วันที่ 31 มีนาคม 2568 เวลา 14.30 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 จัดการประชุมระดับผู้บริหารหน่วยในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 2 โดยมี พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ผอ.ศรชล.ภาค 2) เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา/ผอ.ศรชล.จว.ใน ศรชล.ภาค 2 (จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส) ตลอดจนผู้บริหารจากหน่วยงานที่บูรณาการร่วมกับ ศรชล.ภาค 2 ประกอบด้วย ทัพเรือภาคที่ 2 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สำนักงานประมงจังหวัดสงขลา สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมที่โรงแรม ลากูน่า แกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผอ.ศรชล.ภาค 2 กล่าวว่า “การประชุมครั้งนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจ บทบาท และผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของ ศรชล.ภาค 2 รวมถึงการรับทราบนโยบายและแนวทางปฏิบัติสำหรับปีงบประมาณ 2568 นอกจากนี้ การประชุมยังเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันหารือและแสดงความคิดเห็น เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 2 อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”
ผอ.ศรชล.ภาค 2 กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญในช่วงปีงบประมาณ 2568 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) ได้มีการปฏิบัติภารกิจในหลายด้าน ทั้งการบังคับใช้กฎหมายและการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ประชุมได้นำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกำหนดแผนการฝึกซ้อมและทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่อแผนเผชิญเหตุในด้านต่าง ๆ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล, การขจัดคราบน้ำมัน, การต่อต้านการก่อการร้ายบริเวณฐานขุดเจาะน้ำมัน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมรับมือภัยคุกคามทั้ง 9 ด้าน เพื่อให้ภารกิจการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ ผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของ ศรชล.ภาค 2 ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำไทย โดยสามารถควบคุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม (ประเภทคราดปลิง) ได้ 3 ลำ พร้อมลูกเรือ 15 คน, การปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย เช่น การใช้เครื่องมือผิดกฎหมายอย่างโพงพางและลอบพับได้ (ไอ้โง่), การตรวจยึดสินค้าหนีภาษีและผิดกฎหมาย โดยสามารถตรวจยึดบุหรี่ผิดกฎหมายมูลค่ากว่า 157 ล้านบาท, ภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ได้แก่ การช่วยเหลือลูกเรือจากเหตุเรือประมงอับปาง 6 ครั้ง รวม 315 คน การให้ความช่วยเหลือกรณีลูกเรือได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย 11 ครั้ง
