รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
การป่วนทั่วภาคใต้ นั้นคือปฏิบัติการของบีอาร์เอ็น ที่ส่งแนวร่วม ที่ได้รับการฝึกใหม่ ที่เรียกว่าหน้าขาว นำระเบิดแสวงเครื่อง จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปก่อวินาศกรรม ในจังหวัดที่เป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภาคใต้ ตั้งแต่เกาะภูเก็ต, จ.ภูเก็ต ถึง 5-6 จุดด้วยกัน ตั้งแต่ท่อากาศยานภูเก็ต จนถึงชายหาดต่างๆ เช่น ป่าตอง, แหลมพรหมเทพ, หาดสุรินทร์ และอื่นๆ รวมทั้งหลายจุดของจังหวัดกระบี่และในเมืองพังงา จ.พังงา ทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์ ในการทำลายเศรษฐกิจ ของภาคใต้ ตามที่บีอาร์เอ็นได้ประกาศไว้ชัดเจนในยุทธศาสตร์การแบ่งแยกดินแดนของบีอาร์เอ็น
นี่ถ้าตำรวจ ที่ตั้งจุดตรวจ ใน จ.พังงา ตรวจไม่พบ รถเก๋งที่ขนอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดแสวงเครื่องพร้อมผู้ต้องหา 2 คน และจากการสอบสวนผู้ต้องหา ทำให้ตำรวจ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ของขบวนการ จนสามารถเก็บกู้ระเบิดได้หลายจุด รวมทั้งสามารถขยายผลในการจับกุมกลุ่มแนวร่วม ทั้งที่เป็นเครือข่ายของนักการเมืองท้องถิ่น ใน ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และใน อ.เมือง จ.ยะลา ในขณะที่บางคนยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง แสดงให้เห็นว่า บีอาร์เอ็น มีการสร้างเครือข่ายในทุกจังหวัดในภาคใต้เพื่อใช้ในการปฏิบัติการ หากจำเป็น หรือต้องการ ดีที่มีการจับกุม และสอบสวนจนได้ความจริงไม่งั้น คงเกิดการบาดเจ็บ หรือล้มตาย เพราะระเบิดแสวงเครื่อง ทั้งหมดตั้งเวลาให้ระเบิดพร้อมกันในวันที่ 30 มิ.ย.
ที่สำคัญ ในเมืองท่องเที่ยว หลายแห่งที่มีทะเล อย่างเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และหาดทรายมากมายที่ จังหวัดตรัง และเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล รวมทั้งหาดสมิหลา จ.สงขลา ก็คือเป้าหมายในการก่อวินาศกรรม ซึ่งต้องถามว่าณ วันนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความพร้อม แค่ไหน ในการหาข่าว ความเคลื่อนไหวของแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ในแต่ละจังหวัด ที่สำคัญ ถ้าไม่มีการปฏิบัติการใดๆ ในจังหวัดที่กล่าวมา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว โดยปล่อยให้แนวร่วม ของบีอาร์เอ็น มีความเติบโต และมีแนวร่วม มากขึ้น จะทำให้การก่อการร้าย ขยายพื้นที่จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เท่ากับเป็นการขยายพื้นที่ของการก่อการร้ายทั่วภาคใต้ เรื่องนี้ทั้งรัฐบาล และฝ่ายความมั่นคง จะแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้นอย่างไร และที่สำคัญ ต้องการเห็นบทบาทของกอ.รมน.จังหวัด ที่มีอยู่ทุกจังหวัด ให้เข้ามามีบทบาท และหน้าที่ ในเรื่องของการติดตาม ความเคลื่อนไหว ของบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะกอ.รมน.จังหวัด ถูกสังคมถามถึงบทบาท และหน้าที่ มาโดยตลอดว่ามีการทำหน้าที่ให้เกิดความคุ้มค่า หรือไม่อย่างไร ที่ผ่านมามีผลงาน ที่พอจะเป็นชิ้นเป็นอัน ที่เกี่ยวกับปัญหาของความมั่นคง อย่างไร อย่าลืมว่างบประมาณของ กอ.รมน.จำนวน 7,000 ล้านบาท อยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,000 ล้านบาท ที่เหลือ 4,000 ล้าน กระจาย อยู่ในทุกจังหวัด ที่นอกเหนือจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นเรื่องของขบวนการบีอาร์เอ็น จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนของกอ.รมน.จังหวัดในภาคใต้ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องให้ความใส่ใจ ในเรื่องนี้ให้มากที่สุด
นี้เรื่องการวางระเบิดแสวงเครื่องที่เกิดขึ้นกับเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ต, พังงา, กระบี่ แค่ 3 จังหวัด และเป็นระเบิด ที่กู้ได้ทัน โดยไม่มีใครต้องบาดเจ็บหรือล้มตาย ยังสร้างความเสียหาย ให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ถึงขนาดนี้ ถ้าตรวจไม่พบ และมีการระบิดขึ้น การท่องเที่ยวของจังหวัดทั้งสามจะเสียหายขนาดไหน สำหรับปัญหานี้คงไม่ต้องไปถาม แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่าจะแก้อย่างไร เพราะแค่เรื่องสารพิษในแม่น้ำกก ที่จ.เชียงราย นายกรัฐมนตรี ยังไม่กล้าที่จะตอบนักข่าว
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์