รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
มาตรวจสอบอาการเศรษฐกิจ ในห้วงของเดือนกรกฎาคม พบว่าอาการเศรษฐกิจ ยังน่าเป็นห่วงระดับล่างคือความซบเซา ของตลาดสด และตลาดริมทางที่ผู้คนหายไป มีแต่คนขาย ในขณะที่คนซื้อ อยู่ในสภาพที่เรียกว่าโหรงเหรง โรงรับจำนำ ก็ร้างผู้คน เพราะไม่มีทรัพย์สิน อะไรที่จะนำมาจำนำอีกแล้ว ส่วนศูนย์การค้า มีแต่คนเดินตากแอร์ มากกว่าคนที่เข้าไปเพื่อจับจ่ายใช้สอย ตลาดรถยนต์มือสอง อยู่ในสภาพของการซังกะตาย หลายแห่งพบเห็นรถยนต์ ที่ถูกยึดมาจอดเป็นพะเนินเทินทึกบ้านเช่า ห้องแถว ตึกแถว ติดประกาศคำว่าให้เช่า และขาย บ้านเมืองหลายแห่งเป็นเมืองร้าง เอ๊ะนี้ เกิดอะไรขึ้นกับ บ้านนี้เมืองนี้
ประชุม ครม. เศรษฐกิจ ก็แล้วขุนคลัง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ก็เปลี่ยนแล้ว แต่ทำไมจึงยังไม่ตอบโจทย์ ของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และทักษิณ ชินวัตร ก็กลับมาเพื่อทำหน้าที่เบื้องหลัง ของพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ทำไมเศรษฐกิจไทย ทุกภาคส่วนยังโงหัวไม่ขึ้น เรื่องนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะตอบประชาชนอย่างไร ทั้งหมดล้วนแค่ เรื่องโกหกมดเท็จ ทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องเงินดิจิทัล ซึ่งหัวเด็ดตีนขาด และอาจจะมีคนติดคุก ในอนาคต ก็ต้องทำให้ได้นั้น ข่าวว่ายังต้องมีการลากยาว ไปถึงวันที่ 24 กรกฎาคม เพื่อให้นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ในการแถลงความคืบหน้า อีกครั้ง ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะได้ทันใช้ในปี 2567 หรือไม่ แต่ที่สำคัญ จะมั่นใจได้อย่างไรว่า หลังการแจกเงิน ให้ประชาชน คนละ 10,000 บาทแล้ว จะทำให้เศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศชาติจะดีขึ้น และที่ต้องถามคือ นอกจากรัฐบาลเพื่อไทย คาดหวังในเรื่องของเงินดิจิทัล ว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้ว เศรษฐา ทวีสิน และ ครม.เศรษฐกิจ ยังมีช่องทางอื่นๆ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอีกหรือไม่ หรือมีเพียงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนัดเดียวในปืน เท่านั้น และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ปี 2568 เศรษฐกิจของประเทศไทย น่าจะยับเยินๆ ที่ยิ่งกว่าต้มยำกุ้งแน่นอน คนไทย เตรียมตัวเตรียมใจตั้งรับกันให้ดีนะ…ความวิตกกังวลของเกษตรกรชาวสวนยาง ทั่วประเทศคือ ราคายางที่เคยทะยานไปที่ กิโลกรัมละ 80 กว่าบาท ในกรณีของ การขายน้ำยางสด และราคายางก้นถ้วยที่ขึ้นไปถึง กิโลกรัมละ 40 บาท วันนี้ราคาน้ำยางสด ตกลงมาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 60 กว่าบาท เป็นการส่งสัญญาณอะไรกับเรื่องของราคายางพารา และถ้าราคายางพารา ยังตกต่ำไปที่กิโลกรัมละ 40 กว่าบาท เหมือนในรัฐบาลลูงตู่ ซึ่งเป็นราคาขาย ที่ไม่คุ้มทุนชาวสวนยางจะอยู่กันอย่างไร ประเด็นนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย ต้องมีคำตอบ ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง อย่าเพียงแต่การออกมาเพื่อเอาความชอบ ในขณะที่ยางพาราขึ้นราคา แต่เมื่อราคายางตกต่ำ กลับไม่มีใครออกมาชี้แจง เพื่อการรับผิดชอบและวันนี้ เท่าที่รู้ข่าว มีพ่อค้ายางชาวไทย ที่ไปกว้านซื้อยางแผ่น ในราคาถูกจากประเทศเมียนมา ติดต่อประสานงานมายัง เจ้าหน้าที่แนวชายแดน อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อขอนำยางเถื่อน เข้ามาขายในประเทศไทย และที่มีการนินทากันตามร้านน้ำชา ก็คือมีส่วนหน้า ที่อ้างว่าเป็นคนของเสนาบดี มาเก็บส่วยจากขบวนการนำเข้าพืชผลทางการเกษตรที่เป็นของเถื่อนแม้แต่ที่ด่านพรมแดนสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ก็มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นส่วนหน้า ของเสนาบดี มาทำการเก็บส่วย จากขบวนการนำเข้า หัวหอม,หัวกระเทียม, น้ำมันปาล์ม จากประเทศมาเลเซีย ทำเอาพ่อค้า แม่ค้า ที่ นำเข้าสินค้าเถื่อน ต้องถอนหายใจเฮือกๆ เพราะไหนจะต้องจ่ายด่าน, จ่ายตรวจพืช, จ่ายตำรวจ แล้วยังต้องจ่ายส่วนหน้า ของเสนาบดี อีกต่างหาก นี่กระมั่ง ที่คนโบราณเรียกว่าการทำนาเลี้ยงนก
ผู้ใช้รถใช้รถถนนหลวงสาย อ.สะเดา – อ.นาทวี จ.สงขลา หากขับรถไปทางสายเก่า จากบ้านคลองแงะไป อ.นาทวี จะเห็นภาพบรรดาภูเขา และ เนินสูง ทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของริมถนน จะเห็นได้เด่นชัดว่า ภูเขา และ เนินสูง ถูกบุกรุก ขึ้นไปถางและโค่นป่า แล้วปลูกต้นยางพาราแทน เป็นจำนวนมาก มีภูเขา และ เนินสูง ถูกบุกรุกเอามาเป็นที่ของนายทุน ก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยอนุรักษ์ป่าฯจะเห็นภูเขาและเนินสูงๆ ที่ถูกบุกรุกหรือไม่ เพราะคนสัญจรไปมาถนนสายดังกล่าวจะมองเห็นภาพภูเขาถูกบุกรุกชัดเจน และปัจจุบันยังมีการโค่นและถางป่าบุกรุกภูเขายังชัดเจน หรือ จะปล่อยให้บุกรุกภูเขาจนหมดแล้วจึงจะเข้าไปดำเนินการ
อ.สะเดา จ.สงขลา มีบุคคลอ้างตัวเป็นทหารเข้าไปเรียกรับส่วยจากผู้ทำไม้ยางพารา ไม่รู้ทหารจริง ทหารปลอม อ้างเก็บส่วย งานนี้ตำรวจ ลองเข้าตรวจสอบหน่อยครับ ว่าเท็จจริงอย่างไรเรื่องนี้
รถบรรทุก ทั้ง 10 – 22 ล้อ ที่วิ่งอยู่บนถนนสายกาญจนวานิช ตั้งแต่บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ไปจนถึง ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ยังคงมีรถบรรทุกเส้นใหญ่ ที่สามารถวิ่งเลนขวาได้ตลอด วิ่งอวดเจ้าหน้าที่เกียร์ว่างทำเป็นมองไม่เห็นอยู่ทุกๆวัน นับว่าเป็นเรื่องแปลก
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์