วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 9 พฤศจิกายน 2566

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคมชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

ถึงคิวที่ เศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางมาตรวจราชการในภาคใต้ตอนล่างเสียที หลังจากที่ตระเวนลงพื้นที่ไปแล้วทุกภาคของประเทศ หลังเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีปาเข้าเดือนที่สาม

ข่าวว่าหลังกลับจากการประชุมระดับโลก ที่สหรัฐอเมริกา จังหวัดสงขลาคือหมุดหมายแรกที่ เศรษฐา ทวีสิน จะมาติดตามเรื่องเศรษฐกิจเมืองชายแดน ปัญหาของด่านศุลกากรสะเดา ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่สร้างแล้วเปิดใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีการวางแผน ในเรื่องการเชื่อมถนน ระหว่างที่ทำการฯ กับ ถนนสายหลักในประเทศ และไม่ได้ทำข้อตกลงในการให้ประเทศมาเลเซีย ตัดถนนจากด่านศุลกากรมาเลเซียมาเชื่อมกับถนนของประเทศไทยที่ชายแดนไทย คือความล้มเหลวของราชการไทย ที่คิดแต่เรื่องงบประมาณการก่อสร้าง และไม่ได้คิดถึงการใช้ประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ ในการสร้างเศรษฐกิจชายแดนให้กับประเทศชาติ เรื่องความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นกับเรื่องด่านศุลกากรอำเภอสะเดา เป็นปัญหาคาราคาซังมาตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก แต่การแก้ปัญหาไม่ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญ กรมศุลกากร เจ้าของเรื่อง เจ้าของปัญหาเงียบเป็นเป่าสาก ปล่อยให้หน่วยงานอื่นๆ เป็นผู้เข้าไปแก้ปัญหาที่กรมศุลกากรสร้างขึ้น

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเศรษฐา ทวีสิน จะมียุทธศาสตร์ในเรื่องการสร้างเศรษฐกิจ ของภาคใต้ตอนล่าง อย่างไรนอกจากเรื่องของการค้าชายแดน เรื่องท่าเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 2 จะมีการขับเคลื่อนหรือไม่ เรื่องของเมืองต้นแบบที่ 4หรือนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่รัฐบาลชุดก่อนได้มีมติไปแล้วให้มีการก่อสร้าง จะมีการสั่งการ ให้เดินหน้าได้หรือไม่ เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ที่เงียบงัน ในสมัยของรัฐบาลชุดเก่า ยังจะมีการเดินหน้า หรือยกเลิกและเรื่องเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ของ จ.สงขลาและภาคใต้ตอนล่าง ที่ยังคงซบเซา อย่างต่อเนื่อง เศรษฐา ทวีสิน จะมีไอเดีย อะไรที่จะทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยว กลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีต เพราะ ณ วันนี้ ทุกอย่าง ทั้งในเรื่องการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ก็ต้องพึ่งพาท่าเรือของประเทศมาเลเซีย เรื่องการท่องเที่ยวก็ต้องนั่งรอนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย แม้แต่แรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องพึ่งพา มาเลเซีย ถ้ามาเลเซียเข้มงวดกวดขันแรงงานนับแสนคน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะกลายเป็นคนตกงานทันที

ข่าวว่าการเดินทางมา จ.สงขลา ของ เศรษฐา ทวีสิน ครั้งนี้จะมีการพบปะกับดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิบ นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียด้วย ซึ่งก็จะเป็นการดีกับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะไทยกับมาเลเซียมีปัญหาเรื่องการพัฒนาชายแดนหลายเรื่องที่คาราคาซังมากว่า 10 ปี เช่น เรื่องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลกจ.นราธิวาส แห่งที่ 2 เรื่องการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อเชื่อมกับ เมืองเปิงการันกูโบรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น เรื่องเหล่านี้มันควรจะจบได้เสียที

ชาวหาดใหญ่ชื่นชม พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่ทำโครงการคืนทางเท้าให้ประชาชนโดยให้เจ้าของบ้านย่านถนนราษฎร์อุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำการโยกย้ายสิ่งของที่วางบนทางเท้าไม่ว่าจะทำเป็นซุ้มร้านขายของ หรือซุ้มขายกาแฟ ก็ขอความร่วมมือให้ย้ายเข้าไปวางในบ้าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันเอสโซ่ มีการทำเป็นซุ้มขายกาแฟแบบถาวรและวางโต๊ะเก้าอี้ ขายกาแฟกันบนทางเท้าทำให้ประชาชนที่สัญจรไป-มา บนทางเท้าไม่ได้ ต้องลงไปเดินบนถนน อันนี้ทางเทศกิจเทศบาลนครหาดใหญ่ควรจะลงตรวจสอบ จะเป็นการดีครับเพื่อคืนทางเท้าให้ประชาชน

ร้านขายเหล้า ย่านถนนธรรมนูญวิถี พื้นที่คอหงส์ อ.หาดใหญ่ไม่มีใบอนุญาตเปิดเป็นผับ แถมเปิดใกล้วัดและสถานศึกษา ยังคงเปิดเย้ยกฎหมายข้าไม่มีใบอนุญาต จะเปิด ใครจะทำไม งานนี้พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9ลองสั่งการให้ผู้การป้ายแดงสงขลาลงตรวจสอบดำเนินการสักหน่อยก็น่าจะดีนะครับ

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์