วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 14 ธันวาคม 2566

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

อยู่นครหาดใหญ่ จ.สงขลาแสนสุขสบายใคร ใคร่ค้า ก็ยึดผิวถนน ทางเท้าวางซุ้ม โต๊ะเก้าอี้ ค้าขายได้ ใครใคร่ยึดถนนเป็นที่จอดรถส่วนตัว ก็นำ กรวย เก้าอี้รถจักรยานยนต์ มาจอดหน้าบ้านได้ที่จอดรถส่วนตัว สงสัยเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่รับผิดชอบคงไม่ว่างไปจัดระเบียบ ปล่อยให้ ใครจะทำอะไรก็เชิญ นครหาดใหญ่ จึงมีแต่เรื่องสนุกๆครับช่วงนี้

ผับเถื่อน เตรียมเฮ ร้านอาหารที่เปิดเป็น ผับเถื่อน จำนวนมากในเขต อ.หาดใหญ่ โดยเฉพาะพื้นที่คอหงส์ ย่านถนนธรรมนูญวิถี อ.หาดใหญ่ ช่วงเทศกาลวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มีการโฆษณา เปิดผับเถื่อน โต้รุ่งกันหลายวัน เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานไหน กล้าเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจะมีการตรวจสอบและจับเพียงแต่ในเมืองกรุง ที่ อนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำกำลังฝ่ายปกครองและตำรวจพร้อมหน่วยอื่นเข้าจับ ผับเถื่อนกลางกรุงวันก่อนพบ นทท.มีฉี่ม่วงจำนวนมากเท่านั้นต่างจังหวัด เฉยไม่คิดจะลงมาตรวจหรือ ครับ

ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการเมืองยุคเก่าเป็นการเมืองสุจริต การเลือกตั้งที่ จ.ตรัง เมื่อก่อนชาวบ้านมี สโกแกนว่า ใส่ชื่อทวี กินฟรีพิทักษ์ เลือกพรรคนายชวน นั่นเป็นการเมืองแบบเก่า ส่วนการเมืองแบบใหม่ ในการเลือกตั้ง แต่ละครั้งโดยเฉพาะล่าสุด ปี 2566 ที่ผ่านมา ภาคใต้เป็นภาคที่ใช้เงินในการซื้อเสียง มากที่สุด บางเขตใช้ถึง 100 กิโล บางเขตที่มี นักการเมือง ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาการพนันออนไลน์ ใช้ถึง 140 กิโล เพราะมีการแข่งขันที่สูงมาก เมื่อนักการเมืองเข้าไปเป็น สส. โดยไม่สุจริต แล้วจะหวังได้เห็นการเมืองมีความสุจริต อย่างไรเห็นด้วยกับ ชวน หลีกภัย ที่ตั้งคำถามว่า เมื่อผู้ที่ได้เป็น สส. ใช้เงิน 50 ล้าน ในการซื้อเสียง แล้วเป็นไปได้หรือที่จะไม่มีการถอนทุน ดังนั้น รัฐธรรมนูญ ที่จะมีการร่างขึ้นใหม่ ก็ต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ และแก้ปัญหาการเมืองที่ไม่สุจริต ให้ได้ด้วย

ชวน หลีกภัย พูดทุกเรื่องเกี่ยวกับการเมืองไทยได้ถูกที่สุด แต่เสียดาย ที่เป็นการพูดในขณะที่หมดยุค ของนักการเมืองรุ่นเก่า ที่ชื่อ ชวนหลีกภัย แล้ว เพราะแม้แต่คนในประชาธิปัตย์ที่บอกว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ก็ไม่ได้สำเหนียก กับคำพูดของผู้มีคุณูปการต่อพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นายหัวชวน การเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาคือคำตอบที่ชัดเจน

ก็ขอแสดงความยินดีกับเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคฯ และ เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคฯ หน้าที่ของทั้งสองท่าน คือต้อง แสดงให้ ประชาชนเห็นว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่ชวน หลีกภัย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และต้องไม่นำประชาธิปัตย์ เป็นอะไหล่ ทางการเมือง ในรัฐบาลชุดนี้ และในการเลือกตั้ง ในครั้งต่อไป จำนวน สส.ของพรรคต้องเพิ่มขึ้น ที่สำคัญอยากเห็นจุดขายทางการเมืองของประชาธิปัตย์ ที่จะประกาศต่อประชาชน เพราะที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์ มีแต่จุดตาย ทั้งสิ้น

เรื่องประชาธิปัตย์ ยังไม่จบง่ายๆ เพราะนอกจาก อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และ สาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯ ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว ล่าสุด สาทิตย์ วงศ์หนองเตย (เสี่ยตาล) อดีต สส.หลายสมัยของ จ.ตรัง ก็ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคกับเขาด้วย และเชื่อว่ายังมีสมาชิกพรรคอีกจำนวนหนึ่งที่ทยอยกันลาออก และที่ต้องจับตามองคือ สรรเพชญ บุญญามณี สส.เขต 1 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแถลงผ่านโซเชียลว่าจะขอทบทวนบทบาทของตนเอง

วันนี้อยากเห็น สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา ที่อายุราชการปีเดียว ทำในสิ่งที่เป็นการสร้างประโยชน์ให้ชาวสงขลา เช่น จัดการเรื่องของโพงพางที่รุกล้ำร่องน้ำเดินเรือ ในทะเลสาบสงขลา จัดการกับสุสานเรือเวียดนาม ที่เป็นของกลาง ในคดีลักลอบทำประมงในน่านน้ำไทย ซึ่งเป็นทัศนอุจาดของทะเลสาบสงขลา และการผลักดัน การก่อสร้าง สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ระหว่างฝั่ง อ.เมือง กับ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่ง เจือราชสีห์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอโครงการให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีต นายกรัฐมนตรี ไว้แล้ว และขณะนี้เจือ ราชสีห์ ก็เป็นที่ปรึกษาของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่องอย่างนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สมควรออกมาผลักดัน หรือคนสงขลา ต้องใช้แพขนานยนต์ ตลอดไป โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นหรือ…nn

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์