วันศุกร์, 27 มิถุนายน 2568

สังคมภูมิภาคใต้ตอนล่าง…คลิปเสียง ‘หลานอิ๊งค์-อังเคิลฮุน’พ่นพิษไม่เลิก จับตา ‘ม็อบ’ไล่ ‘นายกฯ’

27 มิ.ย. 2568
11

”การเมือง” ที่”ไร้เถียรภาพ” หลังเกิด”คลิป” การ”สนทนา” ระหว่าง” อังเคิล” ชาว”กัมพูชา” กับ”หลานรัก”ที่เป็น”คนไทย” ที่ถูก”ประชาชนคนไทย” ส่วนใหญ่ ที่ได้ฟังการ”สนทนา” แล้ว มีความเห็นว่า”ขายชาติ” และมีความ”เคลื่อนไหว” จาก”ทุกภาคส่วน”ยกเว้น”พรรคร่วมรัฐบาล” ให้” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” ให้”ลาออก” จาก”ตำแหน่ง” หรือการ”ยุบสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อให้มีการ”เลือกตั้งใหม่” เพราะ”เสียงส่วนใหญ่” มีความเห็นที่ตรงกันว่า” นายกรัฐมนตรี” ไม่มี”วุฒิภาวะ” ของการเป็น”ผู้นำ” เป็นผู้ที่”ด้อยประสพการทางการเมือง” หรือที่”ภาษาชาวบ้านคือ” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ที่”ไม่รู้สี่รู้แปด” ถ้ายังให้เป็น”ผู้นำประเทศต่อไป อาจจะสร้างความ”หายนะ” ให้เกิดขึ้น มากกว่าที่”เป็นอยู่” …..เพราะ 1 ปี ที่”เธอ” ทำหน้าที่”บริหารประเทศ” ยังไม่เห็น”ผลงาน” ในการ”แก้ปัญหา” ประเทศ จาก”เธอ”แม้แต่”เท่าเม็ดงา” ก็ยังไม่เห็น”ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”เศรษฐกิจ” เรื่อง”ปากท้อง” เรื่อง”ราคาพืชผลทางการเกษตร”ที่”ตกต่ำ” เรื่อง”ราคาสินค้า” ที่”แพงทั้งแผ่นดิน” เรื่องของการ”ปราบปรามยาเสพติด” เรื่องการแก้ปัญหา”ทุจริตคอร์รับชั่น” และอีก มากมายมหาศาล ที่เรียกว่า”ล้มเหลว” หรือไม่มีการ”แก้ปัญหา” ที่เกิดขึ้น…..ล่าสุดเรื่องของ”ความมั่นคง” ในกรณี”ไทย-กัมพูชา” ที่”เธอ” แสดงให้รู้ว่าไม่มี”ภูมิรู้” ไม่รู้เรื่องของ”ความมั่นคง” ของประเทศนี้แม้แต่”กระผักริ้น” ตั้งแต่เรื่องการ”เปิด-ปิด ด่าน พรมแดน” ที่”เธอ”สั่งการให้” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ 2 ไป “เจรจา” กับฝ่าย”กัมพูชา” ให้มีการ”เปิด-ปิด” พร้อมกัน  และ”ล่าสุด” คือ”คลิปเสียง”ระหว่าง”เธอ” กับ”อังเคิล” หรือ”นายฮุนเซ็น” ผู้มี”บารมี”ของ”กัมพูชา” ที่”เธอ” ยอมทุกอย่างขอให้บอกมา และมีการ”ด้อยค่า” ของ”ทหาร” และ”กองทัพ” ที่ในการ”แถลงข่าว” ไม่ได้มีการ”ขอโทษ” คนไทย มีแต่การ”โทษ” ว่า” อังเคิล” ของ”เธอ” ทำผิดทาง”การทูต” ที่ทำการ”อัดคลิป” และ”ปล่อยคลิป” ให้คน”ทั้งโลก” ได้”รู้เช่นเห็นชาติ” ที่เกิดขึ้น มาจนถึง”ป่านนี้” เธอ ยังไม่รู้ว่า “ทำผิด” และยังต้องการทำหน้าที่ของ”ผู้นำประเทศ” ต่อไป “อนิจจา” ประเทศไทย ทำไมถึงมี”เคราะห์กรรม” ขนาดนี้

ที่น่า”อเนจอนาถ”ยิ่งกว่าคือ”พรรคร่วม” ที่”ไม่รู้สามรู้สี่” ยิ่งกว่า”พรรคเพื่อไทย” ที่ออกมา”แถลงการณ์” พร้อมที่จะ”สนับสนุน” ให้” พรรคเพื่อไทย” และ”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ต่อไป โดยอ้างความ”จำเป็น” ของการต้อง”เดินไปข้างหน้า” ของ”ประเทศไทย” ทั้งที่เป็นการ”เดินไปสู่หลุมฝังศพ” และวันนี้”เพื่อไทย”และ”ผู้นำ”ประเทศ” ก็ไม่ต่างจาก”ซากศพ” เพียงแต่เป็น”ซากศพ” มี”ราคา”มี”สมบัติ” นั้นคือ”ตำแหน่ง”ของ”รองนายก” รัฐมนตรี “ และ” รัฐมนตรีช่วย” จำนวน 9 ตำแหน่ง เพื่อ”แบ่งปัน”ให้”พรรคร่วม” ไป”แสวงหาประโยชน์” จากการได้”ร่วมรัฐบาล” ต่อไป จนกว่าจะถึงวันที่”แพทองธาร ชินวัตร” เดินไปสู่การ”สิ้นสุดทางเลื่อน” และ”ยุบสภา” เพื่อการ”เลือกตั้งใหม่”…..เชื่อเถอะการ” ปรับ ครม.” ครั้งนี้ของ”พรรคเพื่อไทย” และ”พรรคร่วม” ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์”ของ”ประเทศชาติ” และ”ประชาชน” ไม่เชื่อ ก็”คอยดู” ว่าผู้ที่ถูกส่ง”จากพรรคการเมืองต่าง” มานั่งเป็น”เสนาบดี” เป็นคนที่มี”ความรู้”มีความ”สามารถ”ที่ตรงกับ”เนื้องาน” ของ”กระทรวงนั้นๆ “หรือไม่ เพราะ”สุดท้าย” เป็นเพียง”นายทุน” ผู้เป็น”กระเป๋าเงิน” ของแต่ละพรรค เป็นการเข้ารับ”ตำแหน่ง” เพื่อการ”สะสมเสบียงกรัง” ไว้สำหรับการ”เลือกตั้ง” ครั้งใหม่ เพราะ ทุกพรรคการเมือง ต่างรู้ว่า ในการ”เลือกตั้ง” ครั้งต่อไปเป็นการ”เลือกตั้ง” แบบ”บ้านใหญ่” ที่ต้อง”แข่งขัน”ในการ”ใช้เงิน” ในการ”ต่อสู้” กับ”พรรคเพื่อไทย” ที่หวังจะเป็น”พรรคอันดับหนึ่ง” เพื่อการ”ได้สิทธิ์” ในการ”จัดตั้งรัฐบาล” เพราะ”เป้าหมาย” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มี”บารมี”ของ”พรรคเพื่อไทย” เพราะ “คดี” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ยัง”คาราคาซัง” ทั้ง 2 คดี และที่”สำคัญ” วันนี้”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผู้เป็น”น้องเลิฟ” ยัง”ระเหเร่ร่อน” อยู่”ต่างประเทศ” ยังมองไม่เห็น”ประตู” ในการเดินทางกลับ”ประเทศไทย” ดังนั้นวันนี้”ทักษิณ ชินวัตร” จึงยังต้องทำ”ทุกวิถีทาง” ในการอยู่บน”อำนาจทางการเมือง” ของ”ประเทศไทย ที่ยอมแม้จะ”เสี่ยง” กับการถูกทำ”รัฐประหาร” อีกครั้งก็ตาม

และ”สถานการณ์”ทาง”การเมือง” หลังการ”ปรับ ครม.” จึงจะมีเหตุ”วุ่นวายโกลาหล”ตามมา เช่น” ม็อบ” ที่มีการ”รวมตัว” เพื่อการ”ขับไล่”นายกรัฐมนตรี” ที่ ครั้งนี้อาจจะ”มากกว่า” ในทุกครั้ง เพราะ”กระแสความไม่พอใจ” ของ”ประชาชน” ทั้งที่เป็นไปโดย”ธรรมชาติ” และจากการ”ปลุกปั่น”โดยนำเอาเรื่องของ”คลิป” ให้เกิดความ”เกลียดชัง” นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง”มวลชน”ที่ถูก”จัดตั้ง” ที่เป็นเหมือน”ปลายหอกปลายดาบ” ที่ถูก”ทิ่มแทง” เข้าใส่” นายกรัฐมนตรี” อยู่”ตลอดเวลา”และที่”สำคัญ” คือการที่”สมาชิกวุฒิสภา” ได้ยื่นเรื่องต่อ”ศาลรัฐธรรมนูญ” เพื่อให้มีการ”ถอดถอน” ในข้อหา”ผิดจริยธรรม” จะทำให้”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ที่ไม่มี”ความสุข” เพราะ”ศาลรัฐธรรมนูญ” อาจจะใช้เวลาเพียง 2 -3 เดือน ในการ”ตัดสินคดี” และ”เธอ” มี”โอกาส” ที่จะ”เจริญรอย”ในเส้นทาง”การเมือง” เช่นเดียวกับ”เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี และอีก”ปัญหา” ที่จะเกิดกับ”ครม. ก็คือการ”ไร้เสถียรภาค” มีการ”แก่งแย่ง”เกิดขึ้นใน”ครม.” …..ส่วนเรื่อง”รัฐประหาร” ยังคงจะไม่เกิดขึ้น”เพราะ”ยุทธศาสตร์” ของ”พรรคเพื่อไทย” หลังการ”เพลี่ยงพล้ำ”จากเรื่องของ”คลิปเสียง” ที่ถูกกล่าวหาว่า”ขายชาติ” และ”ทำให้”เกียรติภูมิ”ของประเทศ”และของ”ทหาร” คือการที่”พรรคเพื่อไทย” ได้”สยบยอม”ทุกอย่างต่อ”กองทัพ” เพื่อความ”อยู่รอด” ใน”ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” รวมทั้งอาจจะยอมที่”ยกตำแหน่ง” เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ให้กับ”กองทัพ” เพื่อให้”รัฐบาล” อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้น “เรา ท่านๆ” ก็อย่าได้”คาดหวัง” ว่าจะได้เห็น”ปัญหา”ของ”ประเทศชาติ” จะได้รับการ”แก้ไข” จาก”รัฐบาล” หลังการ”ปรับ ครม.” สิ่งที่ดีที่สุดคือ”แก้ปัญหา” ด้วย”ตนเอง” โดยไม่ต้อง”รอ” รัฐบาล หรือ”เสนาบดี”กระทรวงไหนทั้งสิ้น

มาดูเรื่อง”ผลกระทบ”จาก”สงคราม”ระหว่าง”อิสราเอล”กับ”อิหร่าน” และอีกหลายประเทศใน”ตะวันออก”กลาง” ที่วันนี้มีข่าวการ”ปิดช่องแคบเฮอร์มุช”” เกิดขึ้นหาก”สงคราม” มีการ”พัฒนา”ไปสู่ความ”รุนแรง” มากขึ้น ซึ่งจะ”กระทบ” กับการ”ขนส่ง” ทั้งโลก โดยเฉพาะเรื่องของ”พลังงาน” ทั้ง”น้ำมัน”ทั้งก๊าซ” ที่ วันนี้มี”ผลกระทบ”กับ”ราคาน้ำมัน”ในประเทศไทยแล้ว มีการ”ตรึงราคาดีเซล” ด้วยการลดการ”เก็บเงินเข้ากองทุน” เพื่อ”แก้ปัญหา”โดยไม่ขึ้น”ราคาขายปลีก” ซึ่งเป็นนโยบาย”แก้ผ้าเอาหน้ารอด”ของ”กรมพลังงาน” กระทรวงพลังงาน ที่มี”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” เป็น”เสนาบดี” ซึ่งก็”ดีแต่พูด” แต่ยังไม่เห็น”ผลงาน” ในการแก้”ปัญหา”การ”ผูกขาด”ของกลุ่มทุนพลังงาน” แต่อย่างใด ถามว่าการ”ตรึงราคา “โดยการ”ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน” จะทำได้ยาวนานขนาดไหน และเป็นการทำให้”กองทุนน้ำมัน” ต้องติดลบ”กี่แสนล้าน” นี่เป็น”หนี้” ที่”คนไทย” ต้อง”ชดใช้” ใน”วันข้างหน้า” และถามว่าจนถึง”ชั่วโมงนี้” รัฐบาลของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ได้มี”นโยบาย” หรือมีการตั้ง”คณะทำงาน” ขึ้นมา”รับมือ” กับ”สถานการณ์” ที่”ปะทุ”ขึ้นจาก”ความขัดแย้ง”ใน”ตะวันออกกลาง” แล้วยัง หรือต้องรออีก”กี่โมง” รัฐบาล จึงจะ”สำเหนียก” ถึง”ภยันตราย” ที่จะเกิดขึ้นกับ”คนไทย” ทั้ง”ประเทศ” เพราะถ้า”น้ำมันแพง”กว่าที่”แพงอยู่แล้ว” เมื่อไหร่ เมื่อนั้น”สินค้า”ทุก”ชนิด” จะ”พาเหรด”ด้วยการ”เดินขบวน”ปรับขึ้นราคา” รัฐบาล”รับไหว แต่”คนยากจน” ที่เป็นคน”ส่วนใหญ่”ของ”ประเทศ”รับไม่ไหว” ความ”เวทนาเสดสา” จะเกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน

ที่สำคัญ”เม็ดเงิน” จากการ”ท่องเที่ยว” ที่เคยเป็น”รายได้”ที่เป็น”กอบเป็นกำ”เข้าประเทศ และ”สะพัด” ไปยัง”ประชาชน” สาขาอาชีพต่างๆ ที่เคยได้รับ”อานิสงส์” วันนี้”หดหาย”ไปอย่างน่า”หดหู่” ภาคใต้วันนี้ “เมืองท่องเที่ยว” ที่เคย”คึกคัก” ด้วย”นักท่องเที่ยวต่างชาติ” อยู่ในสภาพที่”โหรงเหรง” แม้แต่”เกาะภูเก็ต” ที่เคยเป็น”เกาะสวาทหาดสวรรค์” ก็มี”ผลกระทบ” จาก”นักท่องเที่ยว” ที่”น้อยลด” และวันนี้”รัฐมนตรี”ที่ดูแล”กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา” ก็กลายเป็น”บุคคล” ที่”สาบสูญ” ไปจาก”หน้าสื่อ” จึงไม่สามารถ”รู้ได้”ว่า การแก้ปัญหาการ”ท่องเที่ยว”ของ”ประเทศไทย จะแก้อย่างไรที่จะให้”ฟื้นคืน” มาเหมือนเดิม…..ยิ่งการค้า”ด่านพรมแดน” ไม่ว่าจะไปดูที่”พรมแดนไหน” มีแต่เรื่อง”ของเถื่อน” จาก”ประเทศเพื่อนบ้าน” ที่ถูก”ขบวนการค้าของเถื่อน” นำเข้ามา”จำหน่าย” ในประเทศไทย ส่วน”สินค้าไทย” ที่เคย”เฟื่องฟู” ใน”เมืองชายแดน” อยู่ใน”สภาวะ”ที่”ซบเซา” เพราะ”นักท่องเที่ยว”ที่”หดหาย” และขาดการ”ส่งเสริม”จาก”ภาครัฐ”….กรณีการ”ปิดด่าน”ด้าน”กัมพูชา” ตั้งแต่”สระแก้ว, อุบลราชธานี, ศรีษะเกษ,สุรินทร์” และ” ตราด” ถ้า”เนิ่นนาน”ไป ไม่ใช่”กัมพูชา” ที่จะ”เดือดร้อน” ฝ่ายเดียว แต่หมายถึง “เศรษฐกิจ” การค้า”แนวชายแดน” ได้รับ”ผลกระทบ” และ”เดือดร้อน” ตั้งแต่ผู้”ส่งออก”  ผู้”ค้าขาย” ใน”แนวชายแดน” และ”เมืองชายแดน” รวมถึง”ประชาชน” ที่เป็นเกษตรกร ที่จะขาย” ผลผลิต”ทางการ”เกษตร”ไม่ได้ นี่คือ”ผลกระทบ” ในเรื่อง”เศรษฐกิจ” ที่จะตามมาเป็น”ลูกโซ่” ซึ่ง”รัฐบาล” ไม่รู้หรอกว่าเป็น”ผลพวง”ของการ”ไร้ฝีมือ” ในการ”บริหารประเทศ” ที่”ประชาชน”ต้อง”แบกรับ”

ไม่รู้จะว่าอย่างไร กับเรื่องของการ”ก่อความไม่สงบ” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” นอกจากจะ”บอกว่า” เจ้าหน้าที่ยังมีความ”บกพร่อง”ในการ”ป้องกันเหตุ” เช่นการวางระเบิด”แสวงเครื่อง” ใน”งานกาชาด”ของ”จังหวัดปัตตานี” ที่”เจ้าหน้าที่” มีความ”หละหลวม” ปล่อยให้”คนร้าย” แอบย่องเข้าไป”วางระเบิด”ใน”บริเวณที่จัดงาน” ทำให้มีผู้ได้รับ”บาดเจ็บ” ทั้ง”ประชาชน” และ”เจ้าหน้าที่”รวม 7 คน นี่เป็น”ครั้งที่สาม” ที่”การ”ป้องกันตัวเมือง”หรือ”เขตเทศบาลเมืองปัตตานี”มีความ”ล้มเหลว” โดย ปล่อยให้”คนร้าย” หรือ”แนวร่วม”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น”เข้ามา”ก่อการร้าย”ถึง”กลางใจเมือง” ทั้งที่ใน”เขตเทศบาลเมืองปัตตานี” เต็มไปด้วย”จุดตรวจ จุดสกัด” ทั้ง”อาสารักษาดินแดน” และ” ตำรวจภูธร”และ”นปพ.” แต่ก็เหมือน”จ่าเฉย” เพราะไม่สามารถ”สกัดกั้น” การ”ก่อเหตุ” สำหรับ”จุดอ่อน” ที่เกิดขึ้นจากการ”วางระเบิด” ใน”งานกาชาดปัตตานี”ครั้งนี้ มาจาก” หลัง”เที่ยงคืน” ที่”งานเลิก” ประชาชนเดินทางกลับบ้าน “เจ้าหน้าที่” ซึ่งทำหน้าที่รักษาความสงบ” ก็กลับ”ที่ตั้ง” ปล่อยให้มี”ตำรวจ นปพ.” อยู่”เฝ้าป้อมยาม” เพียง 2 นาย จึงเป็นเหตุให้”แนวร่วม” นำ”ระเบิดแสวงเครื่อง” เข้ามา”ติดตั้ง” และ”ก่อวินาศกรรม” ได้ผล

ไม่ผิดกับการใช้”กับระเบิด” ชนิดที่”ใช้เหยียบ” ไป”ติดตั้งใน”ป่าหญ้า” และใช้”ยุทธวิธี” ทำให้”เครื่องสูบน้ำเสีย” เพื่อ”ล่อ”ให้” ตำรวจ นปพ.” ฐานปฏิบัติการ ที่ 9322 บ้าน บือแลแน ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ออกมาเพื่อ”ซ่อมปั้มน้ำ” โดย”แนวร่วม” หรือ”มือก่อวินาศกรรม”ของ”บีอาร์เอ็น” นำ”กับระเบิดชนิดเหยียบ” มา”ติดตั้งไว้ใน”พงหญ้า” ที่เป็น”แหล่งน้ำ” เมื่อ”ตำรวจ” เดินลงไปในพื้นที่ก็”เหยียบกับระเบิด” ทำให้”กำลังพล”ได้รับ”บาดเจ็บ 3 นาย โดยเฉพาะ”หัวหน้าชุด” ร.ต.ต. เจียรพงษ์ เจริญ” ถึงกับ”ขาดซ้ายขาด” กลายเป็น”ทุพลภาพ” จากการ”ปฎิบัติการ” ครั้งนี้” จุดอ่อน” คือ”ไม่มีการ”ตรวจสอบ” และ”ถางหญ้า” ในบริเวณ”แหล่งน้ำ” ที่ติดตั้ง”ปั้มน้ำ” เพื่อใช้ใน”ฐานปฏิบัติการ” ถ้ามีการ”ตรวจสอบ” และทำให้”พื้นที่”ไม่มีความ”รกร้าง” การที่จะ”แนวร่วม” จะเข้ามาติดตั้ง”กับระเบิด” ก็จะ”ยากขึ้น” รวมทั้ง น่าจะขาดการ”ลาดตระเวน” ในรอบๆ”ฐานปฏิบัติการ” จึงทำให้”แนวร่วม” เข้ามาติดตั้ง”กับระเบิด” ได้อย่าง”ง่ายดาย” และ”จุดอ่อน”เหล่านี้ เป็น”จุดอ่อน” ที่ต้อง”กำจัด” ด้วยความ” เอาใจใส่” และทำตาม”ยุทธวิธี” ของการ”สู้รบ” ที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง” ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้องให้”เจ้าหน้าที่”ทุกหน่วยทุก”ฐานปฏิบัติการ” ได้”รับรู้” ว่า” ทุกพื้นที่คือ”อันตราย” ที่สามารถ”เกิดเหตุ” ของการ”โจมตี” จาก” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ทั้งจาก”ระเบิดแสวงเครื่อง”และ”การ”ซุ่มยิง” ทุก”ฐานปฏิบัติการ” ทุก”หมู่ลาดตระเวน” ต้องไม่”ประมาท” แม้แต่”เสี้ยววินาที” เดียว เพราะความ”ประมาท” คือ”ความตาย” หรือ”บาดเจ็บ”และ”พิกลพิการ”

สถานการณ์ของ”ไฟใต้” หลังจากที่”รัฐบาล” อยู่ในอาการ”สั่นคลอน” ในด้านของ”เสถียรภาพ” กว่าจะมีการ”ปรับ ครม.” ที่มีการ”ต่อรอง” เพื่อ”แย่งชิง” ตำแหน่ง” เสนาบดี” ของ”กระทรวงต่างๆ” ลงตัว เรื่องของ”ไฟใต้” ต้องถูก”ละเลย” จาก”รัฐบาล” เพราะต้อง”สาระวน” อยู่กับการ”จัดสรรตำแหน่ง” ดังนั้นเรื่องของ”ไฟใต้” จะต้องมี”ปฏิบัติการ”ที่”หนักหน่วงรุนแรง”เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นใน”ลักษณะนี้” ทุกครั้งที่”อำนาจ”จาก”ส่วนกลางอ่อนแอ” ดังนั้น ใน”ห้วงจังหวะ” ที่”รัฐบาลอ่อนแอ” กองทัพ ที่มี” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผบ.ทบ. ต้องทำหน้าที่”เป็นหลัก”โดยมี” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค ภ 4 ส่วนหน้า และ” พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช.ภ.9  ต้อง”ตื่นตัว” และ”สั่งการ” ให้”กำลังพล” เพิ่มการ”ปฏิบัติการ” ให้”เข้มข้น”ยิ่งขึ้น เพราะใน”หลายพื้นที่” การ”ปฏิบัติการ” ยัง”หย่อนยาน” โดยเฉพาะในส่วนของ”ชุดคุ้มครองตำบล” และ”ชคต.”ที่เป็น”จุดอ่อน” และเป็น”จุดตาย” ที่กลายเป็น”เหยื่อ” ของ”กองกำลังติดอาวุธ” ในทุกครั้งที่ถูก”โจมตี”….. พื้นที่” ตากใบ” และ”สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยังเป็น”ช่องทาง”ในการ”ลักลอบ”ขนสินค้า”หลบหนีภาษี” เข้ามาใน”ราชอาณาจักร” ล่าสุด “ตำรวจ สภ. ระแงะ” จ.นราธิวาส สามารถ”จับกุม” บุหรี่ไฟฟ้า ได้เป็นจำนวนมาก มูลค่า “สี่ล้านกว่าบาท” นี่คือที่” ”คนขับรถตู้” สารภาพว่าจะไปส่งให้”นายทุน” ที่.จังหวัดปัตตานี” แต่ก็แปลก ที่ไม่มีการ”ขยายผล” ไปทำการ”จับกุม” หรือ”ตรวจค้น” ในพื้นที่ของ”ปัตตานี” ทั้งที่มีการ”สารภาพ” ให้ รายละเอียด ถึง”ตำแหน่งที่ตั้ง” นี่กระมั่ง ที่ทำให้ไม่สามารถ”กวาดล้าง” ขบวนการ”ของเถื่อน” ให้”สิ้นซาก” เพราะไม่ได้”เอาจริง” เพราะไม่ต้องการ”ลูบหน้าปะจมูก” นั้นเอง

เช่นเดียวกับ”ขบวนการค้าวัวเถื่อน” ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เป็นของ”นักการเมือง” พรรคการเมืองใหญ่ ที่ยังไม่มีใคร”กล้าแตะต้อง” มีการ”ส่งข้ามฝั่ง” ไปยัง”ฝั่งมาเลเซีย” ผ่านทาง”แม่น้ำสุไหงโก-ลก” ทุกวัน ที่ “สำคัญ” ทั้งหมดเป็น”วัวเถื่อน” ที่มาจาก”ภาคกลาง”และ”ภาคเหนือ” โดย”ผิดกฎหมาย” ใส่”รถบรรทุก” มายัง”ชายแดน “ จ.นราธิวาส โดยไม่ต้องผ่าน”ด่านกักสัตว์” และไม่ต้องผ่านการ”ตรวจสอบ”ของ”ปศุสัตว์” นี่คือ”ขบวนการ” นอก”กฎหมาย” ที่”ใหญ่คับฟ้า” ใน จ.นราธิวาส ที่ไม่มีหน่วยงานไหนแม้แต่” ทหาร” กล้าที่จะ”แตะต้อง”

หลังจาก”เป็นข่าว” มา”ร่วมปี” ในที่สุด”สายการบินอีซี่แอร์ไลน์” ก็”ประกาศ” ให้ทราบทั่วไปว่า จะเปิด”เส้นทางบิน” หาดใหญ่-เบตง” อย่างเป็น”ทางการ” ในวันที่ 27 มิถุนายน 2568  เป็น”เครื่องบินเล็ก” ที่บรรทุกผู้โดยสารได้ 10 ที่นั่ง ใช้เวลาในการ”เดินทาง”30-45 นาที เป็นการ”ย่นระยะเวลา” จาก” 4 ชั่วโมงโดยทางรถยนต์ ใครที่ต้องการความ”สะดวก” และ”รวดเร็ว” ในการเดินทางจาก”หาดใหญ่-เบตง” ก็”สอบถาม” เวลา และ ราคา ได้ที่”สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ซึ่งเป็น”ที่ตั้ง”ของ”อีซี่แอร์ไลน์”

วันก่อนเห็น”พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง “ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต. ) จับมือกัน เพื่อการ”หยุด” การ”แพร่ระบาด”ของ”น้ำกระท่อม” ในพื้นที่ของ”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งวันนี้กลายเป็น”สังคม” ของ”น้ำกระท่อม” ไปแล้ว เพราะ”นำกระท่อม” กลายเป็น”สิ่งเสพติด” ที่”เข้าถึง”ได้ง่าย และ”ราคาถูก” ซึ่ง”ยาก”ต่อการ”ป้องปราม” เพราะกลายเป็นของ”ประจำครัวเรือน” ทั้งที่เป็นของ”คนทำงาน” และ”คนว่างงาน” ที่เป็น เด็ก และ เยาวชน ก็ได้แต่ หวังว่า”โครงการนี้” เป็นการ”ทำจริง” และ”ต่อเนื่อง” ไม่ใช่เรื่องการ”สร้างภาพ” ที่เป็นแบบ”ไฟไหม้ฟาง”

เรื่องใหญ่ของ”ภาคใต้” อีกเรื่องที่”รัฐบาล” ยัง”ละเลย” ไม่”เอาจริง” นั้นคือเรื่อง”สวนปาล์ม” ของ”กลุ่มทุน” ใน”ชื่อ”บริษัทต่างๆ” ทั้งที่เป็นของ”นายทุน”ในพื้นที่ และเป็นของ”กลุ่มทุน” จาก” มาเลเซีย” ที่หลังไม่มีการ”ต่อสัมปทาน” แต่ยังมีการ”ผลิดอกออกผล” และ”นายทุน” ยังเข้าไป”เก็บเกี่ยว” ผลผลิต ส่งขายให้”โรงงาน” โดยที่”หน่วยงานของรัฐ” ไม่ได้”ดำเนินการ” ให้เป็นไปตาม”กฎหมาย” ที่ แปลกมากๆคือ” กระทรวงที่รับผิดชอบ”คือ”กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” ที่มี”เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เป็น”เสนาบดี” ไม่ได้มีการ”สั่งการ” ให้หน่วยงานในพื้นที่ ดำเนินการให้เป็นไปตาม”กฎหมาย”แต่อย่างใด….. และยังปล่อยให้” กลุ่มอิทธิพล” และ”กลุ่มมวลชน” ในพื้นที่ใช้”กฎหมู่” และกำลัง”ติดอาวุธ” เข้าไป”แย่งชิง” ที่ดินเพื่อเป็นที่”ทำกิน” โดยอ้างว่าเป็นกลุ่ม”ยากจน” ที่ไม่มีที่”ทำกิน” จึงเข้าไป”จับจอง” แบ่งพื้นที่ จนมีการ”ปะทะ”ด้วย”อาวุธ” ถ้าเรื่องอย่างนี้ยัง”แก้ไม่ได้” ทั้งที่เห็นการทำความผิดแบบ”ทนโท่” ถ้าไม่บอกว่า “ประเทศไทย” ใกล้ที่จะเป็น”รัฐล้มเหลว” แล้วเรียกว่าอะไร

ไชยยงค์ มณีพิลึก