ภาพใหญ่ของ”การเมือง” ยังเต็มไปด้วยความ”ขัดแย้ง” ระหว่าง”พรรคร่วมรัฐบาล”ด้วยกัน ทั้งในเรื่องการเตรียม”ปรับครม.” ซึ่งเชื่อว่าจะมีการ”ปรับเปลี่ยน” ใน”ตำแหน่ง” ของ”กระทรวงสำคัญ” เช่น” กระทรวงของพรรคเพื่อไทย” อย่าง”กระทรวงพาณิชย์” และ”กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เป็นต้น รวมทั้ง”ข่าวลือ-ข่าวปล่อย” ว่าจะมีการยึด”กระทรวงมหาดไทย” กลับจาก”พรรคภูมิใจไทย” ที่”เสี่ยหนู” หรือ” อนุทิน ชาญวีรกุล”หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” “รองนายกรัฐมนตรี” นั่งเป็น” เสนาบดี”อยู่ ในขณะที่” อนุทิน ชาญวีรกุล” บอกกับ” นักข่าว” ว่า”ไม่มี” และเป็นไปไม่ได้ เพราะ” เพื่อไทย” กับ”ภูมิใจไทย” วันนี้ยัง”ซี้ปึ๊ก” กันอยู่ ไม่มีการ”แตกแยก” อย่างที่”เป็นข่าว” แต่คนที่”เสพข่าว” ก็ไม่ได้”กินแกลบกินรำ” ถึงจะไม่ได้”กินข้าวหอมมะลิ” แต่ก็”กินข้าวสาร” กันทั้งนั้น “สังคม” ไม่ได้ดูเฉพาะ”บริบท” ของ”การเมือง” ที่การเป็น”พรรคร่วมรัฐบาล” แต่เขาดู”บริบท” ของการที่”เพื่อไทย” ทำการ”ไล่บี้” สมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นสาย”สีน้ำเงิน” ซึ่งการ”เดินหมาก” ของผู้มี”บารมี”นอก”พรรคเพื่อไทย”ในเรื่องการ”ไล่บี้ สว.” ในเรื่องการ”ฮั้วเลือกตั้ง” และการให้”ดีเอสไอ.” ตั้งข้อ”กล่าวหา”ในข้อหา”อั้งยี่ซ่องโจร” เพื่อต้องการ”ยุบพรรคภูมิใจไทย” ซึ่งเป็นเพราะการเมืองที่เป็น”คู่แข่ง” ของ”พรรคเพื่อไทย” และในเมื่อ”พรรคภูมิใจไทย” ก็ไม่ใช่”ตะเกียงขาดน้ำมัน” ทั้ง” อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรค และ”เนวิน ชิดชอบ”ผู้มี”ฉายาครูใหญ่” ผู้มี”บารมี” นอกพรรคภูมิใจไทย” ก็มี”ฝีมือ”และ”เชิงชั้น” ทาง”การเมือง” ที่ไม่ได้”ด้อยกว่า” ผู้มี”บารมี” นอกพรรคเพื่อไทยอย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” แต่อย่างใด ดังนั้น วันนี้จึงไม่ใช่”บทสรุป” ครั้งสุดท้ายว่าใครจะ”เป็นหมู่” หรือใครจะ”เป็นจ่า” หลังการผ่าน”กฎหมาย” ที่เป็น”งบประมาณแผ่นดิน” แล้ว จึงจะเห็นการ”ประดาบ” เป็นครั้ง”สุดท้าย” ระหว่าง”ผู้มีบารมี”ของ”พรรคเพื่อไทย” และ”ภูมิใจไทย” คอการเมือง โปรด”ติดตาม”แบบไม่”กระพริบตา” เพราะ”การศึกระหว่างสองพรรคในครั้งนี้”ใหญ่หลวง” นักนั่นเอง
ในขณะที่” บริบท”ของ” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คือการ”เดินทาง”ไปเยือนประเทศต่างๆ”เช่น”อังกฤษ” และ”โมรอกโค” เพื่อการประสานงานในเรื่อง”เศรษฐกิจ”และ”การ”ลงทุน” การ”ค้าขาย” ซึ่ง”เจ้าตัว” ปฏิเสธ” ว่าไม่ได้ไปเจอกับ” อาปู” หรือ”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี” ที่ถูก”ศาลปกครองสูงสุด” ทำการ”พิพากษา” ให้ต้อง”ชดใช้” เป็นเงินกว่า “หนึ่งหมื่นล้าน” ในความผิดเรื่องการ”ขายข้าว” ที่เรียกว่า”จีทูจี” ที่ไม่เป็น”ความจริง” ซึ่ง”จริงเท็จ” เป็นอย่างไร ไม่จำเป็นต้องดูที่”ผมแสกกลาง” ของ”นายกรัฐมนตรีก็ได้ เพราะ”ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”ไม่รู้ในวันนี้ ก็ต้องรู้ในวัน”พรุ่งนี้”…..และหลังการกลับจากเยือน”อังกฤษ-โมรอกโค” นายกรัฐมนตรี ก็บินไปยัง”มาเลเซีย” เพื่อประชุมกลุ่ม”ประเทศอาเซียน” ซึ่งถือเป็น”ภารกิจ”สำคัญ”ในฐานะที่”ประเทศไทย”อยู่ในกลุ่มของ”อาเซียน” ที่ควรจะมี”บทบาท”ที่มากกว่าใน”ปัจจุบัน” ซึ่งใน”ปัจจุบัน” ประธานอาเซียน” คือ” อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรี “ประเทศมาเลเซีย” และที่”สำคัญ”คือ”ทักษิณ ชินวัตร” เป็น”ที่ปรึกษา” ของ”ประธานอาเซียน” แต่ ดูๆไป การเป็นที่”ปรึกษาประธานอาเซียน” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ก็ไม่ได้ทำให้”ประเทศไทย” มีความ”โดดเด่น”แต่อย่างใด….หรืออาจจะต้องให้”ผ่านพ้น” วันที่ 13 มิถุนายน” ที่ใกล้จะถึงนี้เสียก่อน ถ้าวันที่ 13 มิถุนายน “ทักษิณ ชินวัตร” สามารถ”ผ่านพ้น” อย่างฉลุย” สังคมไทย ก็จะเห็น”บทบาท” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ในเรื่องของ”การเมือง”และเรื่องของ”เศรษฐกิจ” มากขึ้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่า”ทักษิณ ชินวัตร” รู้ตัวเองว่า ก่อนที่จะถึงวันที่ 13 มิถุนายน” ควร”เซฟตนเอง” อย่างไรจึงไม่ตก”เป็นเป้า” ให้ถูก”วิพากษ์วิจารณ์”
ทั้งหมดเป็นเรื่อง”การเมือง” แต่เมื่อกลับมาดูเรื่องของ”การบ้าน” เรื่องที่”สำคัญ”คือการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” ของ”ประชาชน” ที่”รัฐบาล” เพื่อ”พรรครวม” ต้อง”ยอมรับ”ถึงความ”ล้มเหลว” ที่เกิดขึ้น เพราะ”รัฐบาลผสม” ชุดนี้” บริหารประเทศ” มาแล้วเกือบจะ 2 ปี มี”นายกรัฐมนตรี” มาแล้ว 2 คน คนแรกคือ”เศรษฐา ทวีสิน” ที่เป็น”กูรู” ทาง”เศรษฐกิจ” ก็ไม่สามารถ”นำพา” ประเทศไทย” ออกจาก”หลุมดำ” ทาง”เศรษฐกิจ” และไม่สามารถ”แก้ปัญหา” ที่เกี่ยวกับ”ปากท้อง”ของ”ประชาชน” ที่เป็นคนส่วนใหญ่” ของ”ประเทศไปได้” ในขณะที่”นายกรัฐมนตรี” คนที่ 2 อย่าง”แพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งเป็น”นายกรัฐมนตรี”ที่เรียกว่า”บวก 2 “ เพราะมี”ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็น”พ่อ”ช่วย”ผลักดัน” อยู่ทั้ง”เบื้องหน้า” และ”เบื้องหลัง” ก็ยังไม่สามารถนำ”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศไทย” ให้ขึ้นมาจาก”หลุมดำ”ได้”สำเร็จ” แต่กลับ”ดำดิ่ง”ที่เรียกว่า”ลงลึก” กว่าเดิม “นโยบาย” ที่ออกมาจาก”คณะ ครม.เศรษฐกิจ” ทุกอย่าง ไม่ประสพความสำเร็จ แม้แต่”นโยบายเดียว” แม้แต่การ”แก้หนี้ครัวเรือน”ที่เรียกว่า”คุณสู้ เราช่วย” ก็ไม่ได้ทำให้”หนี้คัวเรือน”ลดน้อยลงแต่อย่างใด วันนี้” บ้าน” และ”รถยนต์” ที่อยู่ในระหว่าง”การ”ผ่อน” และการ”เช่าซื้อ”ถูก”สถาบันการเงิน” ยื่น”โนติ้ส” กันถ้วนหน้า และถูก”ยึด”ไปแล้วเป็นจำนวนมาก เพราะ”เจ้าของ”ไม่มี”ปัญญาผ่อน” ในขณะที่”สถาบันการเงิน” ยิ่งเพิ่มความ”ระมัดระวัง” ในการ”ปล่อยกู้” ให้กับ”นักลงทุน” ขนาดเล็ก และ ขนาดกลาง ยิ่งกลายเป็นการ”ซ้ำเติม” ให้มีการ”ปิดกิจการ” มากขึ้น
จำนวน”คนตกงาน” และจำนวน”คนว่างงาน” เพิ่มจำนวน กลายเป็น”ปัญหาปากท้อง” เป็นการเพิ่มจำนวน”คนยากจน” ใน”สังคมไทย” ที่ส่ง”ผลกระทบ”กับความ”มั่นคง”ทาง”ครัวเรือน” ลูกๆ อาจจะ”ไปต่อ” ในเรื่อง”การศึกษา”ไม่ได้”ทรัพย์สิน” ที่พอมีอยู่ถูก”ขาย”ถูก”จำนอง จำนำ” เพื่อมา”ใช้จ่าย” และให้การ”ศึกษา” กับลูก ที่เห็นได้ชัด”เปิดภาคเรียน” ที่ผ่านมา “โรงรับจำนำ” กับ”เงินกู้นอกระบบ” คือ”ที่พึ่ง” ของ”คนเป็นจำนวนมาก หลายคน”ถอดจีวร” จาก”พระเครื่อง” ที่”ห้อยคอ” และเป็นที่”หวงแหน” ไปขายที่”ร้านทอง” และหากทุกอย่างยังไม่”เลวร้ายลง” ต่อไป”พระเครื่อง” ที่”หวงแหน” คงต้อง”เปลี่ยนมือ”ไปอยู่กับ”คนมีเงิน” หรือ”เซียนพระ” นี้กระมั่งที่เรียกว่า”คุณพระช่วย”…..ส่วนใครจะเคย”คาดหวัง” เรื่องที่”รัฐบาล” จะ”แจกเงิน” คนละ 10,000 บาท สำหรับคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป วันนี้ก็”ผิดหวัง” เพราะ”รัฐบาล” ประกาศ”ชัดเจน” ว่า”จบแล้ว” ในเรื่องของ”เงินแจก” หรือเงิน”ดิจิตัล” เพราะต้องเอา”งบประมาณส่วนนี้”ไปแก้”ปัญหา”ของ”ประเทศที่”รุมเร้า” ในส่วนอื่นๆ ที่”หนักหนาสาหัส” มากกว่าการ”แจกเงิน”และ”แน่นอน”ว่า ต้องมี”ผู้คน” ที่อยู่ใน”ข่าย”ได้”รับแจกเงิน” ต้อง”เสียความรู้สึก” กับ”พรรคเพื่อไทย” เป็น”จำนวนไม่น้อย” และผลที่ตามมาคือ”คะแนนเสียง”ของ”เพื่อไทย” ที่ต้อง”หายไป” ในการ”เลือกตั้ง” ครั้งหน้า ไม่มาก ก็ไม่น้อย
เรื่องความ”เดือดร้อน” ของ”พี่น้องเกษตรกร” ที่มีความ”ชัดเจน” ว่าจะออกมา”เคลื่อนไหว”คือ”ชาวสวนปาล์ม” ในหลายจังหวัดของ”ภาคใต้” เพราะ”ผลผลิต”ที่”ตกต่ำ” จาก”กิโลกรัมละ 11-12 บาท วันนี้ นอกจากเหลือเพียง 4 บาท แล้ว ยังไม่มี”ที่ขาย” เพราะ”ลานเท” ที่รับซื้อ” ผลปาล์ม” มีการ”ปิดตัว”ไปเป็นจำนวนมาก เพราะเปิดไปก็”ขาดทุน” จากการที่”โรงงาน”กดราคา” รวมทั้ง”หยุดการรับซื้อ” ข่าวล่าสุด คือการ”รวมตัว”ของ”เกษตรกรชาวสวนปาล์ม”ในการ”นำผลปาล์ม” ไป”เททิ้ง” ที่”หน้าทำเนียบ” เพื่อ”ประท้วง”การที่”รัฐบาล”ไม่สามารถ”แก้ปัญหา” ให้กับ”เกษตรกรชาวสวนปาล์ม” ตามที่”เรียกร้อง” ข้อ”เปรียบเทียบ” คือ” อินโดนีเซีย” และ”มาเลเซีย” เป็น สองประเทศ ที่มี”ผลผลิต” เป็นอันดับ 1 เละ 2 ของโลก ไม่ได้รับความ”เดือดร้อน” จาก” ผลผลิต” แต่อย่างใด เรื่องนี้”กระทรวงที่ต้อง”รับผิดชอบ” คือ”กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” แต่กลับ”เงียบกริบ” เหมือน”รัฐมนตรี”ไม่มี”ตัวตน”……ส่วนอีก”กระทรวง” ที่ต้อง”รับผิดชอบ”คือ”กระทรวงพาณิชย์” ที่ถูก”ประชาชน”ผู้”บริโภค” น้ำมันปาล์ม” ตั้งแต่”แม่บ้าน” ถึง”แม่ค้าพ่อค้า” ที่ “ขายอาหาร” ว่าทำไมในเมื่อ”ราคาผลปาล์ม” ตกต่ำ แต่”ราคาน้ำมันปาล์ม” ที่”แพงขึ้น”ขวดละ 10 บาท เมื่อ 2 ปีก่อน จึงไม่มีการ”ลดราคา” เรื่องนี้”พิชัย นริททะพันธ์” เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” น่าจะมี”คำตอบ” ให้กับ”ประชาชน” หรือ”หน้าที่”ของ” เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” มีแค่การเป็น”วอลเปเปอร์” ให้กับ”นายกรัฐมนตรี” ในการ”แถลงข่าว”กับ”สื่อมวลชน” เท่านั้น
ส่วน”ชาวสวนยาง” ยังต้อง”อดทน” กับ”ราคาตกต่ำ” ต่อไป โดยไม่มีการ”เคลื่อนไหว” เป็นการยอมรับ”ชะตากรรม”ที่เกิดขึ้น และเลือกที่จะ”ต่อสู้”ด้วยตนเอง แทนการออกมา”ประท้วง” เพื่อหมด”ศรัทธา” กับ”เสนาบดี” ทั้ง”กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” รวมทั้ง”กระทรวงพาณิชย์” ก็ถือว่าเป็น”เคราะห์กรรม” ของ”เกษตรกรชาวภาคใต้” แต่ที่”เจ็บปวด”ไปกว่านั้น สำหรับ”เกษตรกรชาวภาคใต้”คือ”วิกฤต”ของ”เกษตรกร” ที่เกิดขึ้นไม่มีเสียงของ”ผู้แทนราษฎร” ว่าจาก”พรรคการเมืองไหน” ดังขึ้นแม้แต่”แอะเดียว” โดยเฉพาะ”ประชาธิปัตย์” ที่เคยเป็น”พรรคของคนใต้”……ในขณะที่”คน”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่าง”ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส” ส่งเสียงไปถึง” วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ว่าในตอน”หาเสียง” ไหนว่าถ้าได้เข้าร่วม”รัฐบาล” จะทำให้”ราคายาง”กิโลกรัมละ 80 บาท ชาวบ้านจำได้ว่า”นั้นมันตอนหาเสียง” ส่วนหลังเป็น”รัฐบาล” “นักการเมือง ย่อมมี”เหตุผล” อีกมากมาย ที่จะบอกว่า ทำไมจึงไม่สามารถทำตามในตอนที่”หาเสียง” กับ”ประชาชน” เพราะขนาด”นายกรัฐมนตรี” ที่”ตะโกน”บนเวที”หาเสียง”ว่า”เลือกเพื่อไทย” ทุกคนจะ”มีกิน มีใช้ มีศักดิ์ศรี” สุดท้ายก็เป็นแค่”ลมปาก” ที่ไม่”เป็นจริง” และไม่ต้อง”รับผิดชอบ” กับ”คำพูด” ใน”ตอนหาเสียง” และ”คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ”กกต.” ก็ไม่ได้”เอาผิด” กับ”พรรคการเมือง”เหล่านั้น…. ในขณะที่”เกษตรกร” ภาคใต้ ที่”ปลูกมังคุด,เงาะ,ลองกอง” และ”ทุเรียน” ก็ได้แต่”บนหลวงพ่อทวด” แทนการฝาก”ความหวัง”กับ”รัฐบาล”ว่า”ปีนี้ขออย่าให้”ราคาผลผลิตตกต่ำ” และขอให้การ”ส่งออก” อย่ามี”ปัญหา” อย่างที่”เกิดขึ้น” กับ”เกษตรกร”ของ”ภาคตะวันออก”ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
เรื่องของ”ไฟใต้” หลังการ”เดินทาง” ลงพื้นที่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้”ของ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” พร้อมคณะ ที่เดินทางไปพบ”นายอำเภอ และ”ผู้บังคับกองพัน” ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” เพื่อการ”รับฟังปัญหา” ให้”รอบด้าน” ก็ถือเป็นเรื่อง”ที่ดี” ที่มีการ”เปิดโอกาส” ให้ผู้”ปฏิบัติ” ในพื้นที่ได้มี”โอกาส” บอกถึง”ปัญหา” และ”อุปสรรค” ที่เกิดขึ้น แต่นั้นแหละ ใน”ระบบราชการ” ทั้ง”นายอำเภอ” และ”ผบ.พัน” กล้าที่จะ”พูดความจริง” หรือไม่ อย่างไร เพราะ”ความจริง” ในพื้นที่ส่วนหนึ่งก็มาจาก” นายอำเภอ” และ” ผบ.พัน” ที่”ขาดความรับผิดชอบ” กับการ”แก้ปัญหา” ที่”ตนเองรับผิดชอบ” เพราะ”ส่วนใหญ่” โยนให้เป็น”หน้าที่”ของ”ผู้ใต้บังคับบัญชา” ระดับ”ล่าง” ที่รองลงไป …..ทุกอำเภอถ้า”นายอำเภอ”กับ”ผบ.พัน” ร่วมมือกันแบบ”ราชการ” โดยไม่มีความ”จริงใจ” ในการ”แก้ปัญหา” ร่วมกัน ต่างคน”ต่างรับผิดชอบ” ในส่วนของตนเอง การที่จะมีความ”สำเร็จ” ในการ”ดับไฟใต้” ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก โดยเฉพาะ”นายอำเภอ” ที่เป็น”ฝ่ายปกครอง” หลายพื้นที่ซึ่ง”อาสารักษาดินแดน” ถูก”กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” ทำการ”ปลิดชีพ” ตายเป็น”ใบไม้ร่วง” ไม่ได้มี”แผน” ในการ”ป้องกันชีวิต”ของ”อาสารักษาดินแดน” แต่อย่างไร นอกจาก”จ่ายเงินเยียวยา” ให้กับ”ครอบครัวคนตาย” และหลังจากนั้นก็”รับสมัครอาสาสมัคร”คนใหม่ เพราะมี”คนรอคิว” ในการเป็น”อาสารักษาดินแดน” อยู่ในทุกอำเภอ โดยการ”ประสานงาน”กับ”กำนัน” และ”ผู้ใหญ่บ้าน ประสานงานกับ”กำนัน” และ”ผู้ใหญ่บ้าน” และผู้ที่ต้องการเป็น”อาสารักษาดินแดน” ก็พร้อมที่จะ”จ่ายเงิน” เพื่อ”ซื้อเครื่องแบบ” ตั้งแต่ 150,000 บาท ถึง 200,000 บาท เพื่อ”แลกกับ” เงินเดือนๆละ 15,000 บาท พร้อม”เบี้ยเลี้ยง” ที่รวมแล้วไม่ต่ำกว่าเดือนละ 18,000 บาท นี้คือ”เรื่องจริง” ของการ”บรรจุอาสาสมัครรักษาดินแดน” ที่”กรมการปกครอง” ไม่เคยให้ความ”สนใจ” ที่จะ”แก้ปัญหา” ที่เกิดขึ้น ก็ต้องติดตามดูว่า หลังจากที่”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” กลับจาก”จังหวัดชายแดนภาคใต้”แล้ว” สถานการณ์” ของ”ไฟใต้” จะ”เบาบาง”ลงหรือไม่ เพราะ 2 วัน ที่”ภูมิธรรม” เวชยชัย” อยู่ในพื้นที่”กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” ไม่มีการ”ก่อเหตุ” ให้มีการ”ระคายเคือง” แต่อย่างไร แต่ฟังจาก”ปากคำ”ของ” รองนายกรัฐมนตีฝ่ายความมั่นคง”แล้ว” หาก”สถานการณ์” ในพื้นที่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ยังคง”รุนแรง”ต่อไป” ตำแหน่ง”แม่ทัพภาคที่ 4 และ”ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ของ”พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” ยังจะ”ง่อนแง่น” เพราะไม่สามารถ”ลดความรุนแรง” ที่เกิดขึ้น ก็ต้องดูดว่า” รองแม่ทัพ,เสนาธิกา,ผบ.พล ,ผบ.พัน” ตลอดจน”ผบ.ร้อย” ในพื้นที่จะ”สามัคคีชุมนุม” ในการ”ป้องกันเหตุ” อย่างไรเพื่อมิให้”กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” ทำการ”เคลื่อนไหว”ในการ”ก่อเหตุ” ในพื้นที่”สามจังหวัด”และ”สี่อำเภอ”ของ”จังหวัดสงขลา”
แต่ที่ขอ”ชื่นชม” คือการ”ติดตาม” เพื่อ”จับกุม” กลุ่มผู้”ก่อเหตุ” ทั้งที่เป็น”แนวร่วม” ที่ยัง”หลบซ่อน” ในพื้นที่ ซึ่ง” ทหาร และ ตำรวจ” ติดตาม”ปิดล้อม” และ”จับเป็น”ได้เป็น”จำนวนมาก” และมีการ”ปฏิบัติการ”แบบ”เดินหน้า” โดยไม่”สนใจ” กับการ”ข่มขู่”ของ”บีอาร์เอ็น” ที่จะ”ตอบโต้” ด้วยการ”ปลิดชีพ” เป้าหมายที่”อ่อนแอ” ในพื้นที่…..นโยบาย”จับเป็น” และ”จับต่อเนื่อง” จะทำให้”มวลชน” ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่”ลดน้อยลง” เป็นการ”ทำลาย” ให้เกิดความ”อ่อนแอ” ของ”เครือข่าย” ขบวนการของ”บีอาร์เอ็น” ทั้งในเรื่องของการ”จัดตั้ง” และการ”บ่มเพาะ” แต่สิ่งที่”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้อง เพิ่มการ”รักษาความปลอดภัย” ประชาชนในกลุ่ม”เปราะบาง” และ”อ่อนแอ” เพราะ”วิชามาร” ที่”บีอาร์เอ็น” จะนำออกมาใช้คือ” การ”กระทำ”ต่อ”เป้าหมายอ่อนแอ” เพื่อ”ตอบโต้” การ”เดินหน้า”ในการ”จับกุม” คนของ”บีอาร์เอ็น” เชื่อเถอะ” เรื่องการ”ตอบโต้”เจ้าหน้าที่รัฐของ”บีอาร์เอ็น” ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”ประมาท”มาได้ในทุกพื้นที่…..ที่”สุดยอด”ของ”ปฏิบัติการ” ของ”ตำรวจ,ทหาร” ในครั้งนี้คือการ”ปิดล้อม” ในพื้นที่” อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส”และ”จับกุม 4 แนวร่วม” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่เป็น”ทีมสังหาร” นายกอาร์ม” อดีต”นายกเทศบาลตำบลรือเสาะ” อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เพราะ คดีนี้ คนในพื้นที่ต่าง”ติดตาม”ความคืบหน้ามาโดยตลอดว่า”เจ้าหน้าที่”จะ”จับกุม”กลุ่ม”แนวร่วม” กลุ่มนี้ได้เมื่อไหร่ ส่วนจะจับ”ผู้บงการ” ได้หรือไม่ อยู่ที่การ”สอบสวน”ผู้ที่ถูก”จับกุม” ซึ่งเชื่อว่า”ไม่เหนือบ่ากว่าแรง” ของ”ชุด”สอบสวน” ของ”ตำรวจ” และหวังว่า”ชาวรือเสาะ” คงจะได้เห็น”หมายจับ”ผู้ที่เป็น”จอมบงการ” ในเร็วๆนี้
ส่วนเรื่องการ”ต่อยอด” เพื่อการ”ขับเคลื่อน” การ”พูดคุยสันติสุข” ฟังจากปากของ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี ฟังว่า ยังต้องรวบรวม”รายละเอียด” ที่”รับฟัง” จากพื้นที่ และ”รายละเอียด” จากฝ่าย”ความมั่นคง” รวมทั้งจาก”ผู้อำนวยความสะดวก” ที่เป็น”ตัวแทน”ของ”รัฐบาลมาเลเซีย” เพราะ”การพูดคุย” ต้องการ”คุย” กับ”บีอาร์เอ็น” ที่เป็น”ผู้มีอำนาจ”ไม่ใช่เป็นแค่”ตัวแทน” ที่ไม่มี”อำนาจ” ในการ”ตัดสินใจ”และที่”สำคัญ” ต้อง”พูดคุย” ตาม”กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย” ไม่ใช่”กฎหมายสากล” ตามที่”บีอาร์เอ็น”ต้องการ ……นี่คือสิ่งที่”ถูกต้อง” ที่ต้อง”ชื่นชม” ใน”แนวคิด”ของ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี ที่ยึด”หลักการ” การ”พูดคุย” ที่”หวังผล” ในความ”สำเร็จ” เพราะที่ผ่านมา 9 ปี การ”พูดคุย” ระหว่าง”ตัวแทนรัฐบาล” กับ”ตัวแทน”ของ”บีอาร์เอ็น”เป็นการ”พูดคุย” เพื่อ”หวังผล”ของการใช้”งบประมาณ” มากกว่าความ”สำเร็จ” ในการ”พูดคุย”หรือการ”เจรจา” ถือเป็นการ”บีบ” ให้”บีอาร์เอ็น” เดินตาม”เกม” ที่”รัฐบาลไทย”เป็นผู้”ดำเนินการ”ไม่ใช่การเดิน”ตามเกม” ที่”บีอาร์เอ็น” บังคับให้เราต้อง”เดินตาม” ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า” บีอาร์เอ็น” และ”องค์กรต่างชาติ” ที่เป็น”พี่เลี้ยง” จะ”แก้เกม”อย่างไร และจะเข้าสู่”ขบวนการ”ของการ”พูดคุย” อย่างไร และที่ต้องติดตามคือ” ภูมิธรรม” เวชยชัย” จะ”แต่งตั้ง” ให้ใครเป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” เพราะมีข่าวว่ามีการเปลี่ยนจาก”ทหาร” เป็น”พลเรือน” อีกแล้ว
เรื่องการเมือง”ท้องถิ่น” เลือกตั้งจบ แต่การ”ฟ้องร้อง” ของผู้”สมัคร” และ”แพ้”เลือกตั้ง” ยัง”ไม่จบ” ที่”เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา” หลังที่” ณรงค์พร ณ พัทลุง” ชนะการ”เลือกตั้ง” ก็ถูก”พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” อดีต”นายกเทศบาลนครหาดใหญ่” ฟ้องเรื่องการ”หาเสียง” ด้วยการ”ใส่ร้ายป้ายสี” และ”ล่าสุด” ผู้สมัครที่ชื่อ”บ่าวพี” ก็นำ”หลักฐาน”การ”ซื้อเสียง”ไป”ฟ้องร้อง” กับ”กกต.สงขลา” ซึ่ง” ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี” ผอ.กกต.สงขลา กว่าวว่ามีผู้”ร้องเรียน” การเลือกตั้งของ”เทศบาลนครหาดใหญ่” แล้ว 6 คดี ส่วนการเลือกตั้ง”นายก อบจ.สงขลา” มีการ”ฟ้องร้อง” ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็น”นายก อบจ. 5 คดี และมีการส่งเรื่องให้”กกต.กลาง”เป็นผู้”พิจารณา” แล้ว …..และสำหรับ” เศรษฐ อัลยุฟรี” นายก อบจ. ปัตตานี ซึ่งมีเรื่องถูก”ปปช.ฟ้องร้อง”ในเรื่องการ”ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ” ซึ่งการ”ไต่สวน” และการ”สืบสวน” ผ่านมาแล้วหลายปี เพิ่งจะมีการ”ส่งฟ้องศาล” และมี”คำสั่ง” ให้”หยุดการ”ปฏิบัติหน้าที่” และที่คดีอยู่ระหว่าง”เข้าได้เข้าเข็ม” คือคดีของ”สจ.กอล์ฟ” หรือ”สิรดนัย” พลายด้วง สมาชิกสภาจังหวัดสงขลา ” ลูกชาย”สุดที่รัก”ของ”สมยศ พลายด้วย สส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์” สงขลา ที่”ซ่าส์ผิดที่” ถูก”จับกุมเพราะใช้”อิทธิพล” สั่งการให้”ลูกน้อง” ทำร้าย”ตำรวจ ตชด.” ที่ หน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ล่าสุดจาก”คดีสั่งการทำร้ายร่างกาย” ถูก”สาว”ไปสู่การเป็น”เจ้าของเว็ปการพนันออนไลน์” ที่”โยงใย”ไปสู่” สส.” อีก 2 ราย และมีการ”โอนคดี”ไปยัง”กองปราบ” เรื่องนี้ด้านหนึ่งคือความ”เสื่อม”ของ”การเมือง” ที่”ผู้แทนปวงชน” ตั้งแต่”สส.จนถึง “สจ.”ต่างอยู่ใน”วงจรสีเทา” แต่อีกทางหนึ่งหลังการที่”สจ.กอล์ฟ” ตกเป็น”ผู้ต้องหา”ก็ถือเป็น”คุณประการ”กับ”คนสงขลา” ที่”ตำรวจ” จะได้”ล้างบาง” กลุ่ม”อิทธิพล” เพราะ”ยิ่งสอบยิ่งสาว” ไปยัง”ขบวนการ”อิทธิพล” และ”ธุรกิจสีเทา” ถ้า”พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์” ผบ.ตร. “เอาจริง” เชื่อว่า “แก็งสีเทา”ที่เป็น”กลุ่มการเมือง” ถึงยุค”ล้มละลาย” และที่”สำคัญ”คนสงขลา” จะได้”ตาสว่าง” และ หยุดที่จะ”เลือก” คนเหล่านี้เป็น”ตัวแทน” เสียที …..แล้วพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก