วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 28 ธันวาคม 2566

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น

ปีปฏิทิน กำลังเปลี่ยนผ่าน จากปี 2566 ซึ่งเป็นปีกระต่ายทองไปสู่ปี 2567 ซึ่งจะเป็นปีมังกรทอง หรือมังกรไฟ ก็ยังไม่แน่ชัด แต่ถ้าฟังจากหมอดู หรือโหร หลายสำนัก ก็จะเห็นว่ามีการออกมาเขย่าดวงเมืองว่าปี 2567 จะเป็นปีมังกรไฟ เพราะ ณ วันนี้ประเทศไทยเรา ยังมีปัญหามากมายที่รุมเร้า ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องปากท้องของคนส่วนใหญ่ ที่เป็น ชนชั้นล่าง ของประเทศ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่เกี่ยวกับหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบ ที่รัฐบาลนิดหนึ่ง ยังหาทางออกที่ชัดเจนไม่ได้ ยังเป็นปัญหาหนักหนาสาหัสสากรรจ์ ของประชาชนและประเทศชาติ

การพักหนี้การออมชอม กับนายทุนเงินกู้ เพื่อให้หยุดการขูดรีด ดอกเบี้ยราคามหาโหด อาจจะทำให้คนจน หายใจได้คล่องขึ้นนิดหน่อย แต่เมื่อรายได้ยังเท่าเดิมเช่นค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย อย่างใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ค่าแรง ปรับเพิ่ม 2 บาทต่อวัน จะไปแก้ปัญหาอะไรได้ในเมื่อราคาสินค้า เพิ่มทุกสัปดาห์ โดยที่กรมการค้าภายใน ตามไม่ทัน ราคาผลผลิตของเกษตรกร ก็ยังเท่าเดิม แต่ต้นทุน ในการทำการเกษตรเพิ่มขึ้นทุกปีเมื่อนโยบายของพรรคการเมือง เป็นเรื่องที่ไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องการขายฝัน ขายไอเดียที่แสนจะบรรเจิด เพื่อหลอกชาวบ้าน บนเวทีหาเสียง เช่นค่าแรงวันละ 400 และจะเป็น 600 ในอีก 4 ปี เป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะการขึ้นค่าแรง มีกฎหมายมี กำหนดกฎเกณฑ์ ที่ต้องปฏิบัติตาม จะไปขึ้นตามใจพรรคการเมือง และนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะประเทศไทยไม่ใช่บริษัทที่กำหนดโดยเจ้าของหรือนายทุน หลายเรื่องที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสวนกระแสกับความเป็นจริง จึงถูกมองว่ายังอ่อนประสบการณ์ทางการเมือง เมื่อรายได้ของชนชั้นล่าง และชนชั้นกลาง ยังอยู่แบบต๊อกต๋อย ปี 2567 จึงเป็นได้เพียงการเปลี่ยนผ่าน ของปีปฏิทิน แต่ คนไทย ยังคงจมปลักอยู่กับความยากจน อย่างเดิมๆ

ผู้เขียนได้เขียนถึงเรื่องผับเถื่อนมาหลายฉบับแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็น ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ จะเร่งดำเนินการกับสถานบันเทิงที่เปิดเป็นผับเถื่อนไม่มีใบอนุญาต สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ทั้งๆ ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีการลงพื้นที่บางพื้นที่เข้าตรวจสอบจับกุมผับเถื่อนที่เปิดเกลื่อนประเทศหลายจังหวัดและเปิดเกินเวลา แต่แปลกที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะพื้นที่นครหาดใหญ่ ผับเถื่อนก็ยังคงเปิดตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แสดงว่าฝ่ายปกครองและตำรวจที่นั้น ทำเป็นมองไม่เห็น หรือมีการเก็บรายการหรือไม่ผับเถื่อนบางแห่งบางพื้นที่สามารถเปิดดำเนินการได้ ไม่แปลกใจ ว่าทำไมเจ้าหน้าที่บางหน่วยถึงไม่สามารถปราบปรามยาเสพติดได้ ตามเป้าหมาย ทำให้ ผับเถื่อนย่านถนนธรรมนูญวิถี และทั่วนครหาดใหญ่ ถึงกล้าเปิด ยิ่งช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผับเถื่อนมีการเปิดสถานบันเทิงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ กันยันสว่าง งานนี้ ดูซิ นายอำเภอหาดใหญ่ และผู้การสงขลา จะทำอย่างไร ถ้าให้ดีลองแวะดูที่ แก๊สโซลีน และเต็มถัง ดู ว่ามีใบอนุญาต หรือไม่

น้ำท่วมที่สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส อย่าโทษเรื่องธรรมชาติ คือฝนตกหนักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องโทษเจ้าหน้าที่ ที่ปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าบนเขาเมาะแต จนกลายเป็นเขาหัวโล้นที่เมื่อฝนตกหนัก ทั้งโคลนทั้งน้ำ จึงไหลลงมาสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง ถ้ายังปล่อยอย่างนี้ ในอนาคต น้ำตกซีโป อาจจะไม่มีน้ำตกให้เห็น ก็เป็นได้เรื่องนี้ นอกจากหน่วยอนุรักษ์ป่า กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องรับผิดชอบแล้ว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าก็มีส่วนในการรับผิดชอบ เพราะมีคำถามมาโดยตลอดว่าทหาร ที่ ตั้งกองร้อยและกองพัน ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทำไมจึงมองไม่เห็นมอดไม้ และเสียงของเครื่องเลื่อย รวมทั้งการลำเลียงไม้ลงจากภูเขา พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส ต้องมีการปรับแผน ในเรื่องการ ป้องกันป่าด้วยนะ…nn

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์