รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
เรื่องของการเมือง เป็นเรื่องที่เข้าด้ายเข้าเข็มทั้งเรื่องของแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้หยุด การปฏิบัติหน้าที่ จากคลิปเสียง ในการสนทนากับฮุนเซ็น และถูกสมาชิกวุฒิสภายื่นเรื่อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบจนมีคำสั่ง จากศาลรัฐธรรมนูญ ให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย จาก ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกูรูทางกฎหมาย และกูรูทางการเมือง ต่างมีความเห็นว่า แพทองธาร ชินวัตร จะต้องจบชีวิต ทางการเมือง เช่นเดียวกับ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกฟ้อง ในเรื่องของจริยธรรมนักการเมือง และความไม่ซื้อสัตย์สุจริต
มีการวิเคราะห์ว่า แพทองธาร ชินวัตร จะมีการลาออก ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะทำการวินิจฉัย เพราะจะเป็นผลดี กว่าที่เสี่ยง ในตายดาบหน้า โดยคาดการ ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัย ที่เป็นคุณ มากกว่าจะเป็นโทษ ที่สำคัญ มีปกาศิต จากทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็น นายใหญ่ และพ่อนายกฯ ว่าไม่ลาออก เป็นไรเป็นกัน เพราะมั่นใจในดีลลับ ว่าเพื่อไทย ยังได้ไปต่อ และนายกรัฐมนตรี ยังชื่อ แพทองธาร ชินวัตร เช่นเดียวกับที่ คดี 112 และคดีเทวดาชั้น 14 ก็เป็นได้ ว่าไม่ระคายผิว หลังเดือนกันยายน เพื่อไทย จะเป็นพยัคฆ์เสียบปีก และทักษิณ ชินวัตร จะบินปร๋อไปทั่วโลก นั้นคือความเชื่อของฝั่งทักษิณ ชิวัตร แต่ความจริง เป็นอย่างไรเป็นเรื่องดุลพินิจ ของศาลสถิตยุติธรรม และของศาลรัฐธรรมนูญการต่อสู้ของทักษิณ ชินวัตร ณ คาบนี้ จึงเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย แบบนี่คือตัวตน ที่แท้จริงของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ยอมแม้แต่เอาอนาคตทางการเมือง ของลูกสาว เป็นเดิมพัน และอาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อไทย ยังมีชัยเกษม นิติศิริ เป็นแคนดิเดต ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อีกคน ที่อย่างไรเสียเพื่อไทย ก็ไม่ถึงตาจนบนกระดานการเมือง แม้ว่าเสียงของ สส.ของพรรคเพื่อไทยจะปริ่มน้ำ ก็อาจจะใช้บริหารของงูเห่า จากพรรคการเมืองอื่นๆมาเสริมแกร่ง เพราะการเมืองยุคนี้ถ้ามีเงิน อย่าว่าแต่จะใช้คน ใช้ให้ผีโม่แป้ง ก็ยังได้
ปัญหาสำคัญของประเทศไทย ที่ประชาชนถามมาคือ ถ้าเพื่อไทย ยังไปต่อ โดยมีแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และทักษิณ ชินวัตร เป็นเสมียนประเทศ ที่ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี ที่คนค่อนครึ่งประเทศไม่ต้องการ รวมทั้งรอบองคาพยพ ที่เต็มไปด้วยศัตรู ทางการเมือง ที่พรรคเพื่อไทย ไปต่อได้ แต่ประเทศชาติ และประชาชน ไปต่อไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์ อันใดกับการไปต่อ ของรัฐบาล
มีการนินทา กันว่า การที่ รัฐบาลเพื่อไทย ยอมให้กองทัพ ทุกอย่าง เช่นการอนุมัติ ให้ซื้อฝูงบินกริพเพน และยุทโธปกรณ์ อื่นๆ ตามที่กองทัพร้องขอ รวมทั้งการอนุมัติ เรือดำน้ำ จากประเทศจีน ให้กับกองทัพเรือ โดยการใช้เครื่องยนต์ของประเทศจีน ซึ่งเรื่องนี้ในสมัยที่เพื่อไทย เป็นฝ่ายค้าน มีการคัดค้าน แบบหัวชนขวา ให้ยกเลิกสัญญา และมีการชำแหละ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างถึงพริกถึงขิง แต่วันที่เพื่อไทย ต้องการใช้กองทัพ เป็นนั่งร้าน เพื่อเป็นรัฐบาลต่อไป จึงกลายเป็นเห็นชอบ แม้ในสิ่งที่เพื่อไทย คัดค้านไว้ในครั้งที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และ นี่คือการเมือง ที่เป็นเรื่องเหลวไหล และไร้สัจจะแบบลิ้นไม่มีกระดูก ดังนั้นก่อนที่กองทัพ จะยอมเป็นนั่งร้าน เพื่อให้เพื่อไทย ไปต่อ ก็ต้องคิดให้รอบคอบ และให้เห็นกับประโยชน์ ของประเทศชาติและประชาชน เป็นที่ตั้ง
กล่าวได้ว่าการสู้รบ ระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา คือการยกระดับของกองทัพให้มีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี ที่ประชาชน ให้ความเชื่อมั่น มากกว่ารัฐบาล ในการป้องกันอธิปไตย ของประเทศ และยิ่งเครดิต ของกองทัพ มีมากขึ้น กลับส่งผลให้เครดิต ของพรรคประชาชน ลดน้อยลง โดยเฉพาะวลีเด็ด ที่ทหารมีไว้ทำอะไร วันนี้มีคำตอบ ที่ชัดเจนแล้วว่า ทหารมีไว้เพื่อป้องกันอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
ขอร้องกันมามาก ว่างานเทศกาลอาหารสองทะเลจะจัดขึ้นที่ จ.สงขลา ในราววันที่ 22 สิงหคม นี้ อย่าให้มีการพนันประเภท ปาโป่ง ปาเป้า หยิบสลาก ตักไข่ หมุนลูกศร และบิงโก้ จะได้หรือ ไหม ท่านนายอำเภอเมืองสงขลา
ผับเถื่อน โรงแรมเถื่อนที่ ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่นั้น มองเห็น หรือ เปล่า หรือ จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ก็ตามใจ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์