วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 8 กุมภาพันธ์ 2567

รอบรั้วเมืองใต้ ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น

เริ่มต้นที่การเมืองภาพใหญ่ ของประเทศไทย ที่วันนี้รัฐบาลนิด 1 ภายใต้การขับเคลื่อนโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่แม้ว่าคลื่นลม ในพรรคร่วม จะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เพราะทุกพรรคการเมืองต่างตระหนักดีว่า ทุกพรรคยังไม่ต้องการไม่พร้อมที่จะเห็นการเมืองในพรรคร่วมมีปัญหา และทุกพรรคต่างพยายามที่จะหาคะแนนเสียง ด้วยการผลักดันโครงการที่หาเสียงไว้กับประชาชน รวมทั้งอยู่ในห้วงเวลาของการสะสมเสบียงกรัง เพื่อรับการเลือกตั้ง ครั้งหน้าให้มากที่สุด เพราะไม่มีอะไรที่จะการันตีได้ว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม 4 ปี แต่ทุกพรรคต่างคาดหวัง ที่จะเป็นรัฐบาล ให้อยู่แบบครบเทอม เพราะทุกพรรคไม่พร้อม ที่จะเลือกตั้ง หากรัฐบาลเกิดอุบัติเหตุ ที่ต้องยุบสภา หรือลาออก ดังนั้นจึงเป็นโชคดีของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ต้องรับศึกภายใน กับพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้มีเวลาในการรับมือ กับพายุเศรษฐกิจ ที่ยังโหมกระหน่ำมารอบทิศทาง ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ที่ยังไม่เห็นผลจากการขับเคลื่อน ในหลายๆโครงการ เช่น ฟรีวีซ่า กับประเทศจีน และประเทศอื่นๆ เพื่อหวังดึงเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยว เข้าประเทศ ซึ่งยังไม่มีตัวเลข ที่ชี้ชัด ว่าจะได้ผลหรือไม่ ในขณะที่ผลกระทบจากสงคราม รัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ สินค้าหลายอย่างแพงขึ้น เช่นปุ๋ยเคมี ที่มีความจำเป็นสำหรับเกษตร และวันนี้ สงครามในทะเลแดง ที่ปะทุขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับพันธมิตร กับกลุ่มติดอาวุธในเยเมน และประเทศในตะวันออกกลาง ที่ทำให้ค่าขนส่งสินค้าทางเรือแพงขึ้นตามราคาระวางเรือบรรทุกสินค้า ที่ขยับขึ้น 5 เท่า เพื่อรองรับความเสี่ยง นั่นหมายความว่าสินค้าจำนวนมากในประเทศไทย จะต้องมีการปรับราคา ตามต้นทุนการขนส่ง เป็นการซ้ำเติมคนส่วนใหญ่ในประเทศ โดยเฉพาะรากหญ้า และผู้ใช้แรงงาน ที่วันนี้เพื่อไทย ยังไม่ได้ขึ้นค่าแรง และเงินเดือน ตามที่มีการหาเสียงกับประชาชน เช่น ค่าแรง400 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทซึ่งก็ไม่รู้ว่าทั้ง เสี่ยนิด และอิ๊งอิ๊ง ยังจำได้หรือไม่ว่าเคยประกาศ ไว้ทุกเวทีที่ไปหาเสียง

ที่จังหวัดสงขลา มีสองคดีดังถึง 2 ข่าว โดยเหตุหนึ่งเกิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงบ้านสาวกลางดึกของวันที่ 27 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาทำให้ประตูบ้านได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหาดใหญ่ได้มีการแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด รู้ตัวคนร้าย จนตกเป็นข่าวดัง ซึ่งคดีนี้ ทาง พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ต้องจับตามองคดีนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากมีข่าวว่าจะมีการล้มคดี พร้อมจ่ายเป็น….กระสอบๆ…ก็ต้องดูว่าคดีนี้จะมีการล้มมวยกันหรือไม่

ส่วนอีกคดีก็เป็นการยิงกันตายเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.คลองแงะ อ.สะเดา ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว ซึ่งคดีนี้ ทาง พ.ต.อ.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ คนเป็น ผกก.สภ.คลองแงะ ต้องจับตาดูคดีนี้ให้ดี อย่าให้เป็นมวยล้มเช่นกัน ผิดก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า อย่าให้มีการล้มคดีเด็ดขาดผมเชื่อว่าทั้งสองผู้กำกับ เป็นนายตำรวจมือสะอาด โปร่งใส ให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่ายครับ

วกมาถึงเรื่อง ผับเถื่อนที่เปิดกันเกลื่อนเมืองหาดใหญ่ ทั้งฝ่ายปกครอง และตำรวจ ทหาร ไม่มีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปจับ ผับเถื่อน หรือขอดูใบอนุญาตว่าเปิดเป็นร้านจำหน่ายสุรา หรือเปิดเป็นผับถ้าเปิดเป็นร้านจำหน่ายสุรา ก็ต้องไม่มีดนตรีเล่น พนักงานบริการ เปิดให้มีการเต้นรำภายในร้านเด็ดขาด แต่ถ้าเป็นผับเถื่อนทำได้หมดทุกๆ อย่าง แม้แต่คนอายุไม่เกิน20 ปี เข้าไปมั่วยาเสพติด ได้บางแห่งเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เปิดเพลงเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านที่ต้องการพักผ่อนเวลานอน แปลก หาดใหญ่ สามารถเปิดผับเถื่อนได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านกำลังให้ความสนใจ รอดูว่าท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะส่งมือดี ลงมาตรวจสอบและจับกุมไหม …เพราะมีคนอ้างเป็นนักการเมืองอ้างเป็นคนสีกากี ถือหุ้นใหญ่ จึงเปิดผับเถื่อน ยันสว่างได้ ถ้าให้ดี บิ๊กต่อ ผบ.ตร.ลองส่ง ตำรวจสอบสวนกลางบินลงมาตรวจสอบสักหน่อยน่าจะดีครับเพราะที่นี้ เส้นใหญ่ ไม่แพ้คนอยู่ชั้น 14 ครับ

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์