วันอังคาร, 2 ธันวาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 13 พฤศจิกายน 2568

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม  ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

แม้จะเป็นรัฐบาล เพียง 120  เหมือนรัฐบาลเฉพาะกาล ที่มาทำหน้าที่บริหารประเทศ เพื่อเตรียมการยุบสภาผู้เทนราษฎร เพื่อทำหน้าที่ในการเลือกตั้ง แต่รัฐบาล ที่มีอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำงานหนัก ในการแก้ไขปัญหา ของประเทศชาติ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ-สังคม และอื่นๆ ที่ยังเป็นปัญหาหมักหมม ที่มาจากการบริหารประเทศไทยของรัฐบาลก่อนหน้านี้ ตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทย ที่มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ยาวนานถึง 9 ปี แต่มีหลายปัญหา ที่ไม่ได้มีการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องของคอลเซ็นเตอร์, สแกรมเมอร์, บ่อนการพนันออกไลน์ ที่เบ่งบาน มาจากยุคที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาฝีหนองแตก หลังการเลือกตั้ง เมื่อปี 2566 ที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ ในการจัดตั้งรัฐบาล และมีเศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

และวันนี้ปัญหาทั้งหมด ตกอยู่บนบ่าไหล่ ของพรรคภูมิใจไทย ที่มีอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี และ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงใหญ่ ที่ต้องรับผิดชอบปัญหาอันหลากหลาย ของประเทศไทย โดยเฉพาะการเลือกตั้ง เพราะกลไกของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ต่างต้องอาศัยองคาพยพ ของมหาดไทย ในการขับเคลื่อน

วันนี้เรื่องสแกรมเมอร์ ที่สส.ของพรรคประชาชน ที่เป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทย ที่เป็นฝ่ายแค้น ต่างออกมาแฉรายวัน ว่ามี นักการเมือง ในพรรคร่วมรัฐบาล มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร. ก็ออกมาแฉหลักฐาน ว่า มีนักการเมืองในพรรคฝ่ายค้านที่จังหวัดสงขลา เป็นนักการเมืองสีเทา ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนออนไลน์,สแกรมเมอร์,บ่อนการพนันในปอยเปต ฝั่งกัมพูชา ที่ทางหนึ่งถล่มโดยตรงไปยัง พล.ต.อ.กิตต์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีต ผบช.ตำรวจไซเบอร์ ปัจจุบันเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ แต่ในทางอ้อน เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องรับผิดชอบ

เช่นเดียวกับที่ อัจฉริยะ เรื่องรัตนพงษ์ ผู้เป็นจอมแฉ ที่ออกมาแฉ เรื่องของนักการเมืองระดับชาติ ในจังหวัดสงขลา ที่สังกัดพรรคร่วมรัฐบาล โดยนำเอาหลักฐาน ของคดีเดิม และเส้นเงิน ที่โยงใย ถึงบุคคลต่างๆ รวมทั้งตำรวจ ตั้งแต่ระดับรอง สว.จนถึงรองผบช. ของภาค 9 และภาค 8 และ อื่นๆ อีก 30 กว่ารายชื่อ เป็นการออกมาถล่มรัฐบาล โดยตรง เพื่อให้มีการดำเนินคดี กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด

แม้ว่าอนุทิน ชาญวีรกุล จะมีการลงนาม และสั่งการ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับคอลเซ็นเตอร์ และสแกรมเมอร์ ที่มีหลักฐาน เชื่อมโยง ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเด็ดขาด แต่ตราบใดที่ นักการเมือง และบุคคล ที่มีรายชื่อ ยังไม่มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย การออกมา แฉต่อไป กลายเป็นปัญหา ของพรรคภูมิใจไทย ที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะผู้ที่ถูกแฉ เป็น สส.ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคนในพื้นที่ ต่างเชื่อ ว่าเป็นนักการเมืองสีเทา ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า และบ่อนออนไลน์ ที่เป็นตัวจริง เสียงจริง และหาก อนุทิน ชาญวีรกุล ให้ความเด็ดขาด ก็จะกระทบ ถึงเสถียรภาพ ของรัฐบาล เช่นเดียวกับเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่แม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี จะ อ้างว่าเป็นหน้าที่ของ กองทัพ ในการแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้น และกองทัพ กับกระทรวงต่างประเทศ และ รัฐมนตรีกลาโหม จะอ้างว่า อยู่ในการเจรจาตามกลไก ระหว่างประเทศ แต่ตราบใดที่ปราสาทหลายแห่ง ยังถูกกัมพูชา ทำการยึดครอง และพื้นที่ลายแห่งเช่นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่ไทย ยังยึดคืนไม่สำเร็จ กระแสการโจมตี ก็ตกอยู่กับ นายกรัฐมนตรี อยู่ดี นี่คือวิบากกรรม ของนายกรัฐมนตรีที่ไม่สามารถลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะการที่พรรคฝ่ายค้าน อย่าง พรรคประชาชนที่ออกมาขย่มรัฐบาล แบบรายวัน และวันละหลายรอบ ให้มีการปลด รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี ของพรรคร่วมรัฐบาล ในข้อหา เป็นกลุ่มนักการเมืองสีเทา ที่พัวพัน กับแกงค์คอลเซ็นเตอร์ และสแกรมเมอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยังถามหาหลักฐานที่ชัดเจน และถ้ามีหลักฐาน ที่ชัดเจน ก็ต้องถามว่าจะกล้าปลดหรือไม่ เพราะผู้ที่ถูกพรรคประชาชน กล่าวหา เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถ้าพรรคการเมืองนี้ ไม่มาร่วมรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ก็ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ  แม้ว่าจะมีพรรคประชาชน เป็นนั่งร้าน ให้ก็ตาม ทั้งหมดคือวิบากกรรม ของการเป็นรัฐบาล ที่แม้จะเป็นรัฐบาลสั้น เพียง 120   แต่ ปัญหาที่แบกรับ ดูเหมือนยาวนานกว่า 4 เดือน

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์