“เมื่อปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาบรรจบกับปัญญาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) จึงร่วมกันพัฒนาแนวทางใหม่ในการเผยแผ่หลักธรรมผ่านเทคโนโลยี เพื่อให้เข้าถึงคนยุคดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง”
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี ร่วมในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) ในการดำเนินโครงการธรรมอาสาบนแพลตฟอร์มพุทธธรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เทคโนโลยี AI ในการสกัดและอ่านเอกสารของท่านพุทธทาส นำเข้าสู่แพลตฟอร์มพุทธธรรม เพื่อให้อาสาสมัครเข้ามาร่วมตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์จากผลลัพธ์ของ AI ให้มีความถูกต้องตามเอกสารต้นฉบับ และยังได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นพ.จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมปาฐกถาพิเศษ “ความสำคัญของพุทธธรรมของท่านพุทธทาส และบทบาทของมหาวิทยาลัย” โดยมีคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน และผู้สนใจสืบสานงานท่านพุทธทาสภิกขุ เข้าร่วมในพิธี ณ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568
นพ. บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) กล่าวว่า ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นพระมหาเถระที่ได้ฝากผลงานอันทรงคุณค่าไว้มากมาย ทั้งในด้านการเผยแผ่ธรรมะและการสร้างสรรค์วัฒนธรรมทางพุทธศาสนาให้เป็นรูปธรรมและเข้าถึงประชาชนทั่วไป หลักคำสอนของท่านได้รับการจัดเก็บอย่างเป็นระบบในรูปแบบต้นฉบับเอกสารต่าง ๆ โดยมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ซึ่งถือเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และเชิงวิชาการ ประกอบด้วย ชีวประวัติ ข้อคิดคัดสรร การบรรยายธรรม บันทึก งานประพันธ์ งานพิมพ์หนังสือ จดหมาย ไปรษณียบัตร บัตรเชิญ บัตรอวยพร รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับสวนโมกขพลาราม ธรรมทานมูลนิธิ วัดธารน้ำไหล และบทความสำคัญที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก
“วันนี้ถือโอกาสอันสำคัญที่ทั้งสององค์กรจะได้ร่วมกันวางรากฐานในการขับเคลื่อนและเผยแผ่ระพุทธศาสนา รวมถึงแนวคิดและหลักธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ไปสู่สังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะในโลกยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างสื่อและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมต่อการเข้าถึงและการนำธรรมะไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริง รวมถึงเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้และการสร้างความร่วมมือในชุมชนธรรมอาสา ในการเผยแผ่ความรู้ทางพุทธศาสนา เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมร่วมสมัย” นพ. บัญชา พงษ์พานิช กล่าว
ศาสตราจารย์ นพ.จรัส สุวรรณเวลา นายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้กล่าวปาฐกถาถึงความสำคัญของเทคโนโลยี AI ที่เยาวชนปัจจุบันใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การพูดคุยกับ Siri เป็นต้น และท่านยังได้ทดลองการใช้งาน ChatGPT 4o เพื่อให้ระบบแนะนำว่า AI สามารถนำมาใช้บนแพลตฟอร์มเพื่อช่วยนักเรียนและสาธารณชนเรื่องพุทธศาสนา ตามแนวคิดอันลึกซึ้งของท่านพุทธทาสได้อย่างไร ซึ่งได้รับข้อสรุปใน 8 แนวทาง พร้อมการอธิบายแต่ละตัวอย่างโดยลึกซึ้ง ดังนี้




