รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
เมื่อการเมือง เข้าสู้โหมดการเลือกตั้ง หลังจากที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ส่วนสาเหตุ ของการยุบสภา ก่อนกำหนดเวลาในเอ็มโอเอ ที่เป็นข้อตกลง ระหว่างพรรคประชาชน ที่มีณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุธ เป็นหัวหน้าพรรค และพรรคภูมิใจไทย ที่มีอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นหัวหน้าพรรค ก็เป็นที่รับรู้กันถ้วนหน้าแล้วว่ามาจากพรบ.ร่างรัฐธรรมนูญที่ถูก สมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ รวมกับสส.พรรคภูมิใจไทย ลงมิติ คว่ำ ในวาระที่ 2
เป็นเหตุให้ สส.พรรคประชาชน ประกาศที่จะยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นั้นคือสาเหตุหลัก ของการที่ทำให้ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ต้องทำการยุบสภาฯ ก่อนกำหนดของวันที่ 31 มกราคม 2569 ตามข้อตกลงในเอ็มโอเอ ส่วนใครจะต้มใคร และพรรคไหนหักพรรคไหน ถือเป็นเรื่องปกติ ของการเมือง ที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร รวมทั้งการเมือง เป็นเรื่องของเล่ห์เหลี่ยม และมากด้วยคมเขี้ยว พรรคการไหน ผู้นำพรรคคนไหนที่ไม่ทันเกม ก็ต้องเกมตามกติกาของการเมือง ที่ยังเป็นการเมืองน้ำเน่า แบบฉบับของสารขัณฑ์ประเทศ ดังนั้นเมื่อ รักที่จะเล่นการเมือง ก็ไม่ต้องตีโพยตีพายเพื่อเรียกคะแนนสงสาร เพราะแทนที่จะได้คะแนนสงสาร อาจจะถูกหัวเราะเยาะเย้ย ถึงความอ่อนหัด ทางการเมืองเอาง่ายๆ
พรรคการเมือง ต้องเอาเวลาทั้งหมด ในการเฟ้นหาผู้สมัคร ที่มีคุณภาพ และเขียนนโยบายพรรค ที่ไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝัน หรือขายฝัน แต่ทำได้จริง นำเสนอกับประชาชน เพื่อที่จะได้ชัยชนะ ในการเลือกตั้ง เพราะวันนี้ประชาชน ส่วนหนึ่ง เริ่มที่จะเบื่อหน่าย กับการเมืองบ้านใหญ่ และเริ่มที่จะรับรู้ถึงความเสียหาย ของการรับเงิน เพื่อแลกกับการลงคะแนนเสียง ให้กับผู้สมัครจากบ้านใหญ่ เชื่อเถอะ เมื่อการเมือง มันเลวร้าย จนถึงจุดหนึ่งที่สังคมรับไม่ไหว ย่อมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วง สำหรับประเทศไทย คือเรื่องของศึกสงคราม หรือการรบพุ่ง ระหว่างกองทัพไทย กับกองทัพกัมพูชา ที่ดำเนินการมาร่วม 10 วัน ยังไม่สามารถยุติ การสู้รบ ในแนวชายแดน 7 จังหวัดของชายแดนด้านตะวันออก เพราะการทำสงคราม ยืดเยื้อ จะไม่เป็นผลดี กับกองทัพ และประเทศ ทั้งในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน การอพยพ ของประชาชน การสูญเสีย ของเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจและอื่นๆ รวมถึงงบประมาณแผ่นดิน
ในขณะที่การศึกยืดเยื้อ จะส่งผลดีต่อกัมพูชา ในเรื่องของการทำสงครามกองโจร โดยการอาศัยภูมิประเทศ ที่ได้เปรียบ ในการซุ่มโจมตี และก่อกวน ต่อ ทหาร,ตำรวจ ดังนั้นรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกุล และผู้นำเหล่าทัพ ต้องเร่งประเมินสถานการณ์ และต้องมีทางออก ในการยุติสงครามแบบเบ็ดเสร็จ ไม่มีประเทศไหน ที่จะปล่อยให้การสู้รบบานปลาย โดยไม่มีทางจบสิ้น
และ โลกวันนี้ ก็ไม่มีประเทศไหน ที่จะไม่ถูกแทรกแซง จากประเทศมหาอำนาจ และประเทศที่สาม ในการเข้ามาแทรกแซง และไกล่เกลี่ย ส่วนประเทศไหนจะกล่าวหาประเทศไหน เป็นผู้ผิดหรือถูก อยู่ที่หลักฐาน ของแต่ละฝ่าย ที่เป็นเครื่องยืนยัน และที่สงสัยกันไม่หาย ในขณะที่มีการประเคน ใส่กันด้วยอาวุธหนัก และอาวุธเบา นานาชนิด รวมทั้งการทิ้งไข่ จาก เอฟ 16 ต่อเป้าหมาย ทางทหาร ตลอดแนวชายแดนกัมพูชา แต่สินค้าทางการเกษตร จาก กัมพูชา ยังเล็ดลอด ผ่านช่องทางธรรมาติ ออกมาตีตลาด ประเทศไทยได้ มันหมายความว่าอย่างไร มีนายทุน และคนมีสี กลุ่มไหน อยู่เบี้ยงหลัง และได้ประโยชน์จากสงคราม ในครั้งนี้
เรื่องของสแกรมเมอร์ ก็เป็นปมสำคัญ ที่เป็นผลประโยชน์ ระหว่าง กลุ่มทุน ในประเทศไทยกับกลุ่มทุน ที่เป็นคนจีน ในกัมพูชา เพราะในการปราบปราม ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเศรษฐาและ รัฐบาลแพทองธาร จนมาถึงรัฐบาล 2 เดือนเศษ ของ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เราก็จะเห็นร่องรอยของความหน่อมแหน้ม ไม่เอาจริงกับสแกรมเมอร์ ที่แม้ว่า ฐานปฏิบัติการ ของสแกรมเมอร์ อยู่ในกัมพูชา อยู่ในเมียนมา และอยู่ในสปป.ลาว ก็จริง แต่กลุ่มทุน ที่เกี่ยวข้องกับสแกรมเมอร์ ทั้งเป็นทุนไทย และทุนจีน ต่างหยั่งรากฝังลึก อยู่ในประเทศไทย ธุรกิจมากมาย ทั้งของกลุ่มทุนจีน และกลุ่มทุนไทย มาจากรายได้ของสแกรมเมอร์ ที่ถูกนำมาฟอกขาว
สุดท้าย รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ต้องส่งหน่วยงานของเอฟบีไอ หรือตำรวจลับ มาจากสหรัฐอเมริกา มาตั้งฐานปฏิบัติการ ที่กรุงเทพฯ เพื่อปรามปราม บรรดาสแกรมเมอร์ ทั้งในเมียนมา ที่สหรัฐอเมริกา พบว่าการทำลายอาคาร ที่เป็นที่ตั้งสแกรมเมอร์ ของ รัฐบาลเมียนมา เป็นการจัดฉาก รวมทั้งการปราบปรามสแกรมเมอร์ ทั้งในกัมพูชา และสปป.ลาว และ วัตถุประสงค์สุดท้าย ของรัฐบาลอเมริกัน คือการปราบปรามกลุ่มทุน ที่เกี่ยวข้องกับสแกรมเมอร์ ทั้งในเมียนมา,สปป.ลาว และกัมพูชา ในประเทศไทย เพราะหน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา ได้ส่งรายชื่อ ของกลุ่มทุน เหล่านั้น ให้กับรัฐบาลไทย แล้ว แต่รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้น สหรัฐอเมริกา จึงต้องส่งหน่วยงานเอฟบีไอ มาดำเนินการการเอง
เรื่องนักรบรับจ้าง ที่เป็นข่าวว่าเป็นผู้บังคับโดรนโจมตี ในกัมพูชา ก็เป็นเรื่องจริง เพราะกองทัพ ที่มีเงิน ย่อมใช่ผีโม่แป้งได้ กัมพูชา มีงบประมาณจากสแกรมเมอร์ รวมทั้งได้รับเงินสนับสนุน จากจีนเทา ที่เป็นกลุ่มทุน ในกัมพูชา ในการจ้างนักรบ จากนานาชาติ เพื่อช่วยรบ เช่นเดียวกับที่ยูเครน และรัสเซีย ซึ่งมีบริษัทหลายบริษัท ที่เป็นผู้จัดหานักรบรับจ้าง และ ส่วนหนึ่งของนักรบรับจ้าง เป็นอดีตทหารอเมริกา และ อิสราเอล มาอยู่ในเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และอดีตทหารของอิสราเอล ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ถามว่าหน่วยข่าวกรอง ร่วมทั้งสันติบาล ของไทยมาระแคะระคาย เลยหรือไร และนี่ก็เป็นโจทย์ยาก ที่ท้าทาย ผู้เป็นแม่ทัพ,นายกอง และเสนาธิการ ของกองทัพ ในการสู้รบ กับกองทัพของกัมพูชาและเป็นเรื่องไม่ง่าย สำหรับกองทัพไทย ที่เลือการสู้รบ แบบเต็มรูปแบบไปนาน
และที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เพราะความไม่รู้ จากคนไทย คือการศึก ที่รุกคืบ และยึดพื้นที่ได้ และครอบครอง พื้นที่ไม่ได้ ต้องถอยออกมา เพราะพื้นที่เหล่านั้น ที่ทหารไทย รุกคืบไปยึดได้ เป็นชัยภูมิ ที่เสียเปรียบข้าศึก ขืนยึดไว้ ก็จะถูก โจมตี จนสูญเสีย กำลังพล คนที่ไม่อยู่ในสมรภูมิ ในการสู้รบ จะไม่เข้าใจ นี่เป็นงานยาก และเป็นงานหิน ในการชนะศึก ในแนวชายแดนของกัมพูชาที่คนไทย ต้องเข้าใจในข้อเท็จจริง
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
