รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
ถ้าเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี รอดจากการถูกตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ก็จะทำหน้าที่เป็นกัปตันเรือท่ามกลางมรสุมทางการเมือง และมรสุมทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า เมื่อการเดินสายไปเรียกนักลงทุนจากต่างชาติ ยังไม่เห็นวี่แวว เมื่อนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ยังไม่ออกดอกออกผล เมื่อเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว ยังไม่มากพอที่จะฟื้นเศรษฐกิจ เมื่อการส่งออก ยังพลาดเป้า เรื่องเดียวที่ครม.เศรษฐกิจ ของเศรษฐา ทวีสิน ฝากความหวังไว้คือ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ด้วยการแจกเงินให้ประชาชนคนละ 10,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นกระสุนนัดสุดท้ายในรังเพลิง เพราะฟังว่า นอกจากดิจิทัล วอลเล็ต แล้ว รัฐบาลไม่มีแผนสำรองในการฟื้นฟูเศรษฐกิจแต่อย่างใด ดังนั้นถ้ากระสุนนัดสุดท้ายไม่เข้าเป้า นอกจากประเทศไทยจะเข้าสู่อาการตรีทูต แล้ว ประเทศนี้ก็จะไม่มีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน อีกด้วย
และก่อนที่ดิจิทัล วอลเล็ต จะมีการขับเคลื่อน ก่อนที่เงิน 10,000 บาท จะถึงมือประชาชน ผู้ที่มีสิทธิ์การปรับครม. น่าจะเกิดขึ้นก่อน เพื่อให้การบริหารประเทศมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล มากกว่านี้ เพราะสภาพของประเทศไทย ณ วันนี้ ยังอยู่ในวังวน ของจนทั้งแผ่นดิน ตลาดทุกตลาด ในทุกพื้นที่ แห้งเหี่ยว คนขายนั่งหาว นั่งไล่แมลงวัน เพราะคนซื้อไม่มี ห้างร้าน ทยอยปิด เอสเอ็มอี เลิกกิจการ เพราะสถาบันการเงิน ไม่ปล่อยเงินกู้กลุ่มเสี่ยง แรงงานไทยตกงาน เพราะถูกแรงงานเมียนมา ที่ ค่าแรงถูกกว่า แย่งงาน
โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล วันนี้ เศรษฐกิจการค้าขาย การลงทุน ถูกกลุ่มทุนของคนจีน รุกล้ำเข้าชิงพื้นที่ ชิงตลาด โดยอาศัยทุนใหญ่ เข้าทำลายทุนเล็ก ที่เป็นคนไทย พืชผลการค้าทางการเกษตร ตกอยู่ในมือทุนจีน ตลาดค้าปลีก ค้าส่ง กลายเป็นของคนจีน การค้าขายทางออนไลน์ กลายเป็นสินค้าจีน ที่ขายถูกกว่า เพราะการผลิตในจีนล้นตลาด แม้แต่กิจการขนส่ง ก็ได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนจีน ที่เข้ามาประกอบการเพื่อแข่งขันกับคนไทย และอีกหลายธุรกิจ ตั้งแต่เรื่องของยานยนต์ เรื่องของเครื่องปรับอากาศ และอุตสาหกรรมเหล็ก ล้วนถูก ผลกระทบจากการระบายสินค้าจากประเทศจีน และจากการที่รัฐบาลจีน มีการส่งเสริม ให้กลุ่มทุนจีน เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ที่เปิดกว้าง เพราะคิดเพียงการได้เม็ดเงิน มาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ย่ำแย่ ซึ่งการลงทุนของกลุ่มทุนจีนมีทั้งที่เป็นกลุ่มทุนที่เข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย แต่ใช้วิธีการทุนใหญ่ถล่มทุนเล็ก และจีนเทา ที่เข้ามาทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และหมิ่นเหม่ต่อกฎหมาย โดยนิยามคำว่าจีนเทา ไม่ได้มีเพียงเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบ่อนการพนันออนไลน์ หรือการค้ามนุษย์ แต่ยังหมายถึงการลงทุนและการค้าขาย ด้านอื่นๆ ที่เป็นสีเทา ซึ่งเกิดขึ้นมากมายในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา
จับชีพจร เพื่อเช็คความรู้สึกของคนไทยเชื้อสายจีน ณ วันนี้ จะได้พบกับความจริง ว่า การรุกเข้ามาโจมตี ด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน แบบทะลักทลายของกลุ่มทุนจีนสร้างความไม่แฮปปี้ ให้เกิดขึ้นกับคนไทยเชื้อสายจีน ณ ปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ถ้า สถานการณ์ เศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุนยังถูกกลุ่มทุนจีน เข้ามาแย่งฐานที่มั่นอย่างที่เป็นอยู่ เชื่อเถอะในอนาคตคำว่าจีน-ไทย พี่น้องกัน อาจจะเป็นเพียงตำนาน ในรุ่นของอากง อาม่า อาเจ๊ก อาแปะเท่านั้น
ร้องกันมาหนาหูว่าที่กลางเมืองสะเดา จ.สงขลา มีการเปิดเล่นการพนันกำถั่วเล่นในตลาดสะเดา และหลังที่ว่าการอำเภอ ลูกค้าเล่นพนันกันเต็ม ได้เสียวันละเป็นล้านบาท เอ้า งานนี้ พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ลองส่งสายสืบเข้าตรวจสอบหน่อยเท็จจริงอย่างไร…กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเข้าจมูกชาวคลองแงะ เป็นระยะๆ แปลกที่เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมฯ และอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กลับไม่ได้กลิ่นเหม็นเน่า ชาวคลองแงะ อ.สะเดา ทนดมกลิ่นเหม็นเน่ามานานหลายปี ยังไม่เห็นหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวคลองแงะได้เลย แปลก
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
