วันศุกร์, 17 ตุลาคม 2568

สังคมภูมิภาคใต้ตอนล่าง…ได้เวลาวัดกึ๋น! ‘รัฐบาล 4 เดือน’

การเมืองใน”โหมด”การเป็น”รัฐบาลสี่เดือน”ตาม”เงื่อนไข” ที่มีการลงนาม”เอ็มโอเอ”ระหว่าง”พรรคภูมิใจไทย”กับ”พรรคประชาชน” กำลัง”ขับเคลื่อน”ไปข้างหน้า หลังการเข้า”ถวายสัตย์” ของ”คณะรัฐบาล” ชุดใหม่ที่มี” เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล” กุม”บังเหียน”ในฐานะ”นายกรัฐมนตรี” ในการนำพา”ประเทศไทย” ฝ่า”วิกฤต” และ”ผ่า”ทางตัน”ทั้งในเรื่อง”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศ”และ”ปากท้อง”  ของ”ประชาชน” ที่”ส่วนใหญ่” วันนี้อยู่ในสภาที่”กินไม่อิ่ม” และ”นอนไม่อุ่น” เพราะความ”ยากจน” ที่เพิ่มมากขึ้น จากการเข้ามา”บริหารประเทศ” ของ”พรรคเพื่อไทย” ใน 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้ทำอะไรที่”เป็นชิ้นเป็นอัน” ทั่งในเรื่องของ”เศรษฐกิจ-การลงทุน” ทั้งที่ใช้เงิน”งบประมาณ” ในการ”ทัวร์ต่างประเทศ” ทั้งในยุคที่”เศรษฐา ทวีสิน” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ที่”แต่งชุดไทย–ใส่ผ้าขะม้า” ไป”เดินโชว์” จนถึงยุคของ” แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” และ”ทุ่มงบประมาณ” ถึง 5,000 ล้านบาทเพื่อฟื้น”เศรษฐกิจ”ว่าด้วยเรื่องของ”ฟอฟต์พาวเวอร์” ที่สุดท้ายกลาบเป็น”เรื่องเวอร์” เพราะกลายเป็นเรื่องที่ไม่มี”ผลงาน” ให้”จับต้อง” ไม่”คุ้มค่ากับ” งบประมาณ”ที่สูญเสีย”ไป…..ในเรื่องของ”เศรษฐกิจ” ที่มีการชู โครงการ”แลนด์บริดจ์” หรือ”สะพานบก”  ให้เป็น”เมกกะโปรเจกส์” เพื่อ”เชื่อม”ทะเลอันดามัน”กับ”ทะเลจีนใต้” เพื่อเปิด”ศักราชใหม่”ของการ”ขนส่งสินค้า”ก็ไม่ประสพความ”สำเร็จ” เพราะ”นักลงทุน” และ”ผู้สันทัดกรณี” ในเรื่องของการ”ขนส่งสินค้า”ระดับโลก” ต่างลงความเห็นว่า”เป็นโครงการที่”ไม่คุ้มค่า”เพราะไม่สามารถ”ลดต้นทุน” และร่นเวลา” ในการ”ขนส่งสินค้า”ได้จริง เป็นการเสียทั้ง”เวลา” และเพิ่มค่า”โสหุ้ย” ในการ”ขนส่ง……สิ่งที่ตามมากับโครงการ”แลนด์บริดจ์” คือความ”แตกแยก” ของคนในพื้นที่”ระหว่างกลุ่มผู้”สนับสนุน”โครงการ” กับกลุ่มผู้”คัดค้าน” โครงการดังกล่าว กลายเป็น”รอยร้าว”ของสังคมของคนในพื้นที่ เพราะการ”ดำเนินการ” ในการ”สร้างความเข้าใจ” ของ”หน่วยงานที่รับผิดชอบที่มีการ”หมดเม็ด” ขาดความ”ชอบธรรม”กลายเป็น”เบี้ยล่าง” ให้กับ”เอ็นจีโอ” ในการใช้”ปลุกระดม” ให้มีการ”ต่อต้าน” โครงการ”แลนด์บริดจ์” ให้”กว้างขวาง”มากขึ้น

”สุดท้าย “นโยบาย”ด้าน”ความมั่นคง” ภายในการ”บริหารจัดการ” ของ”พรรคเพื่อไทย” คือการ”ยึดประโยชน์ส่วนตน”ของ”ตระกูลชิน”กับ”ตระกูลฮุน” จนทำให้”ทั้ง”ประเทศไทย” และ”กัมพูชา”ต้องเกิดการ”สู้รบ”ใน”ชายแดนด้านตะวันออก” ตั้งแต่”จังหวัดตราด” จนถึง”จังหวัดสุรินทร์” สร้างความ”เสียหาย” ทั้งในเรื่อง”อธิปไตย” และ”บูรณภาพแห่งดินแดน” รวมทั้งเรื่องของ”เศรษฐกิจ-สังคม” และความสูญเสียชีวิตของ”ประชาชน”และ”ทหารหาญ” จำนวนหลายสิบนาย จนเป็นเหตุให้”ศาลรัฐธรรมนูญ” ต้อง”วินิจฉัย”การ”บริหารประเทศ”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” ว่าเป็นการทำผิด”จริยธรรม” อย่าง”ร้ายแรง”  นำมาสู่การ”ถอดถอน” ให้พ้นตำแหน่ง” นายกรัฐมนตรี” ทั้งหมดคือความ”ผิดพลาด”จากการ”บริหารประเทศ”ของ”พรรคเพื่อไทย” จนทำให้วันนี้”ประเทศไทย” ต้องมี”รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ที่ต้องเข้ามา”บริหารประเทศ” ตาม”เงื่อนไข” ของ”พรรคฝ่ายค้าน”เป็น”รัฐบาลสี่เดือน” เพื่อ”ยุบสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อ”คืนอำนาจ” ให้กับ”ประชาชน” และทำการ”เลือกตั้ง” เพื่อหา”รัฐบาลใหม่” เข้ามา”บริหารประเทศ” อีกครั้ง ทั้งหมดคือ”วังวน” ของ”การเมือง” ที่เกิดขึ้นกับ”ประเทศไทย”

วันนี้”ความหวัง”ของประชาชน” คือ”คาดหวัง” ให้”รัฐบาลสี่เดือน” ที่มี”อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย”ในฐานะ”นายกรัฐมนตรี” สามารถ “บริหารประเทศ” ด้วย”ความรู้” และ”ความ”ตั้งใจ” ในการ”แก้ปัญหา ที่กล่าวมา”ข้างต้น” ให้”ทุเลาเบาบาง” ลง ก่อนที่จะมีการ”ยุบสภาฯ” เพื่อการ”เลือกตั้ง” ตาม”เงื่อนไข” ของการเข้ามาเป็น”รัฐบาล” และหวังว่าจะไม่เกิดความ”ขัดแย้ง” ทางการเมือง เกิดขึ้นกับ”พรรคประชาชน” ที่เป็น”นั่งร้าน” ให้กับ”รัฐบาล”ชุดนี้ จนกลายเป็นการเมืองที่” ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” อย่างที่เกิดขึ้นกับ”พรรคเพื่อไทย”……ซึ่งมีการนำเอา”บุคคลภายนอก” ที่”สังคมยอมรับ” มาเป็น” เสนาบดี” กระทรวงสำคัญๆ” เช่น”กระทรวงการคลัง,กระทรวงต่างประเทศ,กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงกลาโหม” ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ต้อง”รัฐบาล” ต้องให้”อิสระ” ในการ”ดำเนินนโยบาย” โดยไม่เข้าไป”แทรกแซง” ให้”เสียขบวนการ” เพราะทุกกระทรวง ที่มี”บุคคลภายนอก” เข้ามาทำหน้าที่”เสนาบดี” ล้วนเป็นกระทรวงสำคัญ เช่น”กระทรวงการต่างประเทศ”ที่มีส่วนกับการ”เจรจาภาษีทัมป์” ที่ต้องเดิน”ควบคู่”กับ”กระทรวงการคลัง” เพราะเรื่องของ”ภาษีทรัมป์” ยังไม่จบ ยังมี”รายละเอียด” อีก”มากมาย” ที่ต้อง”เจรจา” เพื่ออย่าให้”ประเทศไทย” ต้อง”เสียเปรียบ” จนทำให้”เศรษฐกิจ” เดินหน้าไม่ได้…..โดยเฉพาะ”กระทรงพาณิชย์”ที่เกี่ยวกับการ”ขึ้น-ลง”ของ”ราคาสินค้า ซึ่งเป็นความ”เดือดร้อน”โดยตรงของ”ประชาน” ที่”ส่วนใหญ่” เป็น”คนยากจน” ที่มีคำถามจาก”ชาวบ้านร้านช่อง” ที่ถามกับ”รัฐบาล”ทุก”รัฐบาล”และถามกับ”เสนาบดี” กระทรวงพาณิชย์ ทุกท่านที่เข้ามาทำหน้าที่”เสนาบดี” เช่นเมื่อ”ข้าวเปลือกตกต่ำ”ทำไม”ข้าวสาร” จึงไม่มีการ”ลดราคา” ทั้งที่”ข้าวสาร” มาจาก”ข้าวเปลือก” หรือเมื่อ”ผลผลิตปาล์ม” มี”ราคาถูก” แต่ทำไม”น้ำมันปาล์ม” ที่ใช้”บริโภค” ใน”ครัวเรือน” จึงยังมี”ราคาแพง” และทำไมจึงไม่”ลดราคา”ตาม”ต้นทุน” ที่”ถูกลง”…… หรือ”ยางพารา” ที่เป็น”วัตถุดิบ” ในการผลิตยางรถยนต์” เหลือเพียง”กิโลกรัมละ 40 บาท” แต่ทำไม”ผลิตภัณฑ์” ทุกอย่างที่ทำจาก”ยางพารา”รวมทั้ง”ล้อรถยนต์” จึงไม่มีการ”ลดราคา” ตาม”วัตถุดิบ” ที่มี”ราคาถูก” เหล่านี้ คือ”ประเด็น” ที่”สำคัญ” สำหรับผู้ที่เข้ามาเป็น” เสนาบดี” กระทรวงพาณิชย์ ต้องมี”คำตอบ” ให้กับ”ประชาชน” และต้องทำให้”ราคาสินค้า” มีความ”สมดุล” กับราคาของ”วัตถุดิบ” ที่ใช้ในการ”ผลิต”ทั้งหมดที่กล่าวมา ต้องฝาก”ความหวัง”ไว้กับ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” ที่ประสบความ”สำเร็จ” จากการ”บริหารธุรกิจเอกชน” ว่าจะมา”สู้รบปรมมือ” กับ” ข้าราชการประจำ” และ”นักการเมือง” ที่อาจจะ”แทรกแซง” การ”บริหารราชการ”ใน”กระทรวงพาณิชย์” หรือไม่

เช่นเดียวกับ”กระทรวงกลาโหม” ที่มีการ”แต่งตั้งให้” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” เป็น” รัฐมนตรีว่าการฯ และมีการแต่งตั้งให้” พล.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ” เป็น” รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ” ครบทั้ง 2 ตำแหน่ง เพื่อ”แก้ไข” ปัญหาความ”ขัดแย้ง” ใน”ชายแดนด้าน”ตะวันออก” ระหว่าง”  ไทย-กัมพูชา” ที่เรื่องของการ”ปักปันชายแดน” ที่เป็นเรื่อง”สำคัญ” และ”เกี่ยวเนื่อง” กับเรื่องการ”เปิดด่านพรมแดน” เพราะหากการ” เจรจา” ในเรื่อง”เขตแดน” ที่”กัมพูชา” ยังมีการ”รุกล้ำ” ดินแดนของ”ประเทศไทย” ถ้า”กัมพูชา” ยังไม่”ถอนทหาร” ออกไป” และยังไม่หยุดการใช้”ประชาชน” ในการ”ยั่วยุ” และการ”รื้อถอน” สิ่ง”กีดขวาง” ที่”ทหารไทย” ในการ”กั้นเขตแดน” การ”เปิดด่านพรมแดน” ต้องไม่เกิดขึ้น…… การ”เปิดด่านพรมแดน” ไม่ใช่เรื่องที่”ไม่สำคัญ” เป็นเรื่อง”สำคัญ” เพราะเป็นเรื่อง” เศรษฐกิจ” ระหว่างประเทศ และ”เศรษฐกิจ”ของคนใน”พื้นที่”ซึ่งมีการ”ค้าขาย”การ”ส่งออกสินค้า” แต่เรื่องของ”บูรณภาพแห่งดินแดน” ย่อม”สำคัญกว่า” ดังนั้น”หอการค้า” หรือผู้ที่ทำ”ธุรกิจการค้า” กับ”กัมพูชา” ต้อง”อดทน” รอให้การ”เจรจา” ในเรื่อง”เขตแดน” ได้ข้อ”ยุติ” ก่อน จึงจะมีการ”กดดัน” ให้” กองทัพ” และ” รัฐบาล” ทำการ”เปิดด่านพรมแดน” ปัญหาเรื่องการ”เจรจา” ระหว่าง”กองทัพไทย” กับ”กองทัพกัมพูชา” มี”กลไก” ทั้งใน”ระดับ”พื้นที่” ระดับ”ภูมิภาค” ระดับ”รัฐบาล”ครบหมด อยู่ที่”เสนาบดีกระทรงงกลาโหม” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” กับ” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผบ.ทบ. ต้องมีความ”เป็นปี่เป็นขลุ่ย” ที่เป็นไปใน”ทิศทาง”เดียวกัน จึงจะทำให้เกิด”ผลสำเร็จ” ในการ”เจรจา”เรื่องเขตแดนกับ”กัมพูชา”

เช่นเดียวกับเรื่องของ”ไฟใต้” ที่ 2 ปี ของ”รัฐบาล”ที่”บริหารโดย”พรรคเพื่อไทย” ทั้ง”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี”คนแรก” และ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี”คนที่ 2 “  ต่างเป็น” นายกรัฐมนตรี” ที่”ไม่รู้สี่รู้แปด” ในเรื่องของ”ไฟใต้” โดยปล่อยให้” ทักษิณ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี”ผู้มี”บารมี” ใน”พรรคเพื่อไทย” เป็นผู้”กำหนดนโยบาย”ของการ”ดับไฟใต้” ที่ ไม่ได้ให้ความ”สนใจ” ทั้งปัญหาความไม่สงบ”ภายในพื้นที่” และ”ปัญหาของการ”พูดคุย” กับ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” เพื่อหา”ทางออก” จากการใช้”ความรุนแรง” ที่”สุดท้าย” 2 ปีที่ผ่านมาของ”พรรคเพื่อไทย” ไม่ได้แก้ปัญหาของ”ไฟใต้” ให้ลดความ”รุนแรง”ลง แต่กลายเป็น”สาเหตุ” ให้เกิดความ”รุนแรง”มากขึ้น และความ”รุนแรง” ได้”ลุกลาม”ไปลงการ”ลงทุน”ของภาคเอกชน” มีการ” วางเพลิง วางระเบิด” ทั้ง”โรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล, กิจการเหมืองแร่” และ”บริษัทที่เข้าไป”รับงานก่อสร้าง” ทั้งด้าน”ชลประทาน” และการ”ก่อสร้าง “ ถนนหนทาง และ สะพาน” ในพื้นที่ “รัฐบาล”ของ”พรรคเพื่อไทย” ไม่ได้ใช้”จุดแข็ง” ของ”พรรคร่วมรัฐบาล” อย่าง”พรรคประชาชาติ” ที่เป็น”พันธมิตร” อัน”เหนียวแน่น”กับ”พรรคเพื่อไทย” ที่มี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เป็นทั้ง”หัวหน้าพรรค” และ”เสนาบดี” กระทรวงยุติธรรม” ซึ่งเป็น”บุคคล” ที่”เข้าใจปัญหา” และ”รู้ปัญหา” ของ”ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้”เกิดประโยชน์”ต่อการ”ดับไฟใต้” จนกลายเป็น” 2 ปี” ที่ “พรรคเพื่อไทย” ปล่อยให้”สูญเปล่า” กับการ”แก้ปัญหา”ของ”ไฟใต้” ที่ทำให้ทั้ง”พรรคเพื่อไทย” และ”พรรคประชาชาติ” ต่าง”ติดลบ”ในความรู้สึกของ”คนในพื้นที่”กับ นโยบายการ”ดับไฟใต้” ดังนั้นจึง”หวังว่า” แม้”พรรคภูมิใจไทย” จะมีเวลาเพียง 4 เดือน ในการเป็น”รัฐบาล” หรือรวม”เบ็ดเสร็จ” ทั้งเป็น”รัฐบาล” และเป็น”รัฐบาลรักษาการ” ไม่เกิด 6-8 เดือน แต่ต้องมี”นโยบาย” ที่”ชัดเจน” ในการแก้ปัญหา”ความไม่สงบ”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้”

โดย”ข้อเท็จจริง” รัฐบาล”ของ”อนุทิน ชาญวีรกิจ” ก็มีข้อ”ตำหนิ”จาก”สายตา”ของ”ประชาชน”อยู่ด้วย เช่น “รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ที่เป็น”รองนายกรัฐมนตรี” และ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ที่มี”บาดแผล” ติดตัวในเรื่องของ”แป้ง” ซึ่งแม้จะไม่ขัดกับเรื่อง”กฎหมาย” ของ”ประเทศไทย” แต่ก็”ขัดแย้ง” ในความ”รู้สึก”ของ”สังคม” หรือ”อามินทร์ มะยูโซะ” รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ ที่มาแทน”พี่ชาย” ที่ชื่อ”สัมพันธ์ มะยูโซะ” ที่มีปัญหาเรื่อง”คุณสมบัติ” ที่ถูก”สังคม”ถามถึง”พรรษาทางการเมือง” และ”ความรู้ความสามารถ” รวมทั้ง อะไรต่ออะไร ที่คนในพื้นที่”รู้ดี” …… แต่”เอาเถอะ” การเมืองไทย เป็น”การเมือง” ที่หนีไม่พ้นเรื่องของ”โควต้า”เรื่องของ”นอมินี” เรื่องของ”ต่างตอบแทน” และที่ต้อง”เข้าใจ” คือ” พรรคที่เป็น”แกนนำ” อาจจะต้อง”หวานอมขมกลืน”เพราะจะเอา”แต่ใจ” ของตนเองไม่ได้ ดังนั้น”รัฐบาล”ที่มี”พรรคภูมิใจไทย” เป็น”แกนนำ” และเป็น”รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ทำได้ใน”ระดับนี้” ก็ต้องยอมรับและ”ให้โอกาส” กับการเข้ามา”บริหารประเทศ”ใน”ระยะสั้น” ดังนั้นจึงจะไม่”ติเรือทั้งโกลน” ให้มีการ”แสดงฝีมือ”อย่าง” เต็มที่” และหาก”โชคดี” พรรคภูมิใจไทย สามารถแก้”วิกฤติ” ของประเทศเรื่อง”เศรษฐกิจ-ปากท้อง” และเรื่อง”ความมั่นคง”ได้ผล ในการ”เลือกตั้ง” ใน”สมัยหน้า”อาจจะเป็น”โอกาส” ให้”พรรคภูมิใจไทย” เป็น”แกนนำ” ในการ”จัดตั้งรัฐบาล” และได้เป็น”นายกรัฐมนตรี” เป็นครั้งที่ 2 แต่ในทาง”กลับกัน” ถ้า”พรรคภูมิใจไทย” เข้ามาเป็น”รัฐบาล” และไม่สามารถแสดง”ฝีมือ” ในการ”บริหาร จัดการ” กับ”ปัญหา” ที่ถูก”ทิ้งไว้ให้แก้” ในการ”เลือกตั้ง” ที่จะมาถึงใน”สมัยหน้า”อาจจะได้จำนวน สส.ที่ไม่”เข้าเป้า” ดังนั้นการเข้ามาเป็น”รัฐบาล”ของ”พรรคภูมิใจไทย” จึงเป็น”โอกาส” และ”วิกฤติ”สำหรับ”พรรคภูมิใจไทย” ซึ่งนับแต่ วันที่”อนุทิน ชาญวีรกุล” เข้า”ถวายสัตย์” รับตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ทุก”สายตา” ต้องติดตาม”การเมือง” อย่างไม่”กระพริบตา” เพราะเป็น”รัฐบาล” ที่ถูก”กำหนด”ให้มี”อายุสั้นๆ” ตาม”เงื่อนไข” ที่ถูก”สร้างขึ้น” …..และ สิ่งที่ต้อง”ติดตาม”ด้วยความ”ระทึก” คือเรื่องของ”นิติสงคราม” ที่ต้องมี”พรรคเพื่อไทย” และ”บุคคล” ต่างๆ ยื่นให้”องค์กรอิสระ” ทำการ”ตรวจสอบ” เพื่อการ”เอาผิด” และการ”ถอดถอน” ให้ออกจาก” ตำแหน่ง”เรื่องการใช้”นิติสงคราม” เป็น”เครื่องมือ”ในทาง”การเมือง” ยังเป็นไปด้วยความ”เข้มข้น” เป็นอย่างยิ่ง และอาจจะเป็น”สาเหตุ” ให้เกิดการ”สะดุด”ทางการเมือง” และสร้างความ”ไม่มั่นใจ” ให้กับ”ประเทศต่างๆ”ทั่วโลก ที่จะ”คบค้าสมาคม”กับ”ประเทศไทย

สถานการณ์ความ”รุนแรง”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ยังอยู่ในลักษณะ”ลุ่มๆดอนๆ” มองไม่เห็น”ทางออก”จากความ”รุนแรง” ล่าสุด”มีการ”วิสามัญฆาตกรรม” ต่อ”กองกำลังติดอาวุธ” ที่ขอ”สู้ตาย” จากการ”ปิดล้อม” เพื่อ”จับกุม” ของ” เจ้าหน้าที่” ที่” อ.นาทวี จ.สงขลา และมีการนำเอา”คนตาย” ที่เป็น”โจร” ที่มี”หมายจับ” และ”ก่อเหตุ” ในพื้นที่”หลายครั้ง”ไป”แห่ศพ”เพื่อให้เป็น”นักรบพระเจ้า” หรือเป็น”วีระบุรุษ” เพื่อ”ปลุกระดม” ให้”คนในพื้นที่” และ”เยาวชน” ในพื้นที่เอาเป็น” เยี่ยงอย่าง” แสดงให้เห็นว่า” หากมีการ”วิสามัญฆาตรกรม”เกิดขึ้นเมื่อไหร่เป็นการเดิน”เข้าทาง” ของ”บีอาร์เอ็น” เมื่อนั้น” รวมทั้งแสดงให้เห็นว่าการ”แก้ปัญหา”ใน”ประเด็น”ของการนำ”ศาสนา” มาเป็น”เครื่องมือ” ของ”บีอาร์เอ็น” ยังเป็น”จุดแข็ง” และกลายเป็น”จุดอ่อน” ที่” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ยังไม่สามารถ”แก้เกม” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่วางไว้อย่างได้ผล…..ที่ต้อง”ชื่นชม” คือ” ตลอดเวลา 1 ปี ของ” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” เป็น”แม่ทัพภาคที่ 4 “ มีการ”จับเป็น” คนใน”ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” ได้มากที่สุดกว่า 150 คน และเพิ่งจะมีการ”จับตาย” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” เพียง”รายเดียว” แต่”พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” ก็มี”จุดอ่อน” ตรงที่ไม่สามารถ”ป้องกันเหตุร้าย” ให้”ลดลง” เพราะ”ฉก.ทั้งหลาย” ที่รับผิดชอบใน”ปัตตานี,ยะลา.นราธิวาส” ยังไม่มีงาน”การข่าว” ที่”ดีพอ” ทำให้ไม่รู้ถึงความ”เคลื่อนไหว” ของ” กองกำลังติดอาวุธ” ที่”วางแผน” ในการ”โจมตี” เจ้าหน้าที่รัฐ ที่”ปฏิบัติหน้าที่” ในพื้นที่ เมื่องาน”การข่าว” ไม่มี”ประสิทธิภาพ” การที่จะ”ป้องกันเหตุ” ก็ไม่ได้ผลนี่คือ”จุดอ่อน” ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าและขอแสดงความ”ยินดี” กับ” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ที่ได้”ติดยศพลเอก” เป็น”บำเหน็จความชอบ”ในตำแหน่ง”ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก” เป็น”ปีสุดท้าย” ก่อนที่จะ”เกษียณอายุราชการ”…..และขอต้อนรับแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ “พล.ท.นรธิป โพยนอก”ที่เป็น”เสือข้ามห้วย” มาจาก” รองแม่ทัพภาคที่ 2 “ มาเป็น” แม่ทัพภาคที่ 4 “ และมี”อายุราชการเพียง 1 ปี” ก็ขอให้เป็น”1 ปี” ที่มี”ความหมาย” สำหรับการ”ดับไฟใต้” ถ้าจำไม่ผิด” พล.ท.นรธิป โพยนอก” เคยมารับตำแหน่ง” เสนาธิการ” ที่”ค่ายอิงคยุทธบริหาร” จ.ปัตตานีมาแล้วช่วงหนึ่ง คงจะมี”ความรู้” และ”ความเข้าใจ” ในปัญหาของ”ไฟใต้” ใน”ระดับหนึ่ง” ที่หลัง”รับตำแหน่ง” ต้อง”ปฏิบัติงาน”ได้อย่าง”ทันที” และที่”สำคัญ” ต้องมีการ”ใช้คน” ให้”ตรงกับงาน” ไม่ใช่เอาแต่”พวกพ้อง” และ”เพื่อนร่วมรุ่น” สุดท้ายการดับ”ไฟใต้” ต้องมี”ยุทธศาสตร์” ที่”ชัดเจน” และต้องมี”ยุทธวิธี” ที่มี”ประสิทธิภาพ”

ส่วนที่”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” หรือ” ศอ.บต.” เมื่อ”พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการ ศอ.บต.” มีการ”โยกย้าย” ให้เป็น” ปลัดกระทรวงแรงงาน” ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการ”โปรดเกล้า” ก็ต้องทำหน้าที่” เลขาธิการ ศอ.บต.” ต่อไปจนกว่าจะมีการ”โปรดเกล้า”การแต่งตั้ง” เลขาธิการ ศอ.บต.คนใหม่  “ประชาชน” ใน”5 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ขอให้”นายอนุทิน ชาญวีรกุล” นายกรัฐมนตรี ใน”ฐานะ” ที่” ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้”( ศอ.บต.) เป็นหน่วยงานที่”ขึ้นตรง” กับ”สำนักนายกรัฐมนตรี” ให้มีการ”เลือกเฟ้น” ผู้ที่จะมาเป็น” เลขาธิการ ศอ.บต.” ขอให้”ตรงปก” เป็นผู้ที่”เข้าใจ”เข้าถึง พัฒนา” รู้เรื่องใน”มิติ” ที่”ศอ.บต.”ต้องรับผิดชอบ ทั้งในด้านการ”พัฒนาคุณภาพชีวิต” ของ”ประชาชน”การ”ส่งเสริมอาชีพ” ในด้านของความ”เป็นธรรม” และการส่งเสริม”การค้าชายแดน” การ”ส่งเสริมการท่องเที่ยว” การ”ส่งเสริมการลงทุน”และมีความสามารถในการ”บูรณาการ” กับ”ฝ่ายปกครอง” ในพื้นที่ของ”5 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่อยู่ในการ”กับกับดูแล” ของ”ศอ.บต.”

มีการตั้งขอ”สังเกต” ว่า 2 ปีที่ผ่านมาโครงการ”เมืองต้นแบบ”ทั้งหมดใน”4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส” และ”สงขลา” ไม่มีความ”คืบหน้า”ให้เห็น โครงการ”อุสาหกรรมฮาลาล” ที่” จ.นราธิวาส หายไปจากการ”ขับเคลื่อน”ของ”ศอ.บต.” โครงการ”เมืองโคบาล” ก็ไม่ความ”คืบหน้า” วันนี้”ประชาชน” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” กำลังถามว่า” ศอ.บต.”มีไว้ทำอะไร เรื่องนี่เป็นเรื่อง”สำคัญ”กับการ”พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้” คือ” รัฐบาล” ชุดนี้ต้อง”แต่งตั้ง” บุคคลที่”ตรงปก” กับ”มิติ”ของ”ศอ.บต.” ที่เน้นการ”พัฒนา” เป็นด้านหลัก”……และอีกเรื่องที่”คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้” ฝากถึง”อนุทิน ชาญวีรกุล” นายกรัฐมนตรี” นั้นคือการ”ผลักดัน” ให้”เมืองต้นแบบที่ 4 “ หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ที่เป็นการ”ลงทุน” ของ”ภาคเอกชน” ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะ”เมืองต้นแบบที่ 4 “ หรือ” เมืองอุสาหกรรมแห่งอนาคต” ที่ตั้งอยู่ใน อ.จะนะ จ.สงขลา คือ”ความหวัง” ในการแก้ปัญหาการ”พัฒนา”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังว่า”รัฐบาล”ของ”อนุทิน ชาญวีรกุล” คงจะไม่ถูก” เอ็นจีโอ” ข่มขู่ จน”ลนลาน” หรือเหมือนกับ”รัฐบาล” ของ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีต”นายกรัฐมนตรี” ที่เป็น”ต้นเหตุ” ให้”โครงการเมืองต้นแบบที่ 4 “ จ.สงขลา ต้อง”ชะงักงัน” มาถึง 3 ปี

หลายคนที่ติดตามความ”เคลื่อนไหว” ของ” เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์” คหบดีผู้”ใจบุญ” แต่”ปากกล้า”กล้าที่จะ”พูดความจริง” ทั่งในเรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” และ”ล่าสุดคือการ”อัดคลิป” วิพากษ์วิจารณ์”การทำหน้าที่ของ”สำนักงาน”ปปช.”จ.สงขลา ที่มีความ”ล่าช้า” ในการ”สืบสวนสอบสวน” ในการเอา”คนโกง” มา”ลงโทษ” บางคดีใช้เวลากว่า 10 ปี ก็ยัง”สืบสวนสอบสวน”ไม่แล้วเสร็จ หลายคดี”คนผิดตายก่อน” ที่จะได้”รับโทษ” เรื่องนี้คือ”จุดอ่อน”ของ” ปปช.”ที่ไม่เฉพะใน”จังหวัดสงขลา” เป็นเหมือนกันใน”หลายจังหวัด” ดังนั้นการที่” เถ้าแก่หลี” หรือ” เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์” ให้คำ”นิยาม” ว่า” ปปช.”คือ “องค์กรปกป้องคนชั่ว” จึงกลายเป็น”นิยาม” ที่”ถูกอกถูกใจ” บรรดา”เอฟซี” ของ”เถ้าแก่หลี” เป็นอย่างยิ่ง” สู้ต่อไป”วิพากษ์วิจารณ์ ถึงความ”ไม่ถูกต้อง” ที่”เบ่งบาน”ใน”สังคม” ต่อไป” ผู้เขียน” ขอ”เป็นหนึ่งกำลังใจ” ให้ครับ”พี่หลี”

เดือน”กันยายน” เป็นเดือนแห่งการ”เกษียณอายุราชการ” และเป็นเดือนแห่งการ”โยกย้าย”หลายคนได้ดีกับการ”โยกย้าย” เช่น” พล.ต. วรเดช เดชรักษา” รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้”ติดยศ พล.ท.” แต่ต้องถูกย้ายไปทำหน้าที่ใน”กอ.รมน.ที่”ส่วนกลาง”  พ.ต.อ.กองทัพ เสนาทิพย์” รอง”ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้รับ”ความชอบ” ได้ติดยศ” พล.ต.ต. เป็น” ผบก. ภ.จว.ยะลา พ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช” จาก” รอง”ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เป็น” ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้อยู่”ที่เดิม” ไม่ต้อง”เก็บข้าวของ”ในการรับ”ตำแหน่งใหม่” ย้ายเพียง”ห้องทำงาน”และ” พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ ไชยโยธา” เปลี่ยนหน้าที่จาก” ผบก.สส.ภ.9 มาทำหน้าที่”ผบก.ภ.จว.สงขลา” แทน” พล.ต.ต. เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์” ที่”เกษียณอายุราชการ” ก็ขอให้ทุกคน ทำหน้าที่ใน”ตำแหน่งใหม่” ด้วยความสุข และมี”ประสิทธิภาพ”และให้”ยึดมั่น”ว่า” ตำรวจคือที่พึ่งของประชาชน”….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า  สวัสดีครับ”

ไชยยงค์ มณีพิลึก