รอบรั้วเมืองใต้ ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
ยังเหนื่อย และหนัก กับการขับเคลื่อน ในการนำประเทศไปข้างหน้าของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีป้ายแดง ที่เดือนแรกของการเข้ารับภาระ ในฐานะนายกรัฐมนตรี คนล่าสุดของประเทศ เพราะปัญหาของประเทศไทย เป็นปัญหาที่หมักหมม และถูกก้าวข้าม โดยไม่มีการแก้ไขอย่างถาวร แต่ใช้วิธีการแก้แบบเฉพาะหน้า
แม้ว่า รัฐบาลนิดหนึ่ง จะมีความรวดเร็ว ในการแก้ปัญหาเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน แต่ก็เป็นเรื่องของการแก้เฉพาะหน้า ที่ไม่ถาวร เช่น การลดราคาน้ำมันดีเซล การลดค่าไฟฟ้า การตรึงราคาแก๊สหุงต้ม ที่เป็นการแก้โดยการกินเนื้อ ของตนเองในขณะที่กลุ่มทุนไม่ได้รับผลกระทบ แม้แต่กระผีกริ้นและยังคงเสวยสุข อยู่บนความทุกข์ของประชาชน
ส่วนนโยบายการหยุดพักชำระหนี้เกษตรกร แบบเหมาเข่ง ก็เป็นนโยบายที่ไม่ถูกต้องนะ เหตุผล คือเกษตรกรที่เป็นหนี้ ไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อน ทุกคนนะ จำนวนมากยังจ่ายหนี้ ได้เป็นปกติ เพราะเขาทำการเกษตรเป็น ทำแล้วมีกำไร และจ่ายหนี้ได้ ดังนั้น รัฐบาล ต้องมีการแยกแยะ เพื่อที่จะไม่ต้องแบกภาระ ในหนี้สินทั้งหมดของเกษตรกร
และที่สำคัญ ที่รัฐบาลต้องทบทวน หลายรัฐบาลเคยใช้นโยบายการพักหนี้ ให้กับเกษตรกร มาแล้ว 13 ครั้ง แต่ไม่เคยทำให้สถานภาพของเกษตรกร ที่ได้รับการพักหนี้ดีขึ้น แต่อย่างใดทุกคนยังเป็นหนี้อยู่เช่นเดิม ยังแบกดอกเบี้ยหลังแอ่น และคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ก็ยังเป็นผู้ที่ยากจน และก็เป็นหนี้ อย่างเดิม ประเด็นนี้รัฐบาล นักการเมือง นักวิชาการ ต้องคิดให้รอบคอบ และการกลับไปทบทวนอีกครั้ง เพื่อให้การพักหนี้ของเกษตรกร ตรงประเด็น ตรงเป้าหมาย
สำหรับเงินดิจิทัล ที่จะแจกจ่ายให้ฟรี ให้กับคนที่อายุ 16 ปี ขึ้นไปนั้น วันนี้ก็มีการเรียกร้อง ทั้งจากนักวิชาการ และจากสถาบันการเงิน และ กลุ่มบุคคล ที่มีความรู้ ด้วยความเป็นห่วง ที่ รัฐบาล ต้องใช้เงิน ห้าหกแสนล้าน มาแจกฟรี ให้กับทุกคน เพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ ว่า จะมีผลลัพธ์ ในการทำให้เศรษฐกิจ ของประเทศฟื้นตัว ได้จริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริง เศรษฐกิจของประเทศก็จะโงหัว ลุกขึ้นยืน และวิ่งฉิว แต่ถ้าไม่เป็นจริง นั่นหมายถึงหายนะ ที่เกิดจากการก่อหนี้ ก้อนมหึมา ที่คนไทยทุกคน ตั้งแต่เริ่มอุแว้ จนถึงเชิงตะกอน จะต้องรับชดใช้ ฉะนั้นคือโจทย์ใหญ่ ที่เศรษฐาทวีสิน ในฐานะผู้กุมบังเหียนของประเทศ และครม.ต้องคิดให้รอบคอบ ถี่ถ้วน อย่าเห็นแต่เรื่องคะแนนเสียง โดยนำเอานโยบายประชานิยมมาใช้ เพราะผิดพลาด ขึ้นมา คนที่ต้องรับผิดชอบคือ คณะรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นเรื่องของเสี่ยนิดคนเดียว
เรื่องสำคัญของรัฐบาล ชุดนิดหนึ่งคือการมองให้เห็นรากเหง้าของปัญหาเศรษฐกิจ ของประเทศที่รวมศูนย์อยู่กับกลุ่มทุน เพียงไม่กี่กลุ่ม ทั้งในเรื่องอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค และกลุ่มทุนพลังงาน ที่ผูกขาด และเป็นผู้ที่กำหนดชะตากรรม ของคนทั้งประเทศเอาไว้ ประเด็นนี้ต่างหากที่รัฐบาลชุดนี้ ต้องเข้าไปแก้ไขและต้องกล้าที่จะลงดาบ
หลังจากที่ สมนึก พรหมเขียว มาดำรงตำแหน่ง ผวจ.สงขลา แล้ว ผู้เขียนก็จะรอดูฝีมือในการปราบ และสั่งการให้นายอำเภอ ดำเนินการกับร้านอาหารในพื้นที่คอหงส์อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ใช้ใบอนุญาตผิดประเภท เปิดเป็นผับ ให้บริการกันยันสว่าง อย่างไร เพราะที่ผ่านมา ยังไม่มีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปจับร้านอาหารที่ใช้ใบอนุญาตผิดประเภทที่เปิดใกล้วัดและสถานศึกษา ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดมาก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการเปิดร้านมากเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่งงานนี้ต้องขอดูฝีมือท่านผวจ.สงขลาคนใหม่ ครับ ว่าเอาอยู่ไหม
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์