รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
หลังกลับจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมยาหอมให้เป็นความหวัง ของคนในพื้นที่ปลายด้ามขวานในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งปลานิลสายน้ำไหลและปลาพวงชมพูฮาลาบาลา ซึ่งเป็นนโยบาย สร้างเศรษฐกิจ ให้มีเงินสะพัด มีงานทำ แล้วเชื่อว่าปัญหาการก่อการร้าย จะลดลง จะเป็นจริงหรือไม่ ไม่รู้ แต่ที่รู้กันแล้วก็คือ หลังจาก นายกฯนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กลับไปกทม.เพียงวันเดียว กองกำลังติดอาวุธ ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น ก็เปิดฉากโจมตี ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทั้งในพื้นที่จ.นราธิวาส และในพื้นที่ จ.ยะลา ในขณะที่ใช้รถหุ้มเกราะ เป็นยานพาหนะ โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต แต่เป็นการตอกย้ำ ให้เห็นว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีความรุนแรง และยังมีแบบรายวัน ก็ย่อมทำให้ ไม่มีนักท่องเที่ยว และนักลงทุน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และลงทุน ตามความคาดหวังของนายกรัฐมนตรี และหลังจากนั้น นายกฯนิดก็เดินทางไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งก็เป็นเรื่องการพยายามที่จะฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่สิ่งที่ชาวบ้านถามคือ จะทำอย่างไรกับเรื่องปุ๋ยแพง และข้าวเปลือก ราคาถูกนี้แสดงให้เห็นว่า เรื่องข้าวเปลือกแพง เป็นข้าวเปลือกของชาวนา ที่อยู่ในมือของเถ้าแก่โรงสี ไม่ได้อยู่ในมือของชาวนา นี่แหละที่เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ความมั่งคั่ง ในเรื่องของเศรษฐกิจ ไปไม่ถึงมือชาวนา ที่เป็นกระดูกสันหลัง ของประเทศ
วันนี้ นายกฯนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็นำเสนาบดี หลายกระทรวง เดินทางไปประชุมทวิภาคีกับประเทศมาเลเซีย, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย เพื่อขายไอเดีย โครงการต่างๆ ในประเทศไทย หวังให้กลุ่มทุนจากประเทศต่างๆ เดินทางมาลงทุนในประเทศไทย
เช่นเดียวกับที่เคยเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น ฯลฯ ในการโรดโชว์ โครงการแลนด์บริดจ์ที่เป็นสะพานบก เชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับทะเลจีนใต้ ซึ่งผ่านไปแล้ว หลายเดือน ยังไม่มีเสียงตอบรับ ว่าจะมาลงทุน ในโครงการแลนด์บริดจ์แม้แต่รายเดียว ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า บทบาทของนายกฯนิด จะเป็นได้เพียงเซลล์แมน ที่ขายฝัน หรือขายของจริง วันเวลาจะเป็นผู้ให้คำตอบ เพราะวันเวลาไม่เคยหลอกลวงใคร
นี่ก็ใหญ่คับฟ้า คุยใหญ่ คุยโต จัดงานเทศกาลดนตรี ที่หน้าสถานีรถไฟนาหม่อม อ.นาหม่อม จะจัดให้มีการเล่นการพนันปาโป่ง ปาเป้า บิงโก หยิบสลาก อ้างมีใบอนุญาตให้เล่นการพนันในงานได้ ไม่มีใครกล้าจับ ก็ไม่ทราบว่าเป็นนโยบายของท่านนายอำเภอนาหม่อม หรือไม่ ที่อนุญาตให้มีการเล่นการพนันประเภท 5 ทำให้เจ้างานโอ้อวดความยิ่งใหญ่ เปิดเล่นการพนันได้เต็มรูปแบบ ครับ ถ้าหากมีเด็กหรือเยาวชนเข้าไปเล่นการพนันเหล่านั้น ถามผู้กำกับ สภ.นาหม่อม หน่อยครับ ว่า ผิดกฎหมาย หรือไม่ครับ ผมไม่เชื่อนายทุนจัดงานคุยว่าได้จ่ายให้…..เพื่ออำนวยความสะดวกไฟเขียวให้เล่นการพนัน ปาโป่ง ปาเป้า และอื่นๆ เต็มพิกัด แล้วยังคุยเสียงดังอีกว่า กับนักข่าวสามารถปิดข่าวด้วยฝ่ามือได้ ผมจะรอดูครับ คุณ อ.อ่าง……ข่าวว่าหลังจากจัดงานที่นี้แล้ว ก็จะไปเปิดจัดงานที่ ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา อีกแถมคุยดังๆ เช่นกันว่า ที่นี้ก็เปิดเล่นการพนันประเภท 5 ได้ โดยที่ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ไม่กล้าจับ
ส่วนที่หาดใหญ่ ผับเถื่อน ก็ยังคงเปิดให้บริการทุกค่ำคืน เปิดเกินเวลา มั่วยา….กันเต็มที่ มีเพียงใบอนุญาตให้ขายสุรา แต่สามารถเปิดเป็น ผับเถื่อน ได้ แสดงว่าเส้นใหญ่น่าดู แม้แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ยังไม่กล้ายุ่ง คิดเอาเอง ผับเถื่อน สามารถเปิดนอกโซนนิ่งได้ หนักไปกว่านั้นเปิดใกล้วัด และโรงเรียนได้ คิดเอาเองว่าเส้นใหญ่ขนาดไหน…ไหนว่าจะปราบผู้มีอิทธิพล
ที่ อ.สะเดา ก็ไม่แพ้หาดใหญ่ ทั้งผับเถื่อน โรงแรมเถื่อน ของเถื่อนน้ำมันเถื่อน วิ่งกันเต็มด่านนอก….ท่าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ไม่ลองแวะมาดูบ้างหรือครับ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์