วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 30 พฤศจิกายน 2566

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

เริ่มต้นที่การเดินทางลงใต้โดยมีหมุดหมาย ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อพบกับ ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อการประชุมร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในกรณีของด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ที่สร้างเสร็จหลายปีแล้วแต่ยังเปิดใช้ไม่ได้ เพราะยังไม่มีการเชื่อมต่อ กับด่านศุลกากรมาเลเซียที่บูกิตกายูฮีตัม ฝั่งมาเลเซีย แต่ถึงจะมีการหารือ ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ แล้วก็จริง แต่กว่าจะเปิดใช้ได้ก็ยังต้องรอถึงปี 2567 และกว่าจะสมบูรณ์จริงๆ ก็ โน่นปี 2568 แต่ก็ถือว่าโอกาสดี ที่ผู้นำทั้งสองประเทศ ได้มีการพบปะสนทนา ในปัญหาระหว่างประเทศ ที่คาราคาซัง มาหลายปี จะได้หมดเรื่องที่ทำการศุลกากรตาบอด เสียที

ส่วนปัญหาใหม่ ที่ ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ที่เมืองชายแดน ติดกับมาเลเซีย ยื่นเรื่องร้องขอให้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ เป็นเส้นทางของรถบรรทุกขนส่งสินค้า เพียงอย่างเดียว ส่วนรถของนักท่องเที่ยว ให้ผ่านเส้นทางด่านศุลกากรเก่า เพราะหากให้รถยนต์ทุกชนิด ใช้เส้นทางด่านศุลกากรใหม่ ธุรกิจการค้าขาย การลงทุน ในเขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ต้องได้รับผลกระทบ เพราะพื้นที่ชายแดนในเทศบาลตำบลสำนักขาม มีโรงแรมรีสอร์ท ทั้งเล็ก-ใหญ่ ถูกต้อง และผิดกฎหมาย นับร้อยโรง มี สถานบันเทิงทุกตรอก ซอก ซอย มีร้านค้าหลายร้อยแห่งถ้าปล่อยให้รถทัวร์ รถของนักท่องเที่ยว ไปใช้ด่านใหม่ ชาวบ้าน, นายทุน ก็จะเจ๊งกันระนาว ก็เป็นหน้าที่ ของท้องถิ่นที่ต้องร่วมกับจังหวัด ในการแก้ปัญหา เพื่อให้มีกรอบ ของน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ไม่ใช่ทุกปัญหา ต้องให้รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีมาแบกรับ ไม่อย่างนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัด,นายอำเภอ, นายกเทศบาล จะมีไว้เพื่ออะไร จริงมั้ย สมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

แต่ที่น่าสังเกตในการหารือ ระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ไม่มีเรื่องของความมั่นคง เกี่ยวกับความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทย กับขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่มีรัฐบาลมาเลเซีย ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก หรือเป็นเพราะเรื่องนี้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยหารือ กับดาโต๊ะเซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ในการเดินทางไปประชุมที่ สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งสอง ได้มีการหารือแบบปิดลับ ถึง30 นาที หรือเหมือนๆ กับทุกรัฐบาล ที่ผ่านมาที่เรื่องสำคัญที่สุด อย่างเรื่องบีอาร์เอ็น ที่ตั้งฐานที่มั่น ในมาเลเซีย แต่มีการปฏิบัติการก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องที่ต้องหารือใต้โต๊ะ เพราะการหารือบนโต๊ะ เป็นเรื่องแสลงของผู้นำประเทศมาเลเซีย

แต่การขับเคลื่อน การพูดคุยสันติสุขหรือการเจรจาสันติภาพ แล้วแต่ฝ่ายไหนจะให้คำนิยาม ก็มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม จากรัฐบาลนิด 1 แล้ว เพราะมีการแต่งตั้ง ฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) ที่ ชวด ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคง เพราะต้องเปิดตำแหน่ง ให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผู้ชวด ตำแหน่ง ผบ.ตร. ไปนั่งในตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) ก่อน 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนั้นการแต่งตั้งให้ ฉัตรชัย บางชวดทำหน้าที่หัวหน้าคณะพูดคุยกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน จึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง 1.เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าคณะพูดคุยฯ เป็น พลเรือน 2.ฉัตรชัย บางชวดรองเลขาธิการสภาความมั่นคง (สมช.) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพูดคุยหรือการเจรจา กับ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน มาเป็นเวลานานหลายปี รู้แจ้ง เห็นจริง กับเหลี่ยม คู เล่ห์กล ของบีอาร์เอ็น, มาเลเซีย และ องค์กรต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น เจนีวาคอลล์ หรือ ไอซีอาร์ซี และอีกหลายกลุ่ม ที่เข้ามาแทรกแซง ในขบวนการสันติภาพ ของไทยและ 3.เป็นการให้รางวัลกับ ฉัตรชัย บางชวด ที่ ชวด ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคง(สมช.) ได้สั่งสมประสบการณ์ ก่อนที่จะได้ขึ้นเป็นตัวจริง ของสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ มี ผู้แทนกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าทำหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการ

ผับเถื่อน เปิดทั่วหาดใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่คอหงส์ มีผับเถื่อน เปิดเกินเวลา ท้าทายให้นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และพล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา คนใหม่ลองเข้าตรวจสอบ ย่านถนนธรรมนูญวิถี ซึ่งไม่ใช่เขตโซนนิ่ง แถมยังเปิดใกล้วัด และสถานศึกษาอีกด้วย ก็ไม่ทราบว่า ทั้งผู้ว่า และ ผู้การ กล้าแตะต้องหรือเปล่า…เพราะผับเถื่อน เปิดเกินเวลา เย้ยกฎหมายมานาน

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์