ระบบรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และองค์กรด้านสาธารณสุขระดับโลกยังได้รายงานให้คนทั่วโลกรับทราบ แสดงถึงศักยภาพด้านสาธารณสุข และเป็นตัวอย่างให้กับหลายประเทศ เพื่อใช้เป็นแนวทางการควบคุมโรคได้ อีกด้วย
วันนี้ (7 พ.ค. 67) เวลา 09.30 น. ที่ธนาคารขยะขององค์การบริหารส่วนตำบลนาหมอศรี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานถอดบทเรียนการขับเคลื่อนธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมด้านการบริหารจัดการขยะในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ มีการกำจัดขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนและถูกต้องตามหลักวิชาการ ภายใต้หลักการ 3Rs โดยมีนายวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา นายวรินทร ทองขาว นายอำเภอนาทวี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการ และสมาชิกกองทุนฯ เข้าร่วม เพื่อถอดบทเรียนความสำเร็จการขับเคลื่อนธนาคารขยะร่วมกับประชาชนในพื้นที่
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ได้ขับเคลื่อนธนาคารขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จนประกาศความสำเร็จ “1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 ธนาคารขยะ” และดำเนินการครบถ้วน 100 % คือ จำนวน 140 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 422 แห่ง ภายใต้นโยบายกระทรวงมหาดไทย โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนการจัดตั้งธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะ โดยคัดแยกขยะให้ถูกต้องตามประเภท เกิดเป็นขยะที่มีมูลค่า สามารถนำไปขาย และนำรายได้กลับคืนสู่สังคมเป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน
เช้าวันนี้ (30 เม.ย. 67) ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลานายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่อ “แรงงานสงขลา จิตอาสาร่วมใจ เทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา” โดยมีนายธุวานนท์ ดวงจักร์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสงขลา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรม HR สงขลา คณะทำงานการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ผู้แทนนายจ้าง ผู้ใช้แรงงาน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
นายสุวานนท์ ดวงจักร์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานวันแรงงานแห่งชาติจังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่อ “แรงงานสงขลา จิตอาสาร่วมใจ เทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา” เพื่อเป็นการร่วมแสดงพลังสามัคคีของนายจ้าง ลูกจ้าง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา
นอกจากนี้ รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติ โดยกำหนดให้เป็นวันหยุดตามประเพณีของสถานประกอบการ ส่งเสริมให้มีการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติเป็นประจำทุกปี และจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง รำลึกถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แรงงานได้ทำกิจกรรมร่วมกับนายจ้าง ลูกจ้าง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี และมีส่วนร่วมในกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์เพื่อสังคมร่วมกัน อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกป่าชายเลน เก็บขยะ ปรับปรุงทัศนียภาพ ทาสี ซ่อมแซมอุปกรณ์ออกกำลังกายและยังมีการให้ความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน อีกด้วย
บ่ายวันนี้ (22 เมษายน 2567) เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมสยามออเรียนทัล หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณแก่ชุมชนดีเด่น จังหวัดสงขลา ที่ผ่านการคัดเลือก ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการบำบัดยาเสพติด โดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTx) ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โดยมี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นายกู้ศักดิ์ บำรุงเสนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา พันตำรวจเอกพิชัย กิระวานิช รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดสงขลา นายแพทย์ธนูรัตน์ พุทธชาติ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา ผอ.รัชนีวรรณ พนุหนิการ ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ สสส.ภาค 9 ร่วมเป็นคณะกรรมการคัดเลือก
ด้วยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการบำบัดยาเสพติด โดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTX) และคัดเลือกชุมชนล้อมรักษ์ จังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 เพื่อถอดบทเรียนของการดำเนินงานที่ผ่านมาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาทีม พัฒนาคน และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี และคัดเลือกชุมชนต้นแบบในการดำเนินงานชุมชนล้อมรักษ์ จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างเสริมกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน และชุมชนที่ได้ทุ่มเท แรงกายแรงใจในการดูแลบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดให้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในสังคม โดยกำหนดให้มีการนำเสนอชุมชนล้อมรักษ์ ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา และสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ เพื่อคัดเลือกชุมชนดีเด่น จังหวัดสงขลา ประจำปี 2567
ช่วงค่ำวันนี้ (21 เม.ย. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการเดินเยี่ยมชมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีของเด่นประจำอำเภอทั้ง 16 อำเภอจังหวัดสงขลา อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ณ ตลาดย้อนยุคโซนนิทรรศการ OTOP ภายในงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา 2567 พร้อมทั้งได้ควักเงินอุดหนุนสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด อีกด้วย
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้พูดคุยและให้กำลังใจผู้ประกอบการ OTOP และกล่าวเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง มาเที่ยวชมงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา 2567 พร้อมมาอุดหนุนพ่อค้า แม่ค้า และผู้ประกอบการ OTOP เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนมารับชมกิจกรรมความสนุกและศิลปินที่จะมามอบความสุขในระหว่างวันที่ 19 – 28 เมษายน 2567 ณ สระบัวแหลมสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ช่วงเย็นวันนี้ (20 เม.ย. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่พบปะ พูดคุย และเยี่ยมชมการออกบูทของอำเภอส่วนราชการ และภาคเอกชนต่างๆ ในงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา พ.ศ. 2567 ที่ได้นำผลงาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ยา สมุนไพร ผ้าไทย ชุดเฟอร์นิเจอร์ และผลผลิตทางการเกษตรมาจัดแสดงและจำหน่าย ณ บริเวณสระบัวแหลมสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
สำหรับงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 28 เมษายน 2567 เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกิจกรรมการกุศลกับเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา โดยรายได้ทุกบาททุกสตางค์จะนำเข้าสมทบกองทุนการกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เพื่อนำเงินเหล่านั้นออกสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคม พี่น้องชาวสงขลาและจังหวัดใกล้เคียงต่อไป ตามคำขวัญที่ว่า “เราช่วยกาชาด กาชาดช่วยเรา”
วันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้นายพรรพัฒน์ พลายด้วง หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการ พร้อมด้วยนายรัชพล พฤฒิพฤกษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบประสิทธิภาพ ความมั่นคงแข็งแรง ความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ไฟฟ้า และระบบฉุกเฉินหากเกิดการขัดข้องของเครื่องเล่น จำนวน 17 รายการ ในงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 ณ สระบัวแหลมสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยได้กำชับผู้ควบคุมดูแลเครื่องเล่น ให้ตรวจสอบบำรุง รักษา เครื่องเล่นตามกำหนดระยะเวลาอย่างสม่ำเสมอ และจัดทำป้ายแสดงชื่อผู้ควบคุมฯ วิธีการใช้ คำแนะนำการใช้ ข้อห้าม เครื่องหมายเตือน ป้ายระบุจำนวนคนที่สามารถเข้าใช้งานได้ในแต่ละครั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการสูญเสีย
ทั้งนี้ โดยปกติก่อนที่เครื่องเล่นจะเปิดให้บริการ จะมีการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้มาใช้บริการอีกครั้งหนึ่งว่า เครื่องเล่นยังมีความมั่นคง แข็งแรง และไม่พบปัญหาแต่อย่างใด พร้อมได้เน้นย้ำไปถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวให้สังเกตความมั่นคง แข็งแรงและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ควบคุมเครื่องเล่นและเจ้าพนักงานท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในชีวิตและทรัพย์สิน ด้วย
เช้าวันนี้ (19 เมษายน 2567) เวลาประมาณ 07.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์เอาชัยก่อนการเปิดงานประจำปีและงานกาชาดจังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 28 เมษายน 2567 โดยได้เริ่มสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารพระพุทธศรีสงขลานครินทร์เป็นที่แรก ต่อด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองในเขตอำเภอเมืองสงขลา ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา , พระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ และพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นในเวลา 09.09 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เดินทางเป็นประธานในพิธีบวงสรวงและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยพิธีพราหมณ์ ณ เวทีกลาง บริเวณสนามสระบัว โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผศ.ศุภรัตน์ พิณสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ดร.กรรณิกา เพชรนุ้ย รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นางวราภรณ์ สาราบรรณ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายสุรัตน์ ลายจันทร์ นายอำเภอเมืองสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
วันนี้ (17 เม.ย. 67) เวลา 10.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นายสงัด พืชพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่จังหวัดสงขลา พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการ รวมถึงแนะแนวทางการพัฒนา ต่อยอดสินค้าให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เน้นการออกแบบที่ทันสมัย และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
โดยจุดแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ลงพื้นที่ไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์บ้านนาออก หรือ “ป้าติ้วแมงโก้” ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากมะม่วงเบาที่เกิดจากชาวบ้านรวมตัวกันของชาวบ้านตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เมื่อปี พ.ศ. 2547 และได้จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2549 โดยผลิตภัณฑ์แรกที่เริ่มทํา คือ มะม่วงแช่อิ่ม และได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมะม่วงมาเรื่อยๆ อาทิ นํ้ามะม่วงเบาพร้อมดื่ม แยมมะม่วง มะม่วงเบาแช่อิ่ม ไอศกรีมมะม่วงเบา น้ำพริก และมะม่วงอบแห้ง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เข้าสู่ระบบธุรกิจ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและให้มีการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง
เช้าวันนี้ (17 เม.ย.67) ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นางอู๋ ตงเหมย กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา และคณะ ในโอกาสขอเข้าพบเพื่อพูดคุยข้อราชการ และกระชับความสัมพันธ์ทั่วไประหว่างไทยและจีนมากยิ่งขึ้น เพื่อสานสัมพันธ์ มุ่งส่งเสริมด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยมีนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การรับรอง
ด้วยครบรอบ 30 ปี ของการสถาปนาสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐจีนประจำสงขลา ประสงค์กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำคณะ ไปเยือนเมืองซีอาน เมืองฝูโจว และเมืองจาซิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน โดยเมืองซีอานเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน เป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ในอดีตซีอานได้เป็นเมืองหลวงของ 13 ราชวงศ์ รวมทั้ง โจว ชิน ฮั่น และ ถัง เมืองฝูโจว ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของ มณฑลฝูเจี้ยน ส่วนมากชาวจีนที่มาจากเมืองนี้มักเข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างยาวนานจนกลายมาเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของประชากรไทย (คนไทยเชื้อสายจีน) และเมืองจาซิน ถือเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำในภาตใต้ของจีน
ทั้งนี้มีการประชาสัมพันธ์โครงการฝึกอบรมที่จีน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สนใจโครงการที่เกี่ยวกับการเกษตร และด้านเทคโนโลยี เพื่อจะได้นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ในจังหวัดสงขลา ทั้งยังได้กล่าวขอบคุณ นางอู๋ ตงเหมย กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา สำหรับโครงการฝึกอบรมครูสอนภาษาจีนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมสามารถนำทักษะและความสามารถที่ได้มาใช้ในการปฏิบัติการสอน มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับนักเรียนในจังหวัดสงขลา
ช่วงเช้าวันนี้ (12 เม.ย. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรและความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 ณ จุดตรวจความมั่นคงควนมีด อำเภอจะนะ, จุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี, จุดตรวจหน้าที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อย และจุดตรวจหน้าเทศบาลตำบลลำไพล อำเภอเทพา เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”
โดยสภาพการจราจรบริเวณหน้าด่านตรวจความมั่นคงควนมีด อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาทั้งฝั่งขาเข้าอำเภอหาดใหญ่และฝั่งขาออกไปยังพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังประชาชนทยอยเดินทางไปพักผ่อนและท่องเที่ยวกับครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์และคาดว่าปริมาณรถจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดแรกของเทศกาล
ช่วงเช้าวันนี้ (12 เม.ย. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการและคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรและความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 ณ จุดตรวจความมั่นคงควนมีด อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
วันนี้ (10 เม.ย. 67) เวลา 14.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับรถ (Rest Area) เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสุขใจ ห่างไกลจากอุบัติเหตุตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงรัตภูมิ (พรุพ้อ) อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา โดยมีนายอนุเทพน์ เกศา ขนส่งจังหวัดสงขลา นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ นายอนุเทพน์ เกศา ขนส่งจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายอนุเทพน์ เกศา ขนส่งจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องจาก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี จะมีวันหยุดติดต่อกัน หลายวัน และมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ โดยรถส่วนตัว และรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าในช่วงเวลาปกติ ซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่ เกิดจากผู้ขับรถเมาสุรา ขับรถเร็ว หลับในเนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอและสภาพรถชำรุดบกพร่อง ไม่มั่นคงแข็งแรง
กระทรวงคมนาคม ได้กำหนดเป้าหมายให้การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนบนเส้นทางในความรับผิดชอบให้ลดลงเหลือน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบควบคุมดูแลมิให้รถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุทางถนนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ กรมการขนส่งทางบกจึงได้กำหนดให้มีการจัดตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและ ผู้ขับรถในช่วงเทศกาลสำคัญ ทั่วประเทศ รวม 13 จุด ซึ่งในจังหวัดสงขลา ได้รับมอบหมายให้ตั้งจุดตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและและผู้ขับรถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ณ หน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ อำเภอรัตภูมิ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2567 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการปฏิบัติงานทั้งด้านการให้บริการ การบังคับใช้กฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้บริการเส้นทางผ่านจังหวัดสงขลา ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาในระหว่างการเดินทาง การตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
เช้าวันนี้ (8 เม.ย. 67) ที่ลานหน้าพระอนุสาวรีย์กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ บริเวณเขาน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดีและวางพวงมาลาที่ประดับตกแต่งด้วยผัก ผลไม้ ถวายราชสักการะพระอนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 8 เมษายน 2567 โดยมีนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงประกอบพระกรณียกิจนานัปการในการพัฒนาบ้านเมืองเพื่อสร้างความผาสุก สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและชาวปักษ์ใต้
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และมีความตั้งพระทัยจริงที่จะพัฒนาบ้านเมืองในภาคใต้ให้เจริญรุ่งเรือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเลื่อนพระอิสริยยศเป็นลำดับ จนกระทั่ง ปีพุทธศักราช 2453 ทรงได้รับเลื่อนตำแหน่งทางราชการสูงขึ้นเป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งมีที่ตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ที่เมืองสงขลา และมีพระราชอำนาจบังคับบัญชาสูงสุดปกครองมณฑลปักษ์ใต้ 3 มณฑล คือ มณฑลสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และปัตตานี
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่ทรงประทับที่สงขลา ทรงใช้เมืองสงขลาเป็นศูนย์บัญชาการปกครองเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเขตมณฑลปักษ์ใต้เป็นเวลาถึง 14 ปี พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองที่ข้าราชการและราษฎรรักใคร่เป็นอย่างยิ่ง ทรงตั้งอยู่ในความสุจริตและอุทิศพระองค์เพื่อราชการบ้านเมืองทรงยึดมั่นในพระราชพิธีและประเพณีดั้งเดิม ทำให้เมืองสงขลาได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีระเบียบแบบแผนทางพิธีการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
วันนี้ (6 เม.ย. 67) เวลา 08.00 น. ที่หอประชุมจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประจำปี 2567 โดยมีนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
เมื่อเข้าสู่พิธีการฯ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย รับศีล ถวายพานพุ่มดอกไม้ เครื่องราชสักการะ จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จากนั้น กล่าวถวายอาศิรวาทราชสดุดี โดยมีพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลาประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์เจริญชัยมงคล จบแล้วประธานและแขกผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป
สำหรับวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือ วันจักรี เป็นวันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และมหาจักรีบรมราชวงศ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และทรงสถาปนากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย โดยพระเจ้าแผ่นดินในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้สืบสันตติวงศ์ต่อเนื่องกันมาในราชวงศ์เดียวกันจนถึงปัจจุบัน มี 10 รัชกาล รวมระยะเวลาแล้วกว่า 240 ปี
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2567) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ อำเภอ และตัวแทนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) ซึ่งการประชุมในวันนี้ มีระเบียบวาระการพิจารณาที่สำคัญ คือ การเตรียมความพร้อมการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ตลอดจนการดำเนินการอื่น ๆ อาทิ การตั้งจุดตรวจ การตรวจเยี่ยมจุดตรวจ การรณรงค์และประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
วันนี้ (2 เม.ย. 67) ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำพรุสาคู บ้านคลองปอม หมู่ที่ 11 ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2567 โดยมีนายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสาพระราชทาน และกำลังพลจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
โดยในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ด้วยพระราชหฤทัย เปี่ยมด้วยพระเมตตา เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ เป็นที่ประจักษ์อยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยตลอดมา ทรงพัฒนาการศึกษาอาทิ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร การพัฒนา การศึกษาในชุมชนเมือง การศึกษาพิเศษเพื่อผู้พิการ การพัฒนาศูนย์ข้อมูลและห้องสมุด ทรงริเริ่มโครงการด้วยรักและห่วงใย โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันแก่นักเรียนในชนบทห่างไกล ทรงส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในชนบทด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และอาณาประชาราษฎร์เป็นอเนกประการ
เช้าวันนี้ (2 เม.ย. 67) ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และวันอนุรักษ์มรดกไทย 2 เมษายน 2567 โดยมีนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชนชาวสงขลาเข้าร่วม เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
โอกาสนี้ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานพระสงฆ์ และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูปให้ศีล และเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้น ผู้ว่าราชการจังวัดสงขลา ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์สวดอนุโมทนา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันนี้ (31 มี.ค.67) เวลา 13.30 น.ที่วัดคูเต่า ตำบลแม่ทอม อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันสำคัญของชาติไทย “วันระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3” โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ จิตอาสาพระราชทาน และกำลังพลจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
โดยในพิธี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชคุณูปการแก่ประเทศ และประชาชนเป็นล้นพ้นสุดจะพรรณนาได้ ทรงเพิ่มพูนรายได้ของประเทศด้วยการปรับปรุงการเก็บภาษีอากร ทั้งภาษีอากรเก่าและใหม่ เพื่อเพิ่มพูนรายได้ของประเทศ ในส่วนการบำรุงรักษาความมั่นคงของประเทศนั้น ได้ทรงพระราชทานราชทรัพย์ไว้แก่แผ่นดิน ซึ่งเก็บรักษาไว้ในถุงแดงเป็นจำนวนหลายหมื่นชั่ง ซึ่งในรัชกาลต่อมา ได้ทรงนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาอธิปไตยของชาติ และทรงเกื้อกูลพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบมา
วันนี้ (29 มี.ค. 67) เวลา 17.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และพสกนิกรชาวจังหวัดสงขลา กว่า 10,000 คน แต่งกายด้วยชุดสุภาพโทนสีม่วง มาร่วมกิจกรรมแปรอักษรตราสัญลักษณ์ “สธ.” “ทรงพระเจริญ” และ รูปหัวใจ “คนสงขลา รัก พระเทพ ฯ” เพื่อแสดงพลังความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2567 ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
โดยก่อนเข้าสู่พิธีการ ฯ มีกิจกรรมการแสดงของวงโยธวาทิต และวงดนตรีสากล จากโรงเรียนวรนารีเฉลิมสงขลา, การแสดงชุด “สุลต่านเมืองท่า สิงกอรานครม” จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ, การแสดงชุด “โนราเทิดพระเกียรติ วิศิษฎศิลป์ องค์สิรินธร” จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และโรงเรียนแจ้งวิทยาที่มาถ่ายทอดเรื่องราวอันทรงคุณค่า บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมในท้องถิ่นได้อย่างสวยงาม และน่าประทับใจ
ที่ห้อง Convention Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ที่เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานนัดพบแรงงานมหกรรมอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2567 สร้างงานและเส้นทางสู่อาชีพ @สงขลา ระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคม 2567
ช่วงบ่ายวันนี้ (29 มี.ค. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 4 กับทางหลวงหมายเลข 406 (แยกคูหา) จังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 4.765 กม. พร้อมหาแนวทางบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดให้ทันก่อนห้วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยมี นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
ด้วยห้วงเทศกาลสงกรานต์ มักมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ประกอบกับมีการก่อสร้างสะพานทางแยกยกระดับ บริเวณสี่แยกคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จึงส่งผลให้มีการจราจรติดขัดและระบายรถได้ช้าลง นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้ลงพื้นที่ติดตามสอบถามความคืบหน้าโครงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการระบายรถให้ทันก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งได้มีการวางแผนการให้มีการขยายพื้นผิวจราจร และแบ่งช่องจราจรทั้งขาเข้าและขาออก นอกจากนี้ระหว่างการก่อสร้างจะมีการซ่อมแซมผิวจราจรชั่วคราว ฉีดน้ำลดฝุ่นที่จะส่งผลไปยังบ้านเรือนบริเวณริมถนน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด.
วันนี้ (28 มีนาคม 2567) ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ส่งมอบอินทผาลัมแก่ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ในช่วงเดือนถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ถือเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจอันดีงามของพี่น้องไทยมุสลิมและสนับสนุนผู้ถือศีลอดให้ได้ประกอบศาสนกิจได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักศาสนาอิสลาม
การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ถูกกำหนดให้เป็น 1 ใน 5 เสาหลักของศาสนาอิสลาม โดยที่อิสลามิกชนทั่วโลก จะงดอาหารและเครื่องดื่มหรือที่เรียกว่า ถือศีลอด ซึ่งเริ่มอดตั้งแต่เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า รอมฎอนปีนี้ ตรงกับวันที่ 12 มีนาคม 2567 – วันที่ 10 เมษายน 2567 โดยจุฬาราชมนตรี ได้ลงนามประกาศการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ตามฮิจเราะห์ศักราช 1445 ในวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2567 หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
สำหรับอินทผาลัม ถือเป็นผลไม้ทรงคุณค่าแห่งเดือนรอมฏอน เนื่องจากมีความเชื่อเรื่องการเป็นผลไม้แห่งการประทานพรจากพระเจ้าที่กินแล้วเพิ่มพูนผลบุญได้แล้ว ยังเป็นผลไม้ที่เพิ่มพลังให้กับคนที่อดอาหารมาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนตกดิน เพื่อให้มีกำลังลุกขึ้นไปปฏิบัติศาสนกิจในเดือนแห่งเกียรติยศนี้ได้เป็นอย่างดี โดยท่านนบีมูฮัมหมัดส่งเสริมให้ชาวมุสลิมละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมกับ “หากผู้หนึ่งผู้ใดถือศีลอด ก็ขอให้เขาละศีลอดด้วยอินทผลัม แท้จริงน้ำเปล่านั้นทำให้สดชื่น”
ช่วงบ่ายวันนี้ (22 มีนาคม 2567) ที่วัดวังปริง ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่เยี่ยมชม “บ้านวังปริง หมู่บ้านสะอาดยั่งยืน” และประชุมถอดบทเรียนในการขับเคลื่อนเป็นต้นแบบชุมชนสะอาดและสวยงาม โดยมี นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา นายวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา นายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา นายปรีชัย สนิทมัจโร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขามีเกียรติ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
โดยก่อนเริ่มการประชุม นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เข้ากราบสักการะองค์จำลองอดีตเจ้าอาวาส ณ วิหารประดิษฐานองค์จำลองอดีตเจ้าอาวาสวัดวังปริง จากนั้นร่วมนั่งประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลสภาพพื้นที่ของตำบลเขามีเกียรติ ข้อมูลประวัติ และอัตลักษณ์ของพื้นที่บ้านวังปริง พร้อมรับทราบโครงการขององค์การบริหารส่วนตำบลเขามีเกียรติที่กำลังดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อขอรับการสนับสนุนจากจังหวัดในการผลักดันโครงการ รวมทั้งถอดบทเรียนการขับเคลื่อนเป็นต้นแบบในการสร้างหมู่บ้านสะอาดอย่างยั่งยืน โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบถุงยังชีพแก่ครัวเรือนเปราะบาง ก่อนเยี่ยมชมบูธจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่เพื่อเป็นขัวญกำลังใจ
วันนี้ (22 มีนาคม 2567) เวลา 08.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งและฟาร์มทะเลชุมชนบ้านใหม่ (บ้านปลาหมายเลข 9) หมู่ที่ 1 ตำบลสทิงหม้อ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เพื่อรับทราบปัญหาและประชุมหารือเพื่อวางแนวทางปฏิบัติ ในการผลักดันกติกาชุมชนให้เป็นนโยบายสาธารณะ สู่การต่อยอดขยายพื้นที่อนุรักษ์เขตอนุรักษ์พันธุ์ปลาให้ครอบคลุมพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา โดยมี นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร นายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงหนคร นายชัยยศ ฤทธิโก ประธานกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งและฟาร์มทะเลชุมชนบ้านใหม่ ตลอดจนอิหม่ามประจำมัสยิดอีมาดลดีด และสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมปล่อยพันธุ์ปูม้าและปลากะพงในเขตอนุรักษ์ฯ ก่อนเริ่มการประชุม
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำทีมงาน ทั้งสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา สำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาสงขลา นายอำเภอสิงหนคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงมาเยี่ยมกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งและฟาร์มทะเลชุมชนบ้านใหม่ ถือว่าเป็นกลุ่มที่ทำการอนุรักษ์ในเรื่องของสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นจุดขายในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ตามที่จังหวัดสงขลากำลังขับเคลื่อน โดยต้องอาศัยให้ภาคราชการได้ลงมาสนับสนุนและพัฒนาต่อไป
วันนี้ (13 มี.ค.67) เวลา 18.00 น. ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมละศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน ประจำปี 2567 (ฮ.ศ.1445) โดยมี นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นางญาณิน สุริยะวงศ์ ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และพี่น้องชาวมุสลิมเข้าร่วม
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา กล่าวว่า ในเดือนรอมฏอน พระผู้เป็นเจ้าได้ประธานพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่านเป็นทางนำในการดำเนินชีวิตให้กับมนุษย์ โดยเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งความประเสริฐกว่าทุกๆ เดือน เพื่อให้ผู้ศรัทธาทั้งหลายได้ถือศีลอด และปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้สำรวมตน ดำรงตนและขัดเกลาจิตใจให้คิดเห็นแต่สิ่งดีงามภายใต้คำสอนของศาสนา ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีงานวิจัยทางการแพทย์ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ไม่ได้ก่อให้เกิดความเจ็บป่วย แต่สามารถทำให้ร่างกายได้พักผ่อน ลดการย่อยอาหารที่ไม่จำเป็นในร่างกายได้ เพื่อพร้อมที่จะ reboot ร่างกายเปิดเครื่องให้กลไกในร่างกายได้เริ่มกระบวนการผลิตเซลล์ใหม่ ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง
ช่วงค่ำวันนี้ (11 มี.ค. 67) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรคนสงขลาคนต้นแบบ ประจําปี 2567 ในงาน “วันสงขลา” เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจแก่ผู้เป็นแบบอย่างที่ดีในการทำความดี ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคม และส่วนรวม โดยมีนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ นายอำเภอ และประชาชนเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการคัดเลือก “คนสงขลา คนต้นแบบทั้ง 16 อำเภอ โดยได้มีการมอบไปแล้ว 4 อำเภอ และในวันนี้จะเป็นการมอบอีก 12 อำเภอ จำนวน 84 ราย โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวแสดงความยินดีและกล่าวชื่นชมผู้ที่ได้รับเกียรติบัตร “คนสงขลาคนต้นแบบ” ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นบุคคลผู้กระทำความดี ทำประโยชน์เพื่อสังคม อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมและมีผลงานเป็นที่ยอมรับ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้ร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริมคุณธรรมในพื้นที่ และเป็นพลังสำคัญร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริมคุณธรรมของประเทศสืบไป
ช่วงเช้าวันนี้ (10 มี.ค. 67) ที่บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถนนนางงาม อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ เนื่องในวันสงขลา 10 มีนาคม 2567 โดยมีนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชนชาวสงขลาเข้าร่วม เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณของบรรพชนที่ล่วงลับ และความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ตามที่จังหวัดสงขลา ได้กำหนดให้วันที่ 10 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสงขลา โดยเริ่มนับจากวันที่วางเสาหลักเมืองจังหวัดสงขลา ณ ศาลหลักเมืองสงขลา ถนนนางงาม อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเป็นเสาหลักเมืองไม้ชัยพฤกษ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ปรากฏจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลา 182 ปี พร้อมกันนี้ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมงาน ”วันสงขลา“ ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี และร่วมกันสร้างความภาคภูมิใจ สร้างจิตสำนึกรักบ้านเกิด ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน รวมทั้งสร้างพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาร่วมกันของชาวสงขลาไม่ว่าจะเป็นคนสงขลาโดยกำเนิด มาพำนักพักพิง ศึกษาเล่าเรียน ประกอบอาชีพ รวมถึงคนสงขลาที่อยู่แดนไกล
วันที่ 8 มี.ค. 67 ที่ ห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นางทัศนีย์ ผลชานิโก ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 5 พร้อมคณะ ในโอกาสเป็นมาประธานประชุมการตรวจราชการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2567 รอบที่ 1 โดยมี นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นางสาววิลาวรรณ โป้บุญส่ง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
เช้าวันนี้ (7 มี.ค. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6 – 8 มีนาคม 2567 โดยมีนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ ในฐานะนายกสมาคมสันนิบาติเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคลากรของเทศบาลทุกระดับจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คน ณ ห้องประชุมโรงแรมบีพี สมิหลาบีช อำเภอเมืองสงขลา
นายรอเช็ง ไหรเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว ในฐานะประธานสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ กล่าวว่า สันนิบาตเทศบาลภาคใต้ มีสมาชิกทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ รวมจำนวน 346 เทศบาล โดยมีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการวิจัย การฝึกอบรมการประชุมหรือสัมมนาทางวิชาการ การบรรยายพิเศษ การศึกษาดูงานและการพัฒนาคุณภาพ การจัดบริการสาธารณะของเทศบาล ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเทศบาล และพัฒนาระบบการเมืองท้องถิ่นด้วยระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ
วันนี้ (4 มีนาคม 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ไปเก็บรักษาภายในห้องพระแสงราชศัสตรา ประจำมณฑลนครศรีธรรมราช ได้รับพระราชทานในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐาน ณ สำนักงานคลังจังหวัดสงขลา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา
“พระพุทธนวราชบพิตร” พระพุทธนวราชบพิตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 23 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร ที่บัวฐานด้านหน้าบรรจุพระพิมพ์พระสมเด็จจิตรลดาไว้อีกองค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระราชดำริสร้างพระราชทานเป็นพระประจำจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2508 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ศ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ นายช่างกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ปั้นหุ่นพระพุทธนวราชบพิตร ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และทรงพระพุทธลักษณะด้วยพระองค์เองจนพอพระราชหฤทัยแล้ว จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เททองหล่อพระพุทธรูป เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2509
ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรให้เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัด ประดิษฐานไว้ ณ ศาลากลางจังหวัดของทุกจังหวัด และเป็นพระพุทธรูปประจำหน่วยทหาร ประดิษฐานไว้ ณ กองบัญชาการหน่วยทหาร โดยจังหวัดแรกที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตร ก็คือ “จังหวัดหนองคาย” ได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2510
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 พร้อมนำหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมเปิดป้ายสำนักเลขาธิการการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์เพื่อสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วม และการเป็นเจ้าบ้านที่ดี
วันนี้ (28 ก.พ. 67) เวลา 07.40 น. ที่บริเวณหน้าเสาธงสนามกีฬาติณสูลานนท์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายพรรณภพ อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา และ นายประสงค์ บริรักษ์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา ร่วมกิจกรรมเสวนาการเตรียมความพร้อมในฐานะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และชลบุรี ในระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ภายใต้คำขวัญ “Move ever Forward” ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง โดยมีคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวสงขลาที่สวมใส่เสื้อสงขลาเมืองกีฬาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ทั้งในเรื่องของสถานที่ การประชาสัมพันธ์ รวมทั้งด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้มีการแบ่งมอบหมายงาน ประชุมติดตามผลการดำเนินงาน ตลอดจนปัญหา อุปสรรค และข้อขัดข้องต่างๆ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเป็นเมืองกีฬา ในเรื่องของการเป็นเตรียมการเป็นเจ้าภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกเหนือจากการกีฬา เราต้องมีการพัฒนาเมือง ทั้งการประดับตกแต่ง การทําความสะอาด สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการปลูกต้นไม้ เป็นต้น
ช่วงเช้าวันนี้ (26 ก.พ.66) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางไปเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติจังหวัดสงขลา ประจำปี 2567 พร้อมกล่าวคำสดุดีพระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ “พระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย” และอ่านสารนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมี สหกรณ์จังหวัดสงขลา ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดสงขลาและมวลสมาชิกสหกรณ์ เข้าร่วมในพิธี
นายชรินทร แพทยนันทเวช ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดสงขลา กล่าวรายงานว่า ขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดสงขลา ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการดำเนินการ ฝ่ายจัดการ มวลสมาชิกของสหกรณ์ ทุกสหกรณ์ในจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2567 ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 108 ปี สหกรณ์ไทย เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพระกรุณาธิคุณพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย และประชาสัมพันธ์งานสหกรณ์ แสดงพลังความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดสงขลา
โดยได้จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาสหกรณ์สัมพันธ์ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, กิจกรรมวางพานพุ่มถวายสักการะพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสงขลา, กิจกรรมร่วมบริจาคเงินเพื่อการสาธารณประโยชน์ให้กับโรงพยาบาล โรงเรียน วัด ในพื้นที่ 16 อำเภอ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 459,590 บาท นอกจากนี้ยังได้จัดโครงการบริจาคโลหิตต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ เนื่องในวันสหกรณ์แห่งชาติ ปี 2567 ระหว่างวันที่ 16 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงพยาบาลหาดใหญ่ , การคัดเลือกสหกรณ์ดีเด่น นักสหกรณ์ดีเด่นระดับจังหวัด ประจำปี 2567 เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ เผยแพร่ผลงานดีเด่นให้ปรากฏต่อสาธารณชน และเป็นแบบอย่างแก่สหกรณ์อื่น รวมทั้งการพัฒนา ยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
วันนี้ (24 ก.พ. 67) เวลา 13.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในโรงเรียนเทศบาลตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดาพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครู นักเรียน จิตอาสาพระราชทานและประชาชนจิตอาสาเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
โดยในพิธี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคต พระองค์ทรงตามเสด็จรบเคียงคู่พระราชบิดาปกป้องพาราทั้งแผ่นดิน ทรงวางยุทธศาสตร์พัฒนาเพื่อปวงประชาไว้ทั้งสิ้น ทั้งยุทโธปกรณ์ การอยู่กิน ยุคแห่งศิลปกรรมประจำเมือง ทรงพระปรีชาสามารถพระราชนิพนธ์วรรณกรรมมากมาย เช่น ขุนช้างขุนแผน สังข์ทอง อิเหนา และรามเกียรติ์ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระองค์ทรงห่วงใยคุณภาพชีวิตของอาณาประชาราษฎร์ ซึ่งพากันสูบฝิ่น ขายฝิ่น จากพ่อค้าที่ลักลอบ นำเข้ามาตั้งแต่ต้นกรุง จึงทรงตรากฎหมายห้ามสูบซื้อขายฝิ่น โดยกำหนดบทลงโทษไว้อย่างหนัก และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ คณะรัฐมนตรี จึงได้ประกาศให้วันคล้ายวันพระราชสมภพฯ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันศิลปินแห่งชาติ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเอกอัครศิลปินที่ยิ่งใหญ่ ผู้มีพระอัจฉริยภาพในงานศิลปะหลากหลายสาขา
ช่วงบ่ายวันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดท่าหยี ตำบลห้วยลึก อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการชุมชนล้อมรักษ์ อำเภอควนเนียง ในการนี้ได้รับความเมตตาจากพระอธิการยงยุทธ ปิยสีโล เจ้าอาวาสวัดท่าหยี และมี นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอควนเนียง หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยลึก กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลห้วยลึก คณะวิทยากร และประชาชนเข้าร่วม
นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอควนเนียง กล่าวรายงานว่า โครงการชุมชนล้อมรักษ์ อำเภอควนเนียง เป็นโครงการที่เกิดจากการร่วมมือทั้งส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่ ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหายาเสพติด โดยองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยลึก ได้จัดทำโครงการชุมชนล้อมรักษ์ตำบลห้วยลึก หรือชุมชนบำบัดยาเสพติด ปี 2567 (CBTx) พร้อมทั้งได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการตามโครงการนี้ โดยมีคณะวิทยากรในการดำเนินโครงการ ทั้งจากส่วนราชการในพื้นที่และปราชญ์ชาวบ้าน ในการร่วมกันกำหนดแผนและหลักสูตรในการอบรม เพื่อให้เข้ากับบริบทของพื้นที่ ผู้เข้าร่วมโครงการชุมชนล้อมรักษ์ในครั้งนี้มาจากพื้นที่หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ตำบลห้วยลึก โดยเกิดจากการเข้าไปทำความเข้าใจของผู้นำและประชาชนในพื้นที่ ให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะ ลด ละ เลิก จากยาเสพติด ทุกคนจึงได้สมัครใจเข้ามาร่วมโครงการชุมชนล้อมรักษ์ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ตั้งไว้ คือ เพื่อพัฒนาแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด หมู่ที่ 6 บ้านท่าหยี หมู่ที่ 7 บ้านท่าประบ่า ตำบลห้วยลึก อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา โดยชุมชนมีส่วนร่วม และเพื่อให้ผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดได้รับการจำแนกคัดกรอง และนำเข้าสู่การบำบัดรักษา พื้นฟู รับ -ส่งต่อ และดูแลช่วยเหลืออย่างมีคุณภาพ
จากกรณีเหตุ รถกระบะซิ่ง เสียหลักพุ่งชนศาลาในหมู่บ้าน ขณะที่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนบ้านพรุเตียว ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กำลังทำกิจกรรมเข้าฐานลูกเสือในกิจกรรม การเดินทางไกล บริเวณศาลาหน้าโรงเรียนฯ เป็นเหตุให้นักเรียนและครู ได้รับบาดเจ็บจำนวน 13 ราย และเสียชีวิต 2 ราย นั้น
ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (21ก.พ.67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาด ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน 8 ราย โดยขณะนี้มีนักเรียนที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 3 ราย และอาการปลอดภัยแล้ว อยู่ระหว่างประเมินการรักษาเพิ่มเติม จำนวน 5 ราย พร้อมกันนี้ได้มอบกระเช้าเยี่ยม และกล่าวแสดงความห่วงใยกับนักเรียน รวมทั้งครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือทุกครอบครัวอย่างเต็มกำลังความสามารถ
วันนี้ (21 ก.พ. 67) เมื่อเวลา 10:30 น เกิดอุบัติเหตุรถปิคอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผพ 3731 สงขลา ขับมาบนถนนสายพรุเตียว ทางไปโรงเรียนบ้านพรุเตียว หมู่ที่ 5 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยรถคันดังกล่าวได้เสียหลักข้ามคูไปชนเข้ากับกลุ่มเด็กนักเรียนลูกเสือ จำนวน 20 คน ที่กำลังเข้าค่ายที่ฐานปฏิบัติการที่ 2 ในศาลาประจำหมู่บ้านริมถนน ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที จำนวน 2 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา
โดยหนึ่งในครูที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุครูและนักเรียนกำลังทำกิจกรรม อยู่รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาด้วยความเร็ว และเสียหลักข้ามคู พุ่งตรงไปยังเด็กนักเรียนที่อยู่ภายในศาลาของหมู่บ้านโดยไม่ทันได้ระวังตัว พุ่งชนเข้ากับรั้วศาลาจนหัก และกวาดร่างเด็กนักเรียนไปชนกับต้นไม้ บางคนก็ตกลงไปในคูน้ำจนมีเด็กเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งคุณครู เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก โดยมีชาวบ้านออกมาทำการช่วยเหลือและเรียกกู้ภัยของเทศบาลตำบลสำนักขามมารับตัวเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลสะเดาเป็นการด่วน
ผู้บาดเจ็บจำนวน15 คนที่โรงพยาบาลสะเดา ทั้งหมดซึ่งประกอบด้วย ด.ช. มุสตากีม บาราเฮีย ด.ญ.นิฮาริด แยบาซอ ด.ช.ณัฐนันท์ พูลดวง ด.ญ.อัสนานี หลังปูเต๊ะ ด.ญ.ดวงแข คุณธรรม ด.ญ.ณัฐวรา พูลดวง ป.2 ด.ช.อัศดินย์ นิยมเดชา ฯ และคุณครูพัชรี อินทะเล อายุ 42 ปีได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุคนขับรถกระบะชื่อนายวิษณุ ทองสาย อายุ35 ปี เป็นชาวหมู่บ้านพรุเตียว หมู่ที่5 ต.สำนักขาม เป็นบุตรชายอดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้เดินทางไปมอบตัวกับ ร.ต.อ.สายชล สุภาพเจริญกุล รอง.สว.สอบสวน สภ.สะเดา หลังจากกลับจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนาวิน รอง ผกก.ป.สภ.สะเดา ร่วมเดินทางมาช่วยเหลืออำนวยการจราจรและตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งรายงานให้ พ.ต.อ.สุรจิตร เพชรจอม ผกก สภ.สะเดา ทราบ
วันนี้ (19 ก.พ. 67) เวลา 09.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สวนธรรมพัฒนาจิต หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งขมิ้น อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เข้ากราบนมัสการและถวายสังฆทานแด่พระครูปลัดกรวิก ปัญญาทีโป พร้อมร่วมรับฟังบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี “ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง”บ้านทุ่งโพธิ์ อำเภอนาหม่อม โดยมี รศ.ดร.จรัสศรี นวลศรี คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นวิทยากรให้ความรู้
รศ.ดร.จรัสศรี นวลศรี กล่าวว่า อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ชาวบ้านนิยมปลูกทุเรียนพื้นบ้านร่วมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ยางพารา เงาะ ลองกอง และไม้ผลพื้นบ้านชนิดอื่นๆ มาเป็นเวลานานตามวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในพื้นที่ ทุเรียนบ้านในพื้นที่อำเภอนาหม่อมเป็นที่กล่าวขานว่ามีรสชาติดี จากการลงสำรวจพื้นที่พบความหลากหลายของสายพันธุ์ทุเรียนพื้นบ้านค่อนข้างมาก และหลายสายพันธุ์มีลักษณะและรสชาติดี มีศักยภาพ ที่สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ ได้แก่ สายพันธุ์นางงาม และทองทุ่งโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันแต่ละสายพันธุ์มีเพียงต้นเดียว มีอายุมากแล้ว และโอกาสที่จะสูญพันธุ์เป็นไปได้ค่อนข้างสูง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องศึกษาพันธุ์ ขยายพันธุ์ทุเรียนที่มีลักษณะและคุณภาพดีไว้ไม่ให้สูญหายไป
ช่วงบ่ายวันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการส่งเสริมมะพร้าวน้ำหอมจังหวัดสงขลา ณ สวนมะพร้าวผู้ใหญ่เอ็ม อ.สทิงพระ จ.สงขลา พร้อมประชุมรับฟังการรายงานสถานการณ์การผลิตและการส่งเสริมมะพร้าวน้ำหอม รับฟังประเด็นปัญหาจากผู้แทนเกษตรกร และมอบแนวทางการพัฒนาคุณภาพมะพร้าวน้ำหอม โดยมี นายปารเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอสทิงพระ นายธัชธาวินท์ สะรุโณ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเกษตร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้ประกอบการ และเกษตรกรในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “วันนี้ถือโอกาสลงมาเยี่ยมชมกระบวนการส่งเสริมมะพร้าวน้ำหอม “มะพร้าว” เป็นพืชที่เหมาะกับการปลูกในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ และเมื่อทำแล้ว สิ่งสำคัญคือเรื่องของคุณภาพ ที่จะพัฒนาอย่างไรให้มีคุณภาพอย่างแท้จริง สามารถสู้กับตลาดทั้งภายในประเทศและนอกประเทศได้ อีกทั้งกระบวนการที่ทำแล้วให้ได้ราคาดี เหมาะสม เกิดความเป็นธรรม เป็นที่ยอมรับของตลาด สู่การยกระดับราคาที่สูงขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกิจกรรม Kick Off ปล่อยแตนเบียนกำจัดหนอนหัวดำมะพร้าว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 สงขลา พร้อมพบปะกลุ่มเกษตรกรมะพร้าวน้ำหอมแปลงใหญ่ และเยี่ยมชมสวนผู้ใหญ่เอ็ม ของนายอภิชาติ ยุพงค์ ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังจุดรับซื้อมะพร้าวน้ำหอมสิริวัฒน์การเกษตร เพื่อส่งโรงงานอุตสาหกรรมและเพื่อการส่งออก ของนายสิริวัฒน์ โหรารัตน์ พร้อมรับฟังการรายงานสถานการณ์การและชมระบบการซื้อ-ขาย มะพร้าวน้ำหอมอีกด้วย
ที่ โรงเรียนศรีนครมูลนิธิ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงานเทศกาลตรุษจีนปี 67 โดยมีนายอัคนันท์ กิตนนท์ชนันธ์ ประธานจัดงานฯ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมจำนวนมาก
การจัดงานปีนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปีที่ผ่านมา ภายในงานประดับตกแต่งไปด้วยประติมากรรม หุ่นโคมไฟปีนักกษัตรต่าง ๆ โคมไฟเต็งลั้งสีแดงทั่วบริเวณ มีมุมถ่ายรูปเช็คอินมากมาย พร้อมทั้งการแสดงอีกหลากหลาย ทั้ง การเชิดสิงโต มังกรพ่นไฟ สิงโตเล่นจานดอกเหมย การแสดงบนเวที และมีการอัญเชิญพระโพธิสัตว์กวนอิมเพื่อสักการะขอพรเสริมสิริมงคลในปีมังกรนี้ รวมถึงยังมีการประกวดมิสไชนีสหาดใหญ่ การแสดงคอนเสิร์ตจากนักร้องศิลปินชื่อดัง
นอกจากนี้รอบ ๆ บริเวณงานยังมีสตรีทฟู๊ดจำหน่าย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม โดยงานดังกล่าวจัดตั้งแต่วันนี้ (9 ก.พ.) ถึง 13 ก.พ. 67
ทั้งนี้ การจัดงานเทศกาลตรุษจีนหาดใหญ่ ประจำปี 2567 เพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ในช่วงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน
เย็นวันนี้ (6 ก.พ. 67) จังหวัดสงขลา โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนางานด้านการประชาสัมพันธ์ ระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน กับสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ผ่านโครงการพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีจังหวัดสงขลาประจำปี 2567 ภายในงานมีการจัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อ “สื่อมวลชนยุคดิจิทัลกับทิศทางการนำเสนอข่าวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้จังหวัดสงขลา นำโดยนายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายปฐมพงศ์ แก้วบันดิษฐ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นางสาวชฎาพร ชัยขันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายรายการและข่าว ไฮเคเบิลทีวีจังหวัดสงขลา และดำเนินรายการเสวนาโดยนางสาวธัญวรรณ จิระโร นักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ สวท.สงขลา ซึ่งมีสื่อมวลชนจากแขนงวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุม KING A โรงแรม ลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา
จากนั้นในเวลา 18.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์พัฒนาเครือข่าย ภายใต้โครงการพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ที่ดีจังหวัดสงขลา พร้อมพบปะพูดคุยกับพี่น้องสื่อมวลชนจังหวัดสงขลา และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โลกยุคข้อมูลข่าวสารการสื่อสารมีความสำคัญต่อประชาชน สื่อมวลชนจึงยังคงมีบทบาทในการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนในทุกระดับสังคม ผ่านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ รวมถึงโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมาก ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ก็สามารถบันทึกภาพนิ่ง เสียง วีดิโอและตัดต่อ จนมีวาทกรรมว่า “ยุคดิจิทัล ใคร ๆ ก็เป็นสื่อได้” ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นสื่อมวลชนก็ยังเป็นสถาบันหลักในการสื่อสารเพราะเนื่องจากเป็นหน่วยงานมีความถูกต้อง ชัดเจนและเชื่อถือได้
วันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการเตรียมเปิดอาคารศาลแขวงสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา โดยได้ตรวจความพร้อมด้านห้องประทับรับรอง, ห้องรับรองทหารรักษาพระองค์ และพื้นที่โดยรอบ ทั้งนี้เพื่อให้การรับเสด็จเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
27 มกราคม 2567 ที่ ลานกิจกรรม ศูนย์การค้าไดอาน่าคอมเพล็กซ์ จำกัด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดตัวแอปพลิเคชัน Tip 2 Traveller ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย บริษัท สมาทต์ทิไฟท์ โซเชียล บิลเดอร์ จำกัด มี คุณพิมพ์พิชา ศรีสถิตวงศ์ ที่ปรึกษาฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สมาทต์ทิไฟท์ โซเชียล บิลเดอร์ จำกัด ขึ้นกล่าวถึงความเป็นมาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยกล่าวว่า… แอปฯ Tip 2 Traveller ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้านการท่องเที่ยว และการประกอบธุรกิจในยุคดิจิทัล นำเทคโนโลยีใหม่อย่าง Ai เข้ามาใช้ในแอปฯ อันจะเกิดประโยชน์ต่อการลงทุนของภาคเอกชน ส่งผลดีต่อภาครัฐ และภาคประชาชน เนื่องจากเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง สถานบันเทิง ร้านนวดแผนไทย สปา-บริการด้านสุขภาพ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงกำหนดการจัดงานเทศกาลประเพณีต่าง ๆ ในพื้นที่ผ่านเพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และยังแก้ปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติ เพราะแอปฯ Tip 2 Traveller สามารถเปลี่ยนภาษาไทยถึง 4 ภาษา ไทยแก่ ไทย จีน มาเลเซีย และภาษาอังกฤษ ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองใช้มาระยะหนึ่ง…มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วราว 150,000 คน โดยบริษัทได้ตั้งเป้าไว้ภายในปี 2568 จะมีผู้ดาวน์โหลดใช้งานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และเตรียมแผนที่จะขยายพื้นที่บริการแพลตฟอร์มไปทั่วประเทศและทั่วโลก
ด้าน นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เรามีทรัพยากรที่สมบูรณ์ มีอาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์ จนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวมาเลเซีย ขอบคุณ บริษัท สมาทต์ทิไฟท์ โซเชียล บิลเดอร์ จำกัด และภาคเอกชนที่เห็นความสำคัญพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วไปรู้จักจังหวัดสงขลามาขึ้น ส่วนตัวในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จริง ๆ อยากให้มีแอปฯ ที่บรรจุข้อมูลที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเเบบนี้เกิดขึ้นนานแล้ว เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกนำทางนักท่องเที่ยวไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเมื่อเข้ามาถึงพื้นที่ นอกจากนี้หากเป็นไปได้ขอเสนอให้จัดกลุ่มเเหล่งท่องเที่ยว เช่น สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม และอื่น ๆ ออกเป็นหมวดหมู่ หรือรวบรวมสินค้าตามฤดูกาล Otop เเต่ละพื้นที่ไว้ด้วยก็จะดีมาก ทั้งนี้ทางจังหวัดเองก็ได้ให้ที่ปรึกษาเร่งออกแบบการท่องเที่ยวชุมชนให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้กระจายตัวจากเมืองใหญ่ออกไปสร้างรายได้ให้ประชาชนในอำเภออื่น ๆ และอยากให้สิ่งเหล่านี้ถูกบรรจุลงไปในแอปพลิเคชันด้วย เพื่อความครบถ้วนของข้อมูลในการให้บริการครอบคลุมทุกมิติ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากอำเภอหาดใหญ่ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งจังหวัดสงขลา
วันนี้ (27 ม.ค. 67) ที่ บริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดถนนคนเดินตรุษจีนนางงาม 2567 โดยมีนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา ส่วนราชการ สมาคมฮกเกี้ยนสงขลา ภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงประชาชนเชื้อสายจีนในจังหวัดเข้าร่วมงาน
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และแขกที่มาร่วมงาน ได้ทำพิธีสักการะเจ้าพ่อหลักเมือง เจ้าพ่อกวนอู และทวยเทพเพื่อเสริมสิริมงคล ภายในงานผู้เข้าร่วมงานต่างสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้งานจัดเป็นระยะ 8 วัน 8 คืน ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00-21.30 น. บริเวณถนนนางงาม ตั้งแต่ช่วงแยกถนนยะลาถึงหัวถนนนางงาม ข้างวัดยางทอง ซึ่งในช่วงดังกล่าว คณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลาได้จัดให้มีการเปิดศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและศาลเจ้าพ่อกวนอู จนถึงเวลา 22.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความศรัทธาได้เข้ามาสักการะบูชา ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ซึ่งภายในงานยังมีขนม อาหารพื้นเมือง และของดีของจังหวัดสงขลา มาจัดจำ หน่ายและมีการแสดงของอุปรากรจีน(งิ้ว)ทุกคืน
วันที่ 25 มกราคม 2567 ณ ห้องประชุม 1 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ประจำปีงบประมาณ 2567 จัดโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) จัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธาน
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 วัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ และสถานการณ์ของภัยคุกคามที่มาในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งพัฒนาระบบบริหารจัดการในการวางแผน ประสานงานบูรณาการ ให้บรรลุเป้าหมาย รองรับภัยคุกคามในปัจจุบันและอนาคต และหาทางแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ นำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง โดยในการประชุมมีการแนะนำคณะกรรมการอำนวยการฯ ที่ปรับย้ายมารับราชการใหม่ การบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการข่าว และแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กอ. รมน. ภาค 4 ปี 2567 โดยในการประชุม มีการหยิบยกประเด็นการบริหารจัดการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติด และการบริหารจัดการคนไร้ที่พึ่งในพื้นที่ภาคใต้มาให้ที่ประชุมร่วมพิจารณา โดย พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เน้นย้ำนโยบายของนายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการบูรณาการการปฏิบัติงานกับทุกภาคส่วน ถือผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง และเน้นย้ำในเรื่องการจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดก่อนเข้าสู่ภาคใต้ การนำเครือข่ายมวลชนมาช่วยดูแลพื้นที่ การปฏิสัมพันธ์กับมวลชน รวมทั้งเข้มงวดการจับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายทางฝั่งทะเลอันดามัน ในด้านงบประมาณ เน้นย้ำการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและตรวจสอบได้ และให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมปลูกฝังทัศนคติเยาวชนให้มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ภาค 4 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ช่วงเช้าวันนี้ (22 ม.ค. 67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออก ณ ศาลาประชาคมบ้านคลองเตย ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสาพระราชทาน กำลังพลจิตอาสา เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันโรคไข้เลือดออกในครั้งนี้ เน้นการรณรงค์พัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชนและพื้นที่สาธารณะ สำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย รวมถึงมีการแจกทรายอะเบท การมอบเคมีภัณฑ์ในการควบคุมโรคไข้เลือดออกแก่ตัวแทนประธานชุมชน และปล่อยขบวนรณรงค์จิตอาสาเพื่อร่วมสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาดของบ้านเรือน โดยช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย พาหะนำโรคไข้เลือดออกไม่ให้แพร่กระจายการระบาดอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลรายงานเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 17 มกราคม 2567 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในจังหวัดสงขลา รวมจำนวน 486 ราย โดยเป็นผู้ป่วยอำเภอหาดใหญ่ จำนวน 200 ราย เสียชีวิต 1 ราย และยังคงพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องกระจายไปในทุกอำเภอ ส่วนกลุ่มอายุที่พบสูงสุด คืออายุ 10-14 ปี และอาชีพที่พบสูงสุดคือ อาชีพนักเรียน
วันนี้ (17 ม.ค. 67) เวลา 13.30 น. ที่บริเวณหาดปากบางภูมี ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ถวายพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งตรงกับวันที่ 17 มกราคมของทุกปี โดยมีนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอควนเนียง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสาพระราชทาน กำลังพลจิตอาสา คณะครู และนักเรียน เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเทิดพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่มีต่อปวงชนชาวไทย
โดยในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวคำน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ความว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในสมัยสุโขทัย ตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคต ทรงทำนุบำรุงปกครองบ้านเมืองด้วยพระเมตตาธรรมต่อไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ ทรงสร้างสรรค์มรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญๆ ของชาติไว้อย่างอเนกอนันต์ มรดกของชาติที่สำคัญที่สุดก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1826 อันเป็นต้นกำเนิดของอักษรไทยที่ใช้กันในทุกวันนี้
วันนี้ (8 ม.ค. 67) เวลาประมาณ 10.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย กว่า 100 คน ที่ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีเทศบาลนครสงขลา ได้ดำเนินการจัดเก็บรายได้ในอัตราใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสและเที่ยงธรรม
สำหรับข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พ่อค้า – แม่ค้า หาบแร่แผงลอย ประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ โดยขอให้จังหวัดสงขลาจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พ่อค้า – แม่ค้า หาบแร่แผงลอย ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธาน และมีตัวแทนผู้ได้รับความเดือดร้อนทุกกลุ่มเป็นคณะกรรมการ
พร้อมทั้ง ให้ทางเทศบาลนครสงขลา ยุติการดำเนินการกำหนด และจัดเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่า และค่า อื่นๆ กับผู้ประกอบการฯภาคส่วนต่างๆ ไว้เป็นการชั่วคราวในทันที จนกว่าคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการฯ ตามข้อ 1 ดำเนินการแล้วเสร็จ และให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พ่อค้า – แม่ค้า หาบแร่แผงลอย ในเขตพื้นที่เทศบาลนครสงขลา ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงาน ออกร้านจำหน่ายสินค้า หรือ งานอีเว้นท์ ต่างๆ ที่ทางเทศบาลนครสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จังหวัดสงขลา ดำเนินการจัดขึ้นในเขตพื้นที่เทศบาลนครสงขลา ในอัตราค่าเช่าที่เป็นธรรม
ช่วงบ่ายวันนี้ (1 ม.ค.67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา และคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา ซึ่งอยู่ในช่วงการควบคุมเข้มข้น ภายใต้หัวข้อ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.66 – 4 ม.ค.67 โดยบรรยากาศวันนี้ การสัญจรปริมาณรถเริ่มหนาแน่น เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ออกเยี่ยมจุดตรวจหลัก จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณสามแยกท่าหรั่ง ตำบลทุ่งลาน อำเภอคลองหอยโข่ง จุดที่ 2 หน้าสถานีตำรวจภูธรคลองแงะ อำเภอสะเดา จุดที่ 3 หน้าป้อมศูนย์ปฏิบัติการจราจร สถานีตำรวจภูธรสะเดา ตำบลสะเดา อำเภอสะเดา จุดที่ 4 หน้าที่ว่าการอำเภอนาทวี อำเภอนาทวี จุดที่ 5 หน้าสถานีตำรวจภูธรควนมีด อำเภอจะนะ และจุดที่ 6 หน้าแขวงทางหลวงสงขลาที่ 2 อำเภอนาหม่อม โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เสียสละเวลาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สัญจรไปมาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 อีกทั้งยังได้กำชับให้ดำเนินการกวดขันกับผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง รวมถึงตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน
ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา ได้กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมปฏิบัติ ตั้งเป้าให้ลดอุบัติเหตุ ลดอัตราการเสียชีวิต และการบาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางคมนาคม การสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงไฟฟ้าส่องสว่าง และการปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ในส่วนของยานพาหนะได้เตรียมความพร้อมสภาพรถเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมทั้งตั้งจุดบริการประชาชน จุดสกัดกั้น และจุดตรวจหลักที่ดูแลบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎข้อบังคับ ตลอดจนกระตุ้นเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ตระหนักและมีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งการปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมนับถอยหลังเข้า สู่ศักราชใหม่ปี 2567 “HATYAI COUNTDOWN 2024” ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวนับหมื่น ซึ่งปีนี้เทศบาลนครหาดใหญ่จัดเต็มทั้งแสง สี เสียง หวังสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองหาดใหญ่ให้กลับมาคึกคักหลังโควิด 19
บรรยากาศคืน COUNTDOWN ที่ สวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (31 ธันวาคม 2566) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงานนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ ปีมะโรง 2567 ร่วมกับพี่น้องชาวหาดใหญ่เเละนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนับหมื่นคน โดยมีพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดสงขลา ส่วนราชการและภาคเอกชนเข้าร่วม
สำหรับงาน “HATYAI COUNTDOWN 2024” เป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนชาวสงขลาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่างให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยวชมแสงสีเสียงในตัวเมืองหาดใหญ่กันอย่างคับคั่ง โดยไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี คือ บรรดาไฟประดับ ซึ่งปีนี้เทศบาลนครหาดใหญ่ได้เนรมิตให้ทั่วทั้งบริเวณของสวนหย่อมฯ กลายเป็นมุมถ่ายรูปมีทั้งลานไฟ สวนดอกไม้ อุโมงค์ไฟ รวมถึงตุ๊กตาหมีไฟเป่าลมเเลดูน่ารักเป็นที่ถูกใจของผู้พบเห็น เปิดพื้นที่ Walking Street, อาหารพื้นถิ่นของกินขึ้นชื่อ ขนบรรดา Food Truck ชื่อดังมาจำหน่ายอาหารให้ผู้มาเยือนได้เลือกรับประทานชนิดที่ว่า…อิ่มอร่อยตลอดงาน
นอกจากนี้ ยังมีฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปิน Gavin D, Anatomy Rabbit ,Dr.Fuu ดีเจชื่อดังระดับโลก อย่าง Honey Gee และ Filipe Zona ให้คนหาดใหญ่ได้สนุกสนานแดนซ์กันข้ามปี ส่วนที่ ณ ลานพระพุทธมงคลมหาราช สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ปีนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางขึ้นไปชมวิวเมืองหาดใหญ่ยามค่ำคืน ฟังเพลงชิลล์ ๆ ชมสีสันของพลุเมืองหาดใหญ่ได้ตลอดทั้งคืน
วันนี้ (28 ธ.ค. 66) เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมเปรม 100 ปี โรงเรียนมหาวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาดอกไม้ และถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ครบรอบ 127 ปี โดยมีนายวัฒนา ถนอมศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ คณะครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักเรียนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
โดยนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวราชสดุดีรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พุทธศักราช 2423 ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรม ราชินีนาถ ทรงพระนามเดิมว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า มหาวชิราวุธ”
ตลอดระยะเวลา 15 ปี แห่งการครองราชย์ เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง พระราชกรณียกิจของพระองค์ ทรงมุ่งหมายที่จะนำพาประเทศสยามไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศ ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การสาธารณสุข การต่างประเทศ กิจการลูกเสือไทย และการศึกษา นอกจากนี้ พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในด้านอักษรศาสตร์ ทรงมีงานพระราชนิพนธ์มากกว่า 1,200 เรื่อง ปวงชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันเฉลิมพระราชสมัญญาภิไธยให้ปรากฏพระเกียรติคุณสืบไปว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” ซึ่งหมายถึงมหาราชผู้ทรงเป็นจอมปราชญ์
วันนี้ (26 ธ.ค.66) ที่หมู่บ้านสิริธารา อามันดา ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและสิ่งของให้กับผู้สูงอายุตำบลเกาะแต้ว พร้อมเปิดอาคารศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลเกาะแต้ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “ร่วมแรง ร่วมใจ ผู้สูงวัย กายใจเบิกบาน” โดยมี นางซูซาน่า วาแม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายรอเซ็ง ไหรเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว นางภาวนา ละมุล ประธานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลเกาะแต้ว ตลอดจนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
เทศบาลตำบลเกาะแต้ว ได้สนับสนุนการดำเนินงานของชมรมผู้สูงอายุแต่ละหมู่บ้านในตำบลเกาะแต้ว ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ประกอบกับภารกิจการเตรียมความพร้อมของประชากรในพื้นที่ในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพผู้สูงอายุและคนพิการเทศบาลตำบลเกาะแต้วขึ้น เมื่อปี 2559 และได้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลเกาะแต้ว จากเดิมมีการดำเนินกิจกรรม ณ สำนักงานเทศบาลตำบลเกาะแต้ว ต่อมาเทศบาลตำบลเกาะแต้วได้รับโอนที่ดินแปลงสาธารณูปโภค ภายในโครงการฯ ให้เป็นสาธารณประโยชน์ จากบริษัท กู๊ด แอสเซท พร๊อบเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นที่ดินส่วนกลาง พื้นที่รวม 1 ไร่ 51.70 ตารางวา ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้าง คสล. ชั้นเดียว ขนาดเนื้อที่ 55 ตารางวา และพื้นที่สวนหย่อม ขนาดเนื้อที่ 396.70 ตารางวา และได้ของบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา จำนวน 1,000,000 บาท ในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร เพื่อใช้เป็นที่ทำการศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลเกาะแต้ว เพื่อเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “ร่วมแรง ร่วมใจ ผู้สูงวัย กายใจเบิกบาน” โดยพัฒนารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุที่ครบวงจร และจัดให้มีศูนย์เบ็ดเสร็จในการดูแลและส่งเสริมอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลเกาะแต้ว
วันนี้ (24 ธ.ค.66) ที่วัดสุวรรณคีรี ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธสุวรรณคีรีศรีสรรเพชญ์ (พระยอดธง) และเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช “รุ่นปราบ” เพื่อสมทบทุนสร้างพระบรมรูปและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยได้รับความเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ) เจ้าคณะใหญ่หนใต้ เจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง จังหวัดตรัง เป็นประธานสงฆ์ โดยพระครูสุเทพธรรมโชติ (อิ้น ธมฺมโชโต) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสงขลา พระครูสุวรรณคีรีสถิตย์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรี พระมหาบุญทิพย์ กิตติโสภโณ เจ้าคณะอำเภอสิงหนคร เจ้าอาวาสวัดธรรมโฆษณ์ และพระเกจิคณาจารย์ ร่วมอธิษฐานจิตเจริญพระพุทธมนต์ พลเรือตรี สุรเชษฎ์ ถาวรขจรศิริ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร นางอุบลวรรณ เม่งช่วย ประธานคณะดำเนินการ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมในพิธีด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
สำหรับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ และเทิดพระเกียรติเมื่อครั้งที่พระองค์ท่านเคยเสด็จฯ มาประทับเมื่อ 252 ปีก่อน และเป็นแห่งแรกของเมืองสงขลาที่ได้มีอนุสาวรีย์รำลึกถึงพระองค์ท่าน โดยขนาดของศาลเป็นอาคารสองชั้น มีความสูง 13.8 เมตร ตัวศาลกว้าง 7.8 เมตร ยาว 10 เมตร มีระเบียงกว้าง 3 เมตรโดยรอบ ยกเว้นด้านหน้าที่มีบันไดขึ้นมีระเบียงกว้าง 5 เมตร
โดยพระพุทธรูปประจำศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ พระพุทธสุวรรณคีรีศรีสรรเพชญ์ (พระยอดธง) เป็นรูปแบบลักษณะพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทรงเครื่องจักรพรรดิ แบบอย่างทางภาคใต้ผสมผสานในยุคอยุธยาแบบอย่างหน้าวัดพระเมรุ (พระพุทธรูปองค์เดียวที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลาย) ยุคกรุงธนบุรี แบบอย่างพระพุทธรูปของเจ้านครน้อย ที่ปั้นในยุคกรุงธนบุรี (ประดิษฐานในวัดพระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช) และพระยอดธงวัดพลับ จันทบุรี เป็นรูปแบบศิลปะและมนต์ขลังของพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองสงขลาอีกองค์หนึ่ง การจัดสร้างได้จัดสร้างจำนวน 2 องค์ องค์แรกจะมองต่ำจะนำไปประดิษฐาน ณ หอพระศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ อีกองค์จะนำไปประดิษฐาน ณ อุโบสถวัดสุวรรณคีรี
ส่วนแบบพระบรมรูปปั้น ทรงชี้พระหัตถ์ขวาลงบนแผ่นดินก่อนยกทัพเรือออกจากเมืองจันทบุรี ไปกรุงศรีอยุธยาเพื่อแผ่นดิน ซึ่งหลวงพ่อเขียน อดีตเจ้าอาวาสวัดกระทิง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เล่าว่าพระองค์ให้พระแม่ธรณีเป็นสักขีพยาน พระบรมรูปมีความสูง 1.98 เมตร ซึ่งจะอัญเชิญประดิษฐานบนพระแท่นในศาล ได้รับแรงบันดาลใจจากพระบรมสาทิสลักษณ์ด้านหลังธนบัตร ฉบับละ 100 บาท ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย ได้นำออกมาใช้เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยได้อัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ซึ่งประดิษฐาน ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เป็นองค์ต้นแบบ
วันนี้ (21 ธ.ค. 66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ณ โรงเรียนคูเต่าวิทยา ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกให้บริการประชาชนที่เจ็บป่วยในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้ได้รับการดูแล และช่วยเหลือด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาคเอกชน อาสาสมัคร พอ.สว. ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ฯ จัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในเชิงรุก โดยนำส่วนราชการทุกส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนออกหน่วยบริการในด้านต่างๆ แก่ประชาชน รวมทั้งให้คำปรึกษากับประชาชน กรณีมีข้อสงสัยในการติดต่อราชการ หรือจะดำเนินการในเรื่องใด ๆ ว่ามีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่มาในวันนี้ ได้ไปติดต่อขอรับบริการตามหน่วยบริการต่างๆ ได้ นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ยังได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ซึ่งเป็นกิจการแพทย์ที่ตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า ออกให้บริการในการตรวจสุขภาพร่างกาย ด้านทันตกรรม และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคต่างๆ โดยไม่คิดค่าบริการ อีกด้วย
ช่วงบ่าย (19 ธ.ค.66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายปฏิวัติ ทองเพชรจันทร์ นายอำเภอบางกล่ำ และผู้นำท้องที่ ลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากบริเวณหมู่ 1 ตำบลบางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ลักษณะเป็นป่าพรุ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การทำเกษตรของประชาชนได้รับความเสียหาย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มอบหมายหน่วยที่เกี่ยวข้องสำรวจเส้นทางระบายน้ำ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ขณะที่บริเวณบ้านบางกล่ำบน ตำบลบางกล่ำ ประชาชนได้มีการสร้างบ้านกีดขวางทางระบายน้ำ ทำให้การระบายน้ำลงสู่ลำคลองล่าช้า ในช่วงฤดูฝนบริเวณพื้นที่โดยรอบจะเกิดน้ำท่วมขัง จึงขอให้ผู้นำพื้นที่ประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนและกำหนดแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาโดยปรับปรุงภูมิทัศน์และรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ณ บ้านของนางอัมไพ แก้วบุญส่ง หมู่ที่ 4 บ้านบางหยี ตำบลบางกล่ำ อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งได้มีน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้กิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” โดยการปลูกผักสวนครัวในพื้นที่ว่าง อาทิ ผักบุ้ง สะระแหน่ ข่า ผักกูด เสารส เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนทั้งยังได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพปลอดสารพิษปลอดภัยต่อการประกอบอาหาร นอกจากนี้อำเภอบางกล่ำก็ได้ขับเคลื่อนกิจกรรม “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” สามารถนำไปแบ่งปันคนกันในชุมชนอีกด้วย
เช้าวันนี้ (19 ธ.ค. 66) ที่ห้องปฏิบัติการราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นายซุวัรกานา ปริงกานู กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแนะนำตัว และพูดคุยหารือความร่วมมือทั่วไประหว่างจังหวัดสงขลาและอินโดนีเซีย เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมด้านการเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ในการนี้ทางนายซุวัรกานา ปริงกานู กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นในการเปิดเที่ยวบินสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย ที่ได้หยุดไปก่อนหน้านี้ให้กลับมาให้บริการอีกครั้ง โดยนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ก็ได้กล่าวว่ากำลังสานต่อเรื่องรื้อฟื้นสายการบิน ซึ่งกำลังดำเนินการและตั้งคณะทำงาน รวมถึงจะสนับสนุนผลักดันสายการบินนี้ให้กลับมาบินอีกครั้ง เพื่อจะได้ต้อนรับนักท่องจากประเทศอินโดนีเซีย และการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พร้อมที่จะผลักดัน สนับสนุนความสัมพันธ์ และให้ความร่วมมือในด้านต่าง ๆ กับทางกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
โอกาสนี้ กงสุลใหญ่สาธารณรัฐของอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นและในการเดินทางมาเยี่ยมคารวะครั้งนี้ จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียและสงขลา ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านการสานต่อเรื่องการบินหาดใหญ่-อินโดนีเซีย กลับมาบินได้อีกครั้ง
เช้าวันนี้ (18 ธ.ค. 66) ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นางอู๋ ตงเหมย กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา และคณะ ในโอกาสขอเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อแนะนำตัว และกระชับความสัมพันธ์ทั่วไประหว่างไทยและจีนมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมด้านการศึกษา เศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยมีนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การรับรอง
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนล่าง เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสินค้าพื้นเมือง จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาเยี่ยมเยือนจำนวนมากในทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของประเทศไทย และจังหวัดสงขลา ซึ่งชาวจังหวัดสงขลาพร้อมที่จะให้การต้อนรับและช่วยเหลือพี่น้องชาวจีนที่มาเยือนในทุกเมื่อเพื่อที่จะได้มีความสุขกลับไป
โอกาสนี้ กงสุลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดสงขลาที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเดินทางมาเยี่ยมคารวะครั้งนี้ จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทั้งสองฝ่ายได้เคียงข้างฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ทางสถานกงสุลใหญ่ของจีน ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับจังหวัดสงขลาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจการค้าการลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
วันนี้ (14 ธ.ค. 66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมพบปะ พูดคุย เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมี รศ.ดร.พญ.มณฑิรา ตัณฑนุช ผู้อำนวยการศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะฯ และคณะแพทย์ พยาบาล ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ซึ่งในระยะ 10 ปีแรก เริ่มจากการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ได้ราวปีละ 2 คน โดยใช้อวัยวะจากญาติใกล้ชิด หรือคนคนในครอบครัว และในช่วง 15 ปีหลัง สามารถปลูกถ่ายอวัยวะได้เพิ่มขึ้น เป็น 7-8 คนต่อปี เนื่องจากเริ่มได้รับการบริจาคอวัยวะจากผู้บริจาคที่สมองตาย ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่การบริจาคอวัยวะในส่วนของตับ และหัวใจเพิ่มเข้ามาในปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงบริการปลูกถ่ายอวัยวะที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้แสดงความจำนงเป็นผู้บริจาคอวัยวะ ดวงตา และร่างกายกับศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และกล่าวว่า การบริจาคอวัยวะเป็นการให้ที่ไม่สิ้นสุด เป็นที่สุดแห่งการให้ และสามารถจะช่วยชีวิต ต่อชีวิต สร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยอีกหลายคนที่ยังรอการปลูกถ่ายอวัยวะ อีกด้วย
วันนี้ 1 ธันวาคม 2566 นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อย ตรวจเยี่ยมศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอำเภอสะบ้าย้อย พร้อมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ เพื่อรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยมี นายนพพร หนูเพชร นายอำเภอสะบ้าย้อย และเจ้าพนักงานประจำศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้การต้อนรับ
ซึ่งวันนี้ (1 ธันวาคม 2566) เป็นวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียน ตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางมาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในประชาชนผู้เดินทางมาลงทะเบียนบอกว่า “ดีใจที่รัฐบาลเห็นความสำคัญถึงความเป็นอยู่ของประชาชน ยอมรับว่าการเป็นหนี้ถือเป็นความทุกข์กาย ทุกข์ใจ โดยเฉพาะ “หนี้นอกระบบ” ที่ต้องหาเงินมาจ่ายเป็นรายวัน พอรู้ว่ารัฐบาลมีโครงการช่วยเหลือเรื่องหนี้ ส่วนตัวจึงรีบมาลงทะเบียนเพื่อขอรับการช่วยเหลือ และขอขอบคุณจังหวัดสงขลาที่ได้เปิดศูนย์ฯ ให้บริการประชาชนตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนแบบนี้ เพราะบางคนอายุเยอะแล้วจะให้ลงทะเบียนผ่านโทรศัพท์มือถืออย่างเดียวก็คงยากเพราะทำไม่เป็น”
ด้าน นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้พูดคุยให้กำลังใจประชาชน กล่าวว่า..นายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) มีความห่วงใยประชาชน ต้องการบรรเทาภาระความเดือดร้อน จึงกำหนดให้ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข ทางจังหวัดสงขลาจึงรับนโยบายรัฐบาลมาสานต่อด้วยการตั้งศูนย์อำนวยการระดับจังหวัด และระดับอำเภอขึ้น เพื่อรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบที่มีความประสงค์รับการช่วยเหลือ โดย KICK OFF เปิดศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบพร้อมกันทั้ง 16 อำเภอในวันนี้
เช้าวันนี้ (30 พ.ย. 66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเก็บเกี่ยวพืชผักสวนครัว ที่ปลูกไว้บริเวณพื้นที่ว่างภายในตำหนักเขาน้อย จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตามโครงการ “จวนนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” อาทิ ผักสลัดใบเรดโอ๊ค และกรีนโอ๊ค เพื่อแจกจ่าย แบ่งปันให้กับครัวเรือนเปราะบางในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา สำหรับนำไปประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือน และลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในวันนี้ ได้นำผลผลิตจากการดำเนินโครงการ “จวนนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” จากจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มามอบให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้มีผักปลอดสารพิษไว้บริโภค ส่งผลดีต่อสุขภาพ และเป็นตัวอย่างการดำเนินกิจกรรมตามพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ประสบความสำเร็จให้แก่พี่น้องประชาชนนำไปประยุกต์ใช้ เพราะเมื่อเราปลูกผักไว้กินเอง จะช่วยแก้เรื่องปัญหาปากท้องของครอบครัว และยังสร้างรายได้เพิ่มให้กับทุกครัวเรือนด้วย
ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ร่วมปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภค เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร นอกจากนี้การปลูกพืชผักไว้บริโภคในครัวเรือน ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของประชาชน ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากพิษภัยของการใช้สารเคมี อีกด้วย
ช่วงค่ำวันนี้ (27 พ.ย. 66) ณ ตลาดวัฒนธรรมวัดแหลมพ้อ ตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ร่วมเปิดงานประเพณีวันลอยกระทง ประจำปี 2566 โดยมีนางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ร้อยตำรวจโทโกวิทย์ รัชนียะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยอ พร้อมด้วยส่วนราชการ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก แม้ว่าจะมีฝนโปรยลงมาเป็นระยะ
โดยก่อนเข้าสู่พิธีเปิดงานฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ได้นำส่วนราชการเยี่ยมชมการสาธิตทำกระทง, นิทรรศการประเพณีลอยกระทง พร้อมทั้งเยี่ยมชม ชิมอาหาร และภูมิปัญญาของชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมการประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงศิลปะวัฒนธรรม โดยกลุ่มรักศิลป์ถิ่นเกาะยอ และการแสดงจากนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
สำหรับประเพณีลอยกระทง เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งตรงกับช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยการจัดงานในปีนี้ มหาวิทยาราชภัฏสงขลา ได้ร่วมกับ สถาบันทักษิณคดีศึกษา สภาวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา และวัดแหลมพ้อ เพื่อสืบสานประเพณีวิถีไทยและวิถีชีวิตของชุมชนที่มีต่อสายน้ำ อันเป็นประเพณีไทยที่ดีงาม สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากอดีตถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในตำบลเกาะยอ อีกด้วย
20 พ.ย.66 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา รับมอบผีเสื้อประดิษฐ์ที่ทำจากผ้าไทย โดยส่วนราชการในจังหวัดร่วมใจกันผลิตผีเสื้อ จำนวน 2,047 ตัว เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทย ในการสนับสนุนงานกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8 – 18 ธันวาคม 2566 ณ บริเวณสวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร
ตามที่จังหวัดสงขลา ได้รับประสานจากกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ให้จังหวัดสงขลาประดิษฐ์ผีเสื้อจากผ้าไทยเพื่อนำไปประดับต้นกัลปพฤกษ์ ในงานกาชาด 100 ปี พุทธศักราช 2566 ร้านกาชาดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 1,400 ตัว โดยจังหวัดสงขลาได้ร่วมกับส่วนราชการ ที่ว่าการอำเภอ 16 อำเภอ ร่วมผลิตผีเสื้อจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย หรือผ้าตามอัตลักษณ์ของจังหวัดที่เหลือใช้ ขนาด 3 – 10 นิ้ว ซึ่งประดิษฐ์ผีเสื้อให้มีลักษณะบริเวณส่วนหัวผีเสื้อมีตะขอเกี่ยว เพื่อนำไปเกี่ยวกับต้นกัลปพฤกษ์ เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทยต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย. 66) เวลา 09.30 น. ณ มณฑลพิธีสถานที่สร้างอาคาร หน่วยวิทยบริการ มจร. สงขลา อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา พระครูวีระเขมคุณ (พ่อท่านกล่อม เขมวิโร) เจ้าอาวาสวัดปลักคล้า เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารวีรเขมคุณานุสรณ์ ของหน่วยวิทยบริการ มจร. สงขลา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของ “วิทยาลัยสงฆ์” สถานที่จัดการศึกษาทางพระพุทธศาสนา และศาสตร์สมัยใหม่แก่พระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไป โดยมีพระราชวรเวทีเจ้าคณะจังหวัดสงขลา พระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี และรองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา พระครูวิรัตธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดสงขลา นายอำเภอคลองหอยโข่ง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ตลอดจนประชาชนชาวสงขลาและประเทศมาเลเซียเข้าร่วม
ตามที่ คณะกรรมการสงฆ์จังหวัดสงขลา ได้จัดทำโครงการขอขยายห้องเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 เป็นต้นมา โดยได้ตั้งอยู่ที่วัดหงษ์ประดิษฐาราม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ดำเนินการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้กับพระภิกษุสามเณร และฆราวาส เพื่อผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพ มีสติปัญญา และคุณธรรมตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัย
หน่วยวิทยบริการ วิทยาลัยสงฆ์นครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จังหวัดสงขลา ได้มีแผนพัฒนาหน่วยวิทยบริการฯ เพื่อยกเป็นวิทยาลัยสงฆ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งในระเบียบข้อบังคับการยกเป็นวิทยาลัยสงฆ์ได้นั้น ทางหน่วยวิทยาบริการจะต้องมีพื้นที่ตั้งเป็นเอกเทศของตนเอง ซึ่งในส่วนนี้ พระเดชพระคุณ พระครูวีรเขมคุณ เจ้าอาวาสวัดปลักคล้า ได้ถวายที่ดินให้กับหน่วยวิทยบริการ มจร. สงขลา จำนวน 24 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งวิทยาลัยสงฆ์ และเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พระเดชพระคุณ พระครูวีรเขมคุณ ทางหน่วยวิทยบริการ มจร. สงขลา ได้ประชุมปรึกษาคณะกรรมการบริหารหน่วย เพื่อดำเนินการสร้างอาคารวีรเขมคุณานุสรณ์ เป็นอาคารปฐมฤกษ์ของหน่วยวิทยบริการ มจร.สงขลา และจะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน สังคม ต่อไป
วันนี้ (18 พ.ย. 66) เวลา 13.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดรัตนาราม ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้น โดยมีพระราชวชิรเมธาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 17-18 (ธ) เจ้าอาวาสวัดดอนรัก รักษาการเจ้าอาวาสวัดรัตนาราม (บ้านหัวสวน) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
สำหรับประเพณีการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันสืบทอดอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการทำบุญและปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรักความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม โดยปัจจัยที่รวบรวมได้จากบริวารกฐิน ผู้มีจิตศรัทธาในครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 322,229 บาท ซึ่งทางวัดรัตนาราม จะนำปัจจัยไปทำนุบำรุงและบูรณะอาราม ตลอดจนศาสนสถานที่ชำรุดเสียหายภายในวัดให้งดงามและคงอยู่สืบไป
วันนี้ (15 พ.ย. 66) เวลา 15.00 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการ และประชาชน ร่วมกิจกรรม Kick Off รณรงค์การสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ณ ตำหนักเขาน้อย จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยมีการปลูกผักสวนครัว และพืชสมุนไพรกว่า 10 ชนิด อาทิ ผักสลัด ตะไคร้ ผักชีฝรั่ง กระชาย กระเพรา โหระพา ฟ้าทะลายโจร สาระแหน่ ในรูปแบบผักยกแคร่ และแบบแปลง เพื่อสร้างกระแสการปลูกผักสวนครัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนชาวสงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันดี ที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนความต่อเนื่อง ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่ประชาชนในจังหวัดสงขลา โดยเริ่มตั้งแต่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา บ้านพักรองผู้ว่าราชการจังหวัด บ้านพักนายอำเภอ รวมถึงผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เพื่อเป็นการสร้างกระแสรณรงค์ปลูกผักสวนครัวผ่าน “ผู้นำต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริง” ก่อให้เกิดการเรียนรู้ กระตุ้นให้ประชาชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือน ต่อยอดไปสู่การนำไปจำหน่าย สร้างรายได้ ลดรายจ่าย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ภายในบริเวณจวน ฯ ยังมีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน โดยการนำเศษอาหารมาเทรวมลงไปในถังขยะเปียก เพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักบำรุงดิน และบำรุงพืชผักสวนครัวบริเวณแปลงผัก พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ยังได้มอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว รวมถึงต้นกล้าผักสวนครัวให้แก่ครัวเรือนเปราะบาง ผู้นำชุมชน และกลุ่มสตรี เพื่อนำไปขยายผล อีกด้วย
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนผู้บริหาร ผู้นำระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรม “KICK Off รณรงค์การสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน” พร้อมกันทั้งจังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมาย ในกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และกิจกรรม “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนในทุกพื้นที่
สำหรับจังหวัดสงขลา จะดำเนินการ KICK Off พร้อมกันทั้งจังหวัดสงขลา ในวันพุธที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เวลา 15.00 น.
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนางมณีรัตน์ พรหมเขียว ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนผู้บริหาร ผู้นำระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมกิจกรรม “KICK Off รณรงค์การสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน” พร้อมกันทั้งจังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยมอบหมาย ในกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และกิจกรรม “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนในทุกพื้นที่ สำหรับจังหวัดสงขลา จะดำเนินการ KICK Off พร้อมกันทั้งจังหวัดสงขลา ในวันพุธที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เวลา 15.00 น
วันนี้ (4 พ.ย. 66) เวลา 15.10 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมประชุมหารือและติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ตำบลทุ่งหวัง อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา สำนักงานชลประทานที่ 16 และหน่วยงานราชการท้องถิ่นร่วมติดตามและรายงานสภาพปัญหา เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมประชุม หารือ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลทุ่งหวัง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ประมาณ 4 จุด สำคัญ ได้แก่ บริเวณหน้าตลาดใหม่ โดยให้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 6-8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งดำเนินการเปิดช่องระบายน้ำตรงเกาะกลางถนน และบริเวณทางเท้าทันที หากมีฝนตกหนักเป็นเวลาหลายชั่วโมง ส่งผลให้น้ำระบายไม่ทัน บริเวณด้านข้างปั๊ม ปตท.ทุ่งหวัง ศาลาทวดเจ้าแม่ตะเคียน และ 4 แยกบ้านแขยง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลทุ่งหวัง และบริเวณใกล้เคียงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วนของพี่น้องประชาชน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่บ่อยครั้ง สภาพคู คลอง แต่ละแห่งมีปัญหาตื้นเขิน คันคลองบางช่วงมีระดับต่ำ ดินโคลน และขยะเข้าไปอุดตันท่อระบายน้ำ ซึ่งส่งผลต่อการระบายน้ำ
วันนี้ (30 ต.ค. 66) เวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าสนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว ประจำปี 2566 เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามประจำท้องถิ่นให้คงอยู่ โดยมีนางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนชาวสงขลา และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า เทศบาลนครสงขลา ร่วมกับ จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จัดงานประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว ระหว่างวันที่ 26 – 31 ตุลาคม 2566 เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ อันจะทำให้เกิดการกระจายรายได้แก่ประชาชนในท้องถิ่น ส่งเสริมเศรษฐกิจในจังหวัดสงขลาให้ดีขึ้น
สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย พิธีสมโภชผ้า แห่ผ้า เปลี่ยนผ้าห่มองค์เจดีย์หลวงเขาตังกวน พิธีตักบาตรเทโว การประกวดเรือพระประเภทนิยม ประเภทอนุรักษ์ท้องถิ่น กว่า 20 ลำ ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พิธีสมโภชเรือพระ และการประกวดขบวนแห่เรือพระ ซึ่งเรือพระจากวัดต่างๆ จะนำไปจอดบริเวณสระบัวแหลมสมิหลา เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญ
วันนี้ (30 ต.ค. 66) เวลา 06.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระราชวรเวทีเจ้า คณะจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีทำบุญตักบาตรเทโว เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจำปี 2566 ณ บริเวณเชิงบันไดนาค เขาตังกวน อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ส่วนราชการ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชนชาวสงขลาเข้าร่วมในพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมสำคัญทางพุทธศาสนาให้คงอยู่ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะ
โดยในพิธี นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากเขาตังกวนลงมาประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่บูชา จากนั้น ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรสมาทานศีล รับศีล และถวายสังฆทาน ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา พระสงฆ์อนุโมทนา เสร็จแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นำทุกภาคส่วนร่วมตักบาตรอาหารคาว-หวาน ดอกไม้ ธูปเทียน แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่เดินลงจากบันไดนาค (เขาตังกวน) มายังทางเข้าด้านล่างเป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับตักบาตรเทโว หรือ “เทโวโรหนะ” เป็นอีกหนึ่งงานประเพณีทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสด็จหลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลก เรียกอีกอย่างหนึ่ง ว่า “ตักบาตรดาวดึงส์”
วันนี้ (30 ต.ค. 66) เวลา 06.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระราชวรเวทีเจ้า คณะจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีทำบุญตักบาตรเทโว เนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา ประจำปี 2566 ณ บริเวณเชิงบันไดนาค เขาตังกวน อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ส่วนราชการ ภาคเอกชน และพุทธศาสนิกชนชาวสงขลาเข้าร่วมในพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมสำคัญทางพุทธศาสนาให้คงอยู่ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะ
โดยในพิธี นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากเขาตังกวนลงมาประดิษฐาน ณ โต๊ะหมู่บูชา จากนั้น ประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรสมาทานศีล รับศีล และถวายสังฆทาน ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา พระสงฆ์อนุโมทนา เสร็จแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นำทุกภาคส่วนร่วมตักบาตรอาหารคาว-หวาน ดอกไม้ ธูปเทียน แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ที่เดินลงจากบันไดนาค (เขาตังกวน) มายังทางเข้าด้านล่างเป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับตักบาตรเทโว หรือ “เทโวโรหนะ” เป็นอีกหนึ่งงานประเพณีทางพุทธศาสนาที่สำคัญ ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษา ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในปี พ.ศ. 2566 ตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม เพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เสด็จหลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลก เรียกอีกอย่างหนึ่ง ว่า “ตักบาตรดาวดึงส์”
ช่วงเช้าวันนี้ (23 ต.ค. 66) ที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยมีนายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมพิธี
โดยในพิธี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวคำน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ใจความว่า ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ และทรงปกครองพระราชอาณาจักรให้มีความมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุขพระองค์มีพระราชดำริ พัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน ทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูประบบการเงินการคลัง การศึกษา การสาธารณูปโภค ทรงยกเลิก ระบบทาส ระบบไพร่ และทรงนำศาสตร์การปกครองของไทยและชาติสากล มาผนวกใช้ในการปกครอง พระราชอาณาจักร นำพาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นภัยดำรงอธิปไตย และความเป็นเอกราชของชาติไว้ได้อย่างมั่นคง ทำให้ประเทศชาติ มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ
สำหรับวันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เคารพและเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันปิยมหาราช” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ภายหลังจาก “สำนักจุฬาราชมนตรี” ได้ประกาศให้ทราบ โดยทั่วกันว่า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ถึงแก่อนิจกรรม) แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2566 เวลา 10.32 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย
ในวันนี้ (22 ต.ค. 66) เวลา 16.00 น. ณ สนามบินกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนชาวไทย-มุสลิม ร่วมรับมัยยิต (ศพ) นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ที่ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบ หลังมีอาการป่วย และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
โดยทางกองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบิน C-130 เคลื่อนย้ายร่างจุฬาราชมนตรีออกจากท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 มาถึงบริเวณลานจอดอากาศยานฝูงบิน 561 กองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 16.40 น. อย่างสมเกียรติ จากนั้นได้ทำการเคลื่อนย้ายร่างไปยังบ้านพักในพื้นที่ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ เพื่อเตรียมประกอบพิธีละหมาดญะนาชะห์ (ละหมาดขอพร) ในวันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่
ต่อจากนั้น ในเวลา 18.10 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานที่และเต้นท์พิธี สำหรับประกอบพิธีละหมาดญะนาชะห์ และพิธีฝังมัยยิต (ศพ) เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค. 66) พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี และเป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีอัญเชิญดินฝังศพพระราชทาน ณ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา
วันนี้ (18 ต.ค. 66) เวลา 11.30 น. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ในช่วงเทศกาลกินเจ ณ มูลนิธิมหากรุณาธรรมสาน ตำบลพังลา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมร่วมรับประทานอาหารเจกับคณะกรรมการมูลนิธิ ฯ และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลกินเจ ประจำปี 2566 เริ่มตั้งแต่วันที่ 15-23 ตุลาคม ซึ่งนอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในการงดเว้นการทานเนื้อสัตว์ โดยการหันมาทานผักที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังเป็นการสร้างบุญ สร้างกุศล อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และร่วมกันรักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายให้เยาวชนรุ่นหลังได้ร่วมกันสืบทอดต่อไป
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการแสดงเชิดมังกรทอง และการแสดงเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย นอกจากนี้ทางมูลนิธิมหากรุณาธรรมสาน ยังได้เปิดโรงทานเลี้ยงอาหารเจ ซึ่งมีทั้งอาหารคาว-หวาน ปรุงสุกใหม่ รับประทานง่าย และถูกหลักโภชนาการให้กับประชาชนทั่วไปได้รับประทานฟรี อีกด้วย
เช้าวันนี้ (8 ต.ค. 66) เวลา 05.00 น. ณ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบรางวัลในงาน “เดิน วิ่ง การกุศล “ก้าวสู่ 1 ศตวรรษ โรงพยาบาลสงขลา” โดยมีนายแพทย์ สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา แพทย์หญิงสุวิวรรณ นกหนู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน นักวิ่งจากจังหวัดสงขลา และใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดกิจกรรม “เดิน วิ่ง การกุศล“ ก้าวสู่ 1 ศตวรรษโรงพยาบาลสงขลา ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมสุขภาพบุคลากร ทั้งในโรงพยาบาล และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจน ประชาชนทั่วไป ให้เห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย และยังเป็นการดูแลสุขภาพตนเอง อีกทั้งได้ร่วมสร้างกุศลเพราะรายได้ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะนำไปจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลสงขลาและใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับอาคารผู้ป่วยนอกและ อุบัติเหตุ 9 ชั้น (อาคาร 100 ปี) ที่จะเปิดให้บริการประชาชนชาวสงขลาและจังหวัดใกล้เคียงต่อไป
สำหรับการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ฮาล์ฟ มาราธอน (Half Marathon) ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอน (Mini Marathon) ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร และฟันรัน (Fun Run) ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นจุดปล่อยตัว ณ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เข้าสู่เส้นทางสะพานติณสูลานนท์ ช่วงที่ 1 สะพานติณสูลานนท์ ช่วงที่ 2 และรอบเกาะยอ และกลับตัวเพื่อเข้าเส้นชัย ณ จุดเริ่มต้น ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการน้ำดื่ม อำนวยความสะดวก และร่วมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจให้กับนักวิ่งตลอดเส้นทางการแข่งขัน
ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในกิจกรรม “เดิน วิ่ง การกุศล“ ก้าวสู่ 1 ศตวรรษ โรงพยาบาลสงขลา อันดับ 1-5 ทุกประเภท จะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ส่วนผู้เข้าเส้นชัยทุกคน ทุกกิจกรรมจะได้รับเหรียญรางวัลและของที่ระลึกมากมายภายในงาน
เช้าวันนี้ (5 ต.ค. 66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาคเอกชน นัดพิเศษ หลังเดินทางมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนใหม่ เพื่อติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลตามคำแถลงต่อรัฐสภา รวมถึงปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดำเนินภารกิจด้านต่างๆ โดยมีนายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา
โดยก่อนเข้าวาระการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวพบปะ พูดคุย กับผู้เข้าร่วมประชุมถึงนโยบายและแนวทางการทำงานของรัฐบาล ที่จะต้องร่วมกับขับเคลื่อนอย่างเร่งด่วนลงไปในระดับพื้นที่ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการดูแล แก้ปัญหา และพัฒนาไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชน ทั้งประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล พื้นที่ความมั่นคง พื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นต้น
สำหรับประเด็นการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การติดตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลตามคำแถลงต่อรัฐสภาในระยะเร่งด่วน คือ การแก้ปัญหาหนี้สินภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน, ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน, ผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และการแก้ปัญหาความเห็นแตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้มีรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนอกเหนือจากการดำเนินนโยบายเร่งด่วนแล้ว รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะส่งผลกระทบระยะกลางและระยะยาวสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับประชาชน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสร้างรายได้ สร้างโอกาส และการสร้างคุณภาพชีวิต
จากนั้น เป็นการติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดสงขลา โดยที่ผ่านมาสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ได้มีการประชุมทบทวนและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอุทกภัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามสถานการณ์ สภาพอากาศ สภาพน้ำท่า การจัดการน้ำ ระดับน้ำในแหล่งเก็บน้ำขนาดต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงการประสานและปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกัน แก้ไขและให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยต่อไป
โอกาสนี้ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้กล่าวขอบคุณส่วนราชการ และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ได้มาร่วมแสดงความยินดีและนำอาหารมาร่วมจัดเลี้ยง ในโอกาสเดินทางมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อีกด้วย
วันนี้ (4 ต.ค.66) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งในฐานะพ่อเมืองสงขลา คนที่ 68 พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ พรหมเขียว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นจุดแรก ในเวลา 10.19 น. ซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกในอำเภอเมืองสงขลา ที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองในสมัยพระยาวิเชียรคีรี ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานศาลหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เพื่อเป็นสิริมงคลและเป็นสัญลักษณ์ของการตั้งเมือง
โดยจุดที่สองเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมือง ของชาวสงขลาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยสายเชื้อจีน จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ได้นำพวงมาลัยดอกมะลิเข้าถวายราชสักการะพระพุทธศรีสงขลานครินทร์สัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปประจำพระชนมวารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสักการะพระอนุสาวรีย์กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ตั้งอยู่บนเขาน้อย พระองค์ฯ ทรงประกอบพระกรณียกิจที่สร้างคุณประโยชน์ต่อชาวใต้อย่างมากและเป็นผู้ก่อตั้งสถานที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ พระตำหนักเขาน้อย วังขาว วังเขียว โรงเรียนวรนารีเฉลิม ตามด้วยเข้าสักการะพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และสักการะพระพุทธรูปประจำตำหนักเขาน้อย โดยมีส่วนราชการมาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ต่อมาในเวลา 14.45 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าสักการะพระแสงราชศัสตรา ประจำมณฑลนครศรีธรรมราช ได้รับพระราชทานในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ สำนักงานคลังจังหวัดสงขลา ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา ต่อด้วยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำห้องพระและห้องปฏิบัติงานผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในโอกาสปฏิบัติราชการวันแรก
วันนี้ (12 ก.ย.66) เวลา 15.00 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” ครั้งที่ 9 ซึ่งจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 11 – 18 กันยายน 2566 โดยมี นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองสงขลา นายณัฐภัท ชุมทองเชิดบำรุง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายดำรงรักษ อภิบาลสวัสดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส นายถาวร บุญศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต นายประทีป แก้วประสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บมจ.หาดทิพย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วม โดยมีกองเชียร์จากโรงเรียนต่าง ๆ ร่วมให้กำลังใจอย่างคึกคัก
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “นับว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เพราะเป็นวันที่พวกเรามาพร้อมกันที่นี่ เพื่อชื่นชมความสามารถของยุวชนอายุไม่เกิน 13 ปี ที่ได้มาแสดงทักษะ และความสามารถ ทางด้านฟุตบอล การสร้างโอกาสที่ดีให้แก่ยุวชนในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นการพัฒนาทักษะทางด้านฟุตบอล และฝึกฝนนิสัยให้ยุวชนรักกีฬา รู้จักการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งสร้างความรักความสามัคคี และมีน้ำใจต่อกัน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพื่อพัฒนาการเล่นให้ก้าวหน้าต่อไป”
ด้านนายประทีป แก้วประสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บมจ.หาดทิพย์ เปิดเผยว่า “จุดเริ่มต้นของโครงการ การแข่งขันฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” เกิดขึ้นจาก เมื่อ พ.ศ. 2550 ร้อยตรี ไพโรจน์ รัตตกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ ได้ดูภาพข่าว เหตุการณ์โรงเรียนถูกเผา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีดำริให้จัดการแข่งขันฟุตบอลฯ กีฬาที่ชื่นชอบในพื้นที่ เป็นตัวประสานความรัก ความสามัคคี ความผูกพันระหว่างโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง และตัวยุวชนด้วยกันเอง ทั้งนี้เมื่อสถานการณ์สงบ ฟุตบอลยุวชนหาดทิพย์ ได้ถูกสานต่อและพัฒนารูปแบบการแข่งขันเพื่อเตรียมนักฟุตบอลสู่นักฟุตบอลอาชีพ ภายใต้แนวคิดของ พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ได้มอบไว้ คือ “เหนือชัยชนะ คือ มิตรภาพและความสุข”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลยุวชน “หาดทิพย์คัพ” ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันมาแล้ว จำนวน 8 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 โดยมีนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 9,000 กว่าคน และจัดการแข่งขันเป็นการจัดในครั้งที่ 9 บริษัทฯ ได้มีการพัฒนา และขยายพื้นที่ในการแข่งขัน จากจุดเริ่มต้น 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็น 5 จังหวัดชายแดนใต้ และได้เพิ่มอีก 4 จังหวัดอ่าวไทย รวมเป็น 9 จังหวัด และในปี 2567 บริษัทฯ จะขยายพื้นที่จัดการแข่งขันใน 14 จังหวัดภาคใต้ ในครั้งนี้มีทีมที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกระดับจังหวัด จังหวัดละ 2 ทีม รวมเป็น 18 ทีม เพื่อมาทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
ทั้งนี้ สำหรับทีมแชมป์ “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” ครั้งที่ 9 รับถ้วยเกียรติยศ จาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เงินรางวัล 30,000 บาท ทริปเปิดประสบการณ์กับสโมสรชั้นนำของประเทศ เป็นสมาชิกหาดทิพย์จูเนียร์คลับทั้งทีม และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม จะได้รับสิทธิพิเศษเข้าคลินิกฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ โดยสามารถติดตามการถ่ายทอดสดผ่านความเคลื่อนไหวและอัปเดตการแข่งขัน ผ่าน แฟนเพจ : ฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ”
วันนี้ (11 ก.ค.66) เวลา 14.00 น. ที่โรงเรียนวัดเจริญราษฎร์ ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานนำจิตอาสาพระราชทาน จิตอาสา 904 และจิตอาสาภาคประชาชน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระดับจังหวัด โดยมีกิจกรรมการมอบกล่องความสุข การมอบชุดยาพระราชทาน พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้โรงเรียนและวัด รวมจำนวน 1,000 ชิ้น กิจกรรมปลูกต้นไม้ การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ได้แก่ พันธุ์ปลาตะเพียนขาว พันธุ์ปลาสุลต่าน จำนวน 50,000 ตัว และกิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาดเก็บขยะมูลฝอย ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ เพื่อสร้างความร่มรื่นและมีความสะอาดสวยงามให้เกิดขึ้นในพื้นที่
โอกาสนี้ นายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นางสุจินดา บุญแอ แรงงานจังหวัดสงขลา นางสาวสุธิดา พฤกษ์อุดม ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสงขลา กำลังพล และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พร้อมทั้งจะปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคต ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างกว้างใหญ่ไพศาล ทรงมีพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ นานัปการ ทรงเป็นกษัตริย์นักรบผู้กล้าหาญ ทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ด้วยทศพิธราชธรรม ทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ทรงนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การค้าและสถาปัตยกรรม ทรงพระปรีชาด้านศิลปวัฒนธรรม ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไทย อาทิเช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ พาลีสอนน้อง ราชสวัสดิ์ เป็นต้น จึงได้ถือเอาวันที่ 11 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น “วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่านและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
บ่ายวันนี้ (2 มิ.ย.66) ที่พุทธมณฑลจังหวัดสงขลา ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา “วันวิสาขบูชา” โดยได้รับความเมตตาจาก พระราชวรเวที เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี นายเศวต เพชรนุ้ย ปลัดจังหวัดสงขลา นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยคณะสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี
จังหวัดสงขลา โดยคณะสงฆ์จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าว ตามมติในการประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 โดยเห็นชอบให้ดำเนินการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา (วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา) ประจำปี 2566 ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และวัดไทยในต่างประเทศเพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกันน้อมรำลึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันวิสาขบูชา โดยการปฏิบัติตนถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยก่อนเข้าสู่พิธีสงฆ์ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานมอบเกียรติบัตรการประกวดบรรยายธรรม ประจำปี 2566 ระดับภาคคณะสงฆ์ (ภาค 18) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ชนะเลิศที่เป็นตัวแทนจังหวัดสงขลา แก่ นางสาววริศรา คงชะนะ รางวัลชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา และนางสาวฐาณิชญาณ์ รักษาแก้ว รางวัลชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 อำเภอหาดใหญ่
จากนั้น พระครูวิจิตรศิลาจาร รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา – สตูล (ธ) ได้กล่าวสัมโมทนียกถาถึงวันสำคัญของวันวิสาขบูชา ต่อจากนั้นพระราชวรเวที เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ การเจริญจิตตภาวนา พร้อมนำพุทธศาสนิกชน ร่วมเวียนเทียนรอบองค์พระประธานประจำพุทธมณฑลจังหวัดสงขลา