วันอาทิตย์, 3 สิงหาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 31 กรกฏาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

เรื่องของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็นที่ใช้รัฐกลันตัน และอีกหลายรัฐ ที่ติดกับชายแดนไทย ในการเป็นที่มั่น เพื่อการแบ่งแยกดินแดน มีกองกำลังติดอาวุธ ที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำการก่อเหตุ ทั้งการโจมตี เจ้าหน้าที่รัฐด้วยอาวุธปืน และระเบิดแสวงเครื่องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน ที่เป็นไทยพุทธ และมุสลิม ที่เป็นมวลชน ของรัฐ หลังก่อเหตุ ก็จะหลบหนีไปยังรัฐกลันตัน และรัฐอื่นๆ ที่อยู่ติดกับประเทศไทย รวมทั้งมีการเคลื่อนย้าย อุปกรณ์ในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง จากประเทศมาเลเซีย เข้ามาเพื่อใช้ในการก่อวินาศกรรม และก่อการร้าย ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องเรื้อรัง ซึ่งรัฐบาลของเพื่อไทย เข้ามาบริหารประเทศแล้ว 2 ปี แต่ไม่มีการจัดการ กับปัญหานี้แต่อย่างใด

จำได้ว่า หลายเดือนก่อน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอตัว ในการดับไฟใต้ในฐานะ ที่เป็นที่ปรึกษา ของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม แต่ในระยะหลัง ไม่เห็นบทบาทของทักษิณ ชินวัตรในเรื่องของการดับไฟใต้ และไม่เห็นบทบาท ของการเป็นที่ปรึกษา ของนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียที่จะเป็นประโยชน์ กับเรื่องของการ จัดการ กับ บีอาร์เอ็น ที่มีฐานที่มั่น ในประเทศมาเลเซีย แต่อย่างใด เพราะปัญหาของไฟใต้ ต้องอาศัยความร่วมมือ จากรัฐบาลมาเลเซีย ในการไม่ใช้ที่พักพิง หรือไม่ยินยอมให้บีอาร์เอ็น ตั้งฐานที่มั่น ในประเทศมาเลเซีย สุดท้าย ตำแหน่ง ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ของทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์กับการดับไฟใต้ แต่อย่างใด

วันนี้ บีอาร์เอ็น มีการฝึกนักรบรุ่นใหม่ มีการจัดตั้ง และให้ปฏิบัติการ ก่อเหตุร้าย เพื่อทดแทน กองกำลังติดอาวุธรุ่นเก่า และมีการจัดตั้ง มือปฏิบัติการที่เรียกว่า พลแม่นปืน หรือหน่วยสะไนเปอร์ เพื่อซุ่มโจมตี  ตำรวจ,ทหาร และใน อนาคต อาจจะเป็นหน่วยซุ่มยิง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัด  และที่สำคัญ สถานการณ์ความรุนแรง ผ่านมาแล้ว 21 ปี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังไม่สามารถทำลายแหล่งบ่มเพาะเยาวชน ของบีอาร์เอ็น ดังนั้นเมื่อแหล่งบ่มเพาะ ยังไม่ถูกทำลาย ความหวังที่จะเห็นความพ่ายแพ้ ของบีอาร์เอ็น ต่อ เจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่เกิดขึ้นและที่สำคัญ เรื่องของการทำลายแหล่งบ่มเพาะ และการจัดตั้ง เป็นเรื่องที่โยนกันไปโยนกันมาระหว่าง กำลังทหารจากรบพิเศษ กับกองทัพภาคที่ 4 ตกลงไม่รู้ว่าความบกพร่อง หรือความล้มเหลว ของการที่ไม่ประสพความสำเร็จ ในการทำลายแหล่งบ่มเพาะ ใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และต้องใช้นโยบาย อย่างไรจึงจะได้ผล ในการทำลายแหล่งบ่มเพาะ ในพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก็รู้กันเต็มพุง ว่าแหล่งบ่มเพาะอยู่ที่ไหน

ล่าสุดพล.อ.ณัฐพงษ์ นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ที่เดินทางลงพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ ก็ยังคงให้สัมภาษณ์ ถึงแนวทาง ในการดับไฟใต้ ยังเป็นเช่นเดิม นั้นคือการฝึกกองกำลังท้องถิ่น อย่างอาสาสมัครรักษาดินแดน ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะรับมอบภารกิจ ในการรักษาความสงบในปี 2570 หรือ อีก 2 ปี ข้างหน้า  การให้สัมภาษณ์ เช่นนี้แสดง เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ติดตามสถานการณ์ความรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มองไม่เห็นการพัฒนาการของบีอาร์เอ็น และไม่ได้รับรู้ ถึงความสูญเสีย และไม่ได้ประเมิน ถึงขีดความสามารถของกองกำลังอาสารักษาดินแดน และไม่ได้ถามคนมหาดไทย ที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ว่ากองกำลังท้องถิ่น อย่างกองกำลังอาสารักษาดินแดน รวมทั้งชุดคุ้มครองหมู่บ้าน หรือ ชรบ. มีขีดความสามารถ แค่ไหน เพราะถ้ารู้ถึงข้อเท็จจริง ในพื้นที่ รู้ถึงประสิทธิภาพ ของกองกำลังท้องถิ่น คงจะไม่ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าว อย่างนี้

และที่ต้องถาม คือ สถานการณ์ของไฟใต้ อีก 2 ปี ข้างหน้า  จะดีขึ้น หรือ สถานการณ์ความรุแรงลดน้อยลง จนสามารถที่จะมอบภารกิจ ให้กับกองกำลังท้องถิ่น อย่างไร ในเมื่อ ณ วันนี้มีแต่เหตุการณ์ของความสูญเสีย ที่เกิดกับ เจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนความสูญเสีย ของ บีอาร์เอ็น มีน้อยมาก มีเพียงการจับกุม ผู้เป็นแนวร่วม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งไม่ได้ส่งผลสะเทือน ให้เกิดขึ้นกับ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น แต่อย่างใด และที่น่าวิตก หลังจากนี้ไป กองกำลังท้องถิ่น ทั้งอาสาสมัครรักษาดินแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือชรบ อาจจะกลายเป็นเป้าหมายของบีอาร์เอ็น เพื่อข่มขู่ และสร้างความหวาดกลัว ให้เกิดขึ้น เชื่อเถอะ สถานการณ์ของไฟใต้ถ้าในปี 2568 ยังรุนแรง อย่างที่เกิดขึ้น อีก 2ปี ข้างหน้าความรุนแรง ยิ่งมีมากขึ้น โอกาสที่กองทัพจะถอนทหาร และมอบพื้นที่ ให้กองกำลังอาสารักษาดินแดน เข้ามารับหน้าที่ แทนทหาร ไม่มีทางเป็นไปได้ วันนี้กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ว่าจะมีนโยบาย อย่างไรในการดับไฟใต้ ให้ได้ผล ไม่ใช่รอถึงปี 2570 เพื่อมอบภารกิจ ให้ ฝ่ายปกครอง ก็เห็นอยู่ทนโท่ ว่า กองกำลังอาสารักษาดินแดนที่เป็น ชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. ที่มีอยู่ในทุกตำบล  หน้าที่หลัก คือการรักษาฐานปฏิบัติการ อย่าให้ถูกโจมตี ให้ได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว อย่าหวังว่าจะใช้กองกำลังท้องถิ่น ในการไล่ล่า ติดตามกองกำลังติดอาวุธ หรือ แนวร่วม ของบีอาร์เอ็น หรือการคุ้มครองประชาชน เลย

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์