รอบรั้วเมืองใต้ ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
นี่ก็อ้างว่าเป็นสารวัตรตำรวจสันติบาลหาดใหญ่ เดินสายเก็บรายการทั่ว 7 จังหวัดภาคใต้ เดือนได้เป็นล้านบาท เท็จจริงอย่างไร พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ตำรวจสันติบาล ลองส่งตำรวจมือดีตรวจสอบหน่อยครับ ข่าวว่า เส้นใหญ่
เมื่อการเมืองเดินมาถึงจุดสุดท้าย หลังผ่านการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่เป็นการเลือกตั้งโดยประชาชน และการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลโดยประชาชนและเพื่อประโยชน์ของประชาชน ตามเจตนารมณ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยดังนั้น รัฐบาล ที่ได้มา จึงเป็นรัฐบาลที่รวมเอารรคการเมือง หลายๆ พรรค ที่ในตอนหาเสียง ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ว่าจะไม่ร่วมรัฐบาล แต่สุดท้าย เมื่อมรสุมการเมืองรุมเร้ามีการใช้อิทธิฤทธิ์ จากมือที่มองเห็น และมองไม่เห็น เพื่อการเตะสกัด พรรคก้าวไกล ออกจากวงจรการเป็นรัฐบาล เพื่อบีบ ให้เพื่อไทย ต้องเดินตามเกม ที่ถูกบีบให้เดิน โดยการจัดรัฐบาล ที่มีทั้งพรรคของสองลุง และภูมิใจไทย เป็น พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็น สามพรรคการเมือง ที่เพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น อุ๊งอิ๋ง แพทองธาร ชินวัตร, ประธานครอบครัวเพื่อไทย และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดด นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่างให้สัญญาประชาคมกับประชาชน ว่าหัวเด็ดตีนขาด พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับ สามพรรคข้างต้น ดังนั้นการกลับหลังหันของเพื่อไทย จึงเป็นการตระบัดสัตย์ ต่อประชาชนทั้งประเทศ ที่ต้องส่งผลต่อการเลือกตั้งของเพื่อไทย ใน อนาคต นี่เป็นการฆ่าหรือการทำลายพรรคเพื่อไทย ใน สนามการเลือกตั้งในสมัยหน้าอย่าง เลือดเย็น เป็นการปิดประตูตายทางการเมืองของตระกูลชินวัตร ที่ถูกวางแผนเอาไว้แล้ว
แต่ สำหรับเพื่อไทย สิ่งที่ผู้มีอำนาจ ของพรรคต้องการคือให้ทักษิณกลับบ้าน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ส่วนในอนาคตเพื่อไทย จะเป็นอย่างไรใน สนามเลือกตั้งสมัยหน้าเป็นเรื่องของอนาคต ที่ ค่อยแก้ไข เมื่อเวลามาถึง การเลือกตั้งสมัยหน้า จะเหลือ สส.กี่คน ก็เป็นปัญหาที่ยังมาไม่ถึง แต่เรื่องที่ฝั่งฝัน แล้ว สำหรับพรรคเพื่อไทย คือสามารถในการเข็นให้ เศรษฐา ทวีสิน ได้เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย โดยการ สนับสนุนของ สมาชิกวุฒิสภา โดยเฉพาะในสายของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนเรื่องที่สอง ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เป็นวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คือเรื่องทักษิณกลับบ้านที่ถือว่าเป็นเรื่องดีคือ ประเทศไทย และการเมืองไทย จะได้จบเกมเรื่องผีทักษิณ เสียที หลังจากที่ปล่อยให้ผีทักษิณ ทำการหลอกหลอน ประเทศไทยและประชาชนมาถึง 17 ปี การที่ทักษิณกลับบ้าน เพื่อมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งสุดท้าย ทักษิณจะติดคุก หรือจะรอดคุก ก็เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายและจะได้ยุติ เรื่องความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมายาวนาน และที่น่าสังเกต คือขบวนการต้านทักษิณกลับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขบวนการคนเสื้อเหลือง หรือขบวนนกหวีดและพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นคู่กัด ของทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่มีปฏิกิริยา ในการต่อต้าน การกลับบ้านของทักษิณ แต่อย่างใด นี่แสดงให้เห็นถึงเบื้องหลัง และเบื้องหน้า ของการขับไล่ และการต่อต้าน เพื่อให้ทักษิณ พ้นจากวงจรของการเมืองไทย ที่เคยเกิดขึ้น และวันหนึ่ง เมื่อทุกฝ่ายเห็นว่าก้าวข้ามไม่พ้นทักษิณ ขบวนการหรือดีลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลังกาวีดีล และดีลฮ่องกง จึงเกิดขึ้น เพื่อให้ทักษิณ กลับบ้านทั้งหมดคือการเมืองไทย และประชาธิปไตย แบบไทยๆ ที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการ นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวกับสื่อมวลชน หลายครั้ง
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์