วันอาทิตย์, 8 มิถุนายน 2568

รวบหนุ่มชาวรัสเซียขายโคเคน ลักรอบขนยางกัญชาจากต่างประเทศพบของกลางอื้อ

07 พ.ค. 2568
11

วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งว่า มีชายต่างชาติผิวขาว สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น พฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยว ที่ หน้าร้านเซเว่นอีเลเว่น สาขามะเดื่อหวาน ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้ประสาน สืบสวน สภ.เกาะพะงัน  ปกครองเกาะพะงัน  นปภ ภจว สุราษฏร์ธานี จน สามารถจับกุม นายเดนิส บิชุก อายุ 36 ปี สัญชาติ รัสเซีย พร้อมด้วยของกลาง

1.ยาเสพติด (โคเคน) ชนิดผงสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกชนิดกดปิด-ดึงเปิด น้ำหนักถุง 0.6 กรัม น้ำหนักยาเสพติด (โคเคน) 8.82 กรัม น้ำหนักรวมถุง 9.42 กรัม

2.เห็ดขี้ควาย น้ำหนักรวม 13.56 กรัม

3.ยางกัญชา (Hashish) น้ำหนักรวม 415.72 กรัม

พร้อมแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และ ครอบครองซึ่งสมุนไพรควบคุมเกินกว่าจำนวนหรือปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 45 (1) ตาม พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542”  นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายเดนิสฯให้การยอมรับว่าสารเหนียวสีเข้มบรรจุอยู่ในถุงยางอนามัยจำนวนหลายก้อนคือ HASHISH หรือยางกัญชา ซึ่งตนได้ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศภูฎาน โดยใช้วิธีการกลืนลงไปในท้องเพื่อลักลอบผ่านด่านศุลกากร เมื่อมาถึง อ.เกาะพะงัน จึงได้ทำการถ่ายออกมาเพื่อนำมาขายต่อให้แก่นักท่องเที่ยว นายเดนิส อ้างว่า HASHISH (ยางกัญชา) มีราคาที่สูงและทำกำไรได้จำนวนมาก ในส่วนของโคเคนนั้นตนได้ซื้อมาจากชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อและสัญชาติ ซึ่งขายให้ตนในราคา 4,000 บาทต่อ 1 กรัม บริเวณหาด แห่งหนึ่ง ในเกาะพะงัน

ซึ่งคดีนี้ ตำรวจท่องเที่ยวได้ติดตามเฝ้าสังเกตุสืบสวนการกระทำผิดกลุ่มบุคคลเป้าหมายในพื้นที่เกาะพะงัน ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องยาเสพติดในพื้นที่ และ เครือข่ายข้ามชาติ จนได้ข้อมูลที่แน่ชัด ซึ่งเป็นเครือข่ายเดิมที่เคยโดนจับไปก่อนหน้านี้  ได้ข้อมูลการติดต่อ ซื้อขายและทราบถึงพฤติกรรม การขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่เกาะพะงันโดนมีการกลืนยาเสพติดลงในท้อง หวังตบตาเจ้าหน้าที่  ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสืบจนได้ข้อมูลแน่ชัด รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบนำไปสู่การจับกุม ในครั้งนี้

ทั้งนี้ท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว อย่างจริงจัง เด็ดขาด

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์