การเมืองยังคง”ร้อนแรง”มี”ข่าวจริง-ข่าวเท็จ” และ”ข่าวปล่อย” ตั้งแต่เรื่อง”หักกัน” ระหว่าง” พรรคร่วม” อย่าง”ภูมิใจไทย” กับ”เพื่อไทย” ที่แม้ว่า”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี บอกกับ”นักข่าวทำเนียบ” ว่า”ไม่มีอะไร” พรรคร่วมทุกพรรค ยัง”รักกันดี” และ ยังคง”กอดคอ”ไปด้วยกัน ไม่มีการ”ถอนตัว” ออกจากการร่วม”รัฐบาล” และไม่มีหรอกการที่จะ”คว่ำกฎหมายงบประมาณ” อย่างที่”เป็นข่าว” วันละสามเวลา”เช้า เที่ยง เย็น” ซึ่งกลายเป็น”ข่าวโอชะ”ของทุก”สำนักข่าว”และกลายเป็นเรื่องที่”ประชาสนใจ”….โดยเฉพาะเรื่องการ”ปรับ ครม.” ซึ่งเป็นเรื่องที่”ประชาชน”ใจจดใจจ่อ” เพราะในสายตาของ”ประชาชน” วันนี้”รัฐบาล”หมดความชอบธรรม”ในการ”บริหารประเทศ” เพราะที่ประกาศว่า”คนไทย”จะอยู่อย่างมี”ศักดิ์ศรี” และ”มีกินมีใช้” ล้วนเป็นเรื่อง”โกหกพกลม” ในการ”หาเสียง” เพราะวันนี้ สภาพของ”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศ” และ”ปากท้อง” ของ”ประชาชน” มีแต่”ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน”ลงเรื่อย ข่าวว่า” นายแบ็งก์” และ”กลุ่มทุน” ใน”ประเทศ” จะเป็น”กลุ่มคนแรก” ที่กำลังของให้มีการ”ปรับ ครม.ให้เร็วที่สุด และเห็นว่า”หมดเวลา”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” ในตำแหน่งของ”ผู้นำ” รัฐบาลแล้ว และถ้ารอจนถึง”สิ้นปี” เชื่อว่าจะเป็น”หายนะ” ครั้งใหญ่ของประเทศไทย…..ในขณะที่”เกษตรกร” ทุก”สาขาอาชีพ มีคำถามถึง”รัฐบาล” ว่า “ทีมเศรษฐกิจ”ของ”พรรคเพื่อไทย” บริหารกันอย่างไร ที่ทำให้” พืชผล”ทั้งหมดของ”เกษตรกร” เริ่มต้นที่”ข้าวเปลือก” เหลือ”เกวียนละ 6,000 บาท “ ส่วน”มันสัมปะหลังจาก กิโลกรัมละ 4 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ ไม่ถึง 2 บาทยางพาราที่เคยขายได้”กิโลกรัมละ 80 กว่าบาท วันนี้เหลือไม่ถึง 60 บาทปาล์มน้ำมัน” จากกิโลกรัมละ 12 บาท เหลือเพียง 4-5 บาท อะไรเกิดขึ้นที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และที่”กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็น”สองกระทรวงหลัก” ของ”เกษตรกร”
ในขณะที่” ผลไม้” ทุกชนิด ที่ให้”ผลผลิต” อย่างเต็มที่ในขณะนี้กลายเป็นของ”ล้นตลาด” มะม่วง กำลังกลายเป็น”ของแจกของแถม” เพราะ”ขายไม่ได้ราคา” กลายเป็นเรื่องของการ”ขาดทุน” ของชาวสวนมะม่วงทั้งประเทศ”มังคุด”ที่เป็น”ราชินีผลไม้” ของประเทศไทย”จากราคา”ส่งออก” กิโลกรัมละ 60 บาท เหลือเพียง 20 บาท ที่กำลังจะออกมาและจะ”ล้นตลาด” ก็คือ”เงาะ” และ”ลองกอง” ของ”ภาคใต้” ทุกอย่างกำลัง”ย่อยยับ”ใต้การ”บริหารประเทศ”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” ที่ วันนี้” นายกรัฐมนตรี” ต้องรู้”สำเหนียก” ถึงความ”ตกต่ำ” ที่เกิดขึ้น…..ล่าสุด “รถบรรทุกทุเรียน” เพื่อไปยัง”มณทลยูนนาน”สาธารณรัฐประชาชนจีน” ถูก”กัก” เอาไว้ ที่ชายแดน”จำนวน 500 คัน กลายเป็น”ปัญหาใหญ่” ของการ”ส่งออกทุเรียน” ที่เป็น”สินค้าทำเงิน”ให้กับ”ประเทศไทย” และ”เกษตรกร” ทั้งหมดถ้าไม่เรียกว่า”หายนะ” จะให้เรียกกว่าอะไร และที่สำคัญ ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง ที่กล่าวมาทั้งหมด จะ”แก้อย่างไร” และแก้ใน”ชั่วโมงไหน”
ใน อดีต”พรรคเพื่อไทย” คือพรรคการเมืองมี”ชื่อชั้น” ในเรื่องของการเป็นพรรคการเมืองที่”เชี่ยวชาญ” ในด้าน”เศรษฐกิจ” แต่ปรากฏว่างานอัน”รุ่งโรจน์” ของ”เพื่อไทย” ผ่านไปและกลายเป็น”อดีต” ที่ไม่”หวนคืน” ดังนั้น เกือบ 2 ปี ของสอง”นายกรัฐมนตรี” จาก”เศรษฐา ทวีสิน” มาถึง”แพทองธาร ชินวัตร” จึงกลายเป็นความ”ล้มเหลว” ในการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” ทุกโครงการ”เข็น”ออกมา ว่าจะเป็น”สามสิบบาทรักษาทั้งประเทศ” เรื่อง”ทุนการศึกษา” ที่ทำอยู่เป็น”เรื่องเก่า” สมัยที่”ทักษิณ ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี”เป็น”หัวหน้าพรรคไทยรักไทย” ส่วน เรื่องใหม่ๆในสมัยของ” แพทองธารธาร ชินวัตร” ตั้งแต่”คุณสู้ เราช่วย” ก็ไม่ได้ทำให้”หนี้สิน” ของ”ประชาชน” ลดน้อยลง โครงการ”ซอฟต์พาวเวอร์” ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง เพราะผ่านไปแล้วเกือบ 2 ปี ของ”รัฐบาล” ยังไม่”เห็นหัวเห็นหาง” หรือเห็นความ”สำเร็จ” ของ”ซอฟต์พาวเวอร์” แต่อย่างใด คำถามของ”ประชาชน” คือถามว่า”อะไร” ที่เป็น”ผลงาน” ที่”โดดเด่น” ของ”นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ”แพทองธาร ชินวัตร” วันนี้ สิ่งที่”ประชาชน”ยังรอคอยคือ”การแจกเงินหมื่น” ให้กับ”ผู้มีอายุ 16 ปี ถึง 59 ปี ซึ่งถ้าฟังเสียงของ”พิชัย”ชุณหวชิร” รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง” รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ คือการร้องเพลง” ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า” เพราะ”สถานะ”ของ”การเงินการคลัง” กำลัง”ยอบแยบ” เต็มที่ และต้องเตรียมเงินอีก 500,000 ล้านบาท เอาไว้เพื่อ”พยุงเศรษฐกิจ” ที่ได้รับ”ผลกระทบ”จากการ”ขึ้นภาษี”ของ”ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งหลายประเทศเข้ามาการ”เจรจา”เพื่อการ”ต่อรอง” ในเรื่อง”อัตตราภาษี” กันไปแล้ว แต่”ประเทศไทย” ยังไม่เริ่มดำเนินการยัง”ใจเย็นเป็นน้ำแข็งขี้แกลบ” แล้วอย่างนี้จะให้”เศรษฐกิจ” ของประเทศ และเรื่อง”ปากเรื่องท้อง” ของ”ประชาชน จะได้รับการ”แก้ไข” อย่างไร
ที่สำคัญ ทั้ง”ทักษิณ ชินวัตร” และ”ทีม”ที่ปรึกษา” ด้าน”เศรษฐกิจ”มัวไป”งมโข่ง” กันที่ไหน ทำไมจึงไม่ช่วย”ลูกสาว” ที่เป็น”นายกรัฐมนตรี” ในการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” ทำไมจึงมีแต่”วุ่นวาย”กับเรื่องของ”การเมือง” ของการ”กลาดล้าง” กลุ่ม”สมาชิกวุฒิสภา” ซึ่งต่อให้”สมาชิกวุฒิสภา” ถูกดำเนินคดีจนหมดทั้งสภา ก็ไม่ได้ช่วยให้”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศ”ดีขึ้น …..ความจริงเรื่องที่”ทักษิณ ชินวัตร” จะ”กอบกู้” ความ”เชื่อมั่น” ให้เกิดขึ้นกับ”แพทองธาร ชินวัตร” คือการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ”ให้”ฟื้นคืน”โดยเร็ว หลายคนถามถึงเรื่องที่”ทักษิณ ชิวัตร” เคย” ปาฐกถา”” เรื่องการ”ฟื้นเศรษฐกิจ” ของประเทศ ที่ฟังแล้ว”เลิศหรู” และแสดงถึง”วิสัยทัศน์” และสร้างความ”เชื่อมั่น” ว่าการกลับมา”เหยียบแผ่นดิน” ของ”ทักษิณ ชินวัตร”จะทำให้”เศรษฐกิจ”ของ”ประเทศฟื้นคืน” จึงกลายเป็นเรื่องของ”น้ำยาบ้วนปาก” เพราะไม่เป็น”ความจริง” …… สิ่งที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งเป็น”พ่อของนายก” ต้องเร่งดำเนินโดยเร็วคือ”ปรับ ครม.” เอาคนที่มี”ฝีมือ” เข้ามา”บริหาร” กระทรวงสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับ”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง”ของประชาชน ไม่ใช่คุยแต่เรื่อง”แย่ง” เอา”กระทรวงมหาดไทย” จาก”พรรคภูมิใจไทย” และ”แย่งเอา”กระทรวงพลังงาน”จาก”พรรครวมไทยสร้างชาติ” อย่างที่เป็นข่าวทุกวันๆ ถามว่าถ้า “สองกระทรวง”นี้กลับไปอยู่กับ”พรรคเพื่อไทย”เศรษฐกิจ”ของประเทศจะ”ฟื้น” และ”ปากท้อง”ประชาชน”จะ”อิ่ม”อย่าง”ทันตาเห็น” หรือไม่ นี่ก็เป็น”คำถาม”จาก”ประชาชน”เหมือนกัน…..และ”คนไทย” กว่า”ค่อนประเทศ” ฝาก บอกมาว่า”อย่าได้เอา” เรื่องของ”พรบ.อินเตอร์เทนเม้นทร์คอมเพล็ก” มาเป็น”ตัวประกัน” ว่า ถ้าประเทศนี้ไม่มี”อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็ก” เกิดขึ้น”เศรษฐกิจ”ของ”ประเทศไทย”ไม่มีวัน”ฟื้นตัว” สมมุติว่า “สุดท้าย” พรรคการเมือง” มีการ”ซูเอี๋ย”หรือมีการ”เกี้ยเซี้ย” กันได้ ทำให้”พรบ.อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็ก”ผ่าน”สภาผู้แทนราษฎร”ไปได้ ว่าที่จะมี”อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็ก” ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี ในระหว่างนั้น ถ้า”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศ”ยังไม่”ฟื้นตัว”ประเทศ “และ”ประชาชน” จะอยู่กันอย่าง”เสดสา” อย่างทุกวันนี้หรือ
กลายเป็น”ข่าวดัง”เป็น”พลุแตก” สำหรับ ”สิรดนัย พลายด้วง” หรือ”กอล์ฟ” ลูกชายของ”สส.สมยศ พลายด้วง” สส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์” ที่”สั่งการ”ให้”ลูกสมุน” ทำร้าย “ดต.นิสาธิต คงเทพ” ผบ”หมู่ ตชด. 43 ในขณะทำหน้ารักษาการณ์ในการ”เลือกตั้ง”เทศบาล ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ล่าสุดถูก “ดำเนินคดี” ในหลายข้อหา เช่น ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ต่อสู่ขัดขืนการจับกุม”และ ข้อหา “อั่งยี่ซ่องโจร” โดย”ศาลจังหวัดสงขลา”ไม่ให้”ประกันตัว” ทั้งก๊วน” จำนวน 7 คน ที่สำคัญ คดีนี้มีการโยงไปยัง เรื่องของ”บ่อนพนันออนไลน์” ของ”นักการเมืองระดับชาติ” และ”ลูกๆ”ของ “นักการเมือง” อีกหลายคน รวมทั้งเรื่องของ”เส้นการเงิน” ที่ถูก”ตำรวจ”ชี้ว่า”พัวพัน”ไปยัง”ก๊วนค้ายาเสพติดระดับพันล้าน” ใน”อำเภอรัตภูมิ” จังหวัดสงขลา เรื่องของ”ก๊วนกอล์ฟ” ถ้า”ตำรวจ”ทั้ง”ท้องที่” และ”ไซเบอร์” เอากันให้”ถึงตาย” ก็จะมีการ”ตายยกเข่ง” เกิดขึ้นกับ ”ก๊วนการเมือง” ที่เป็น”สีเทา” ของ”จังหวัดสงขลา” ซึ่ง”ประชาชน” แบบ”เราๆท่านๆ” ต้องติดตาม”ตอนต่อไป”แบบไม่”กระพริบตา” …..พูดถึง”การเมืองท้องถิ่น” ที่ “สนามเลือกตั้งสงขลา” มีการเปลี่ยนตัว”นายกคนเก่า” เป็น”นายกคนใหม่” เป็น จำนวนไม่น้อย นั่นแสดงว่า”คนในพื้นที่” มีความรู้ที่”อยากเปลี่ยนผู้นำ” เพราะ”นายกคนเก่า” มีจุด”บกพร่อง” หรือไม่ก็ไม่สนใจกับการ”ดูแลท้องถิ่น” และ”ประชาชน” หรืออีก”นัยหนึ่ง”คือ”นายกคนใหม่” ที่เป็น”ผู้ท้ายชิง” คือ”เจ้าบุญทุ่ม” เพราะการเลือกตั้ง”ระดับเทศบาล” ใน”จังหวัดสงขลา” ครั้งนี้มี”บางทีม”และ”บางคน” ซื้อถึง”เสียงละ 3,000 บาท ไม่เชื่อต้องเชื่อว่าการ”ซื้อเสียง” ของ”จังหวัดสงขลา” เมืองที่มี”สถาบันการศึกษาระดับหมาวิทยาลัย 5 แห่ง” มีความ”รุนแรง”และ”ไร้จริยธรรม” ทาง”การเมือง” ถึงขนาดนี้
ส่วนที่”เทศบาลนครหาดใหญ่” เป็นเรื่องของ”สมบัติผลัดกันชม” เพราะ”4 ปีที่แล้ว” หลวงคร” พล.ต.ท.สาคาร ทองมุณี” เอาชนะ” ปลัดแป้น” ณรงค์พร ณ พัทลุง” ได้เป็น”นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ วันนี้”สถานการณ์พลิกกลับ” เมื่อ”ทีมปลัดแป้น” สามารถ”เอาชนะ” ทีมของ”หลวงคร” ไปได้อย่าง”ขาดลอย” ได้เป็น”นายกเทศบาลนครหาดใหญ่”แบบ”สมใจอยาก” หลังจากที่”รอมา 4 ปีเต็ม” ก็หวังว่า”โครงการต่างๆ” ที่”หาเสียง”เอาไว้ คงจะทำได้อย่างเป็น”รูปธรรม” และต้องไม่มีเรื่อง”ว่าแต่เขาอิหนาเป็นเอง”…..แต่เรื่องของ”การเมือง” ไม่มีคำว่า”เพื่อน” เพราะหลังการ”ประกาศชัยชนะ” เพียงวันเดียว “หลวงคร” พล.ต.ท.สาคร ทองมีณี ที่กลายเป็น” อดีตนายก”ไปแล้ว ได้นำ”หลักฐาน”ของการ”หาเสียง”แบบ”ใส่ร้ายป้ายสี” ไป”ยื่นฟ้อง”กับ”คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ”กกต.”ไปแล้ว ส่วนจะมีการ”ฟ้องร้อง”ตามมาอีกกี่เรื่องก็ต้องติดตามกันต่อไป และที่”น่าห่วง” สำหรับ”นายกแป้น” ณรงค์พร ณ พัทลุง คือ” สมาชิกสภาเทศบาลทั้ง 4 เขต ที่ได้รับการ”เลือกตั้ง” เป็น”ลูกทีม” ของ”หลวงคร” เกือบทั้งหมด นี้คือความที่น่า”หนักใจ” ที่อาจจะเกิดปัญหา”ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ” กับ”ฝ่ายบริหาร” ในอนาคต….. ส่วน”นายกคนเดิม” ที่ไม่มี”คู่แข่ง” ก็คือว่า”สมัยนี้” จะได้เป็น”นายกเทศบาล” เพื่อ”บริหารท้องถิ่น” เป็น”สมัยสุดท้าย” เพราะหากไม่มีการการ”แก้กฎหมาย” สมัยหน้า ไม่สามารถลง”สมัคร”ได้อีก” ดังนั้นจึงต้อง ติดตามดูว่าจะ”ทำงาน”แบบ”ทิ้งทวน” เพื่อการ”ไว้ชื่อลือชาย”หรือการ”ตักตวง” เป็นครั้ง”สุดท้าย” ก่อนที่จะเป็น”นายกเทศบาล”ไม่ได้อีก เพราะ”กฎหมาย” ให้เป็นติดต่อกันได้ 2 สมัย นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้อง”ติดตาม”
ส่วนที่”จังหวัดพัทลุง” สามเทศบาลสำคัญๆ ที่มีของ”ตระกูลธรรมเพชร” ลงรับ”สมัคร” ได้รับเลือกทุกคน นี้เป็นการ”ยืนยัน” ว่าใน”บางจังหวัด” คำว่า”บ้านใหญ่” ยังเป็น”มนต์ขลัง” สำหรับ”การเมือง” ทั้ง”ระดับชาติ” และ”ระดับท้องถิ่น” ซึ่งตรงกับ”แนวคิด”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ทำการเมืองแบบ”บ้านใหญ่…..และที่ “เทศบาลนครตรัง” ประชาชนก็ ตัดสินใจ”เปลี่ยน” โดยเลือก” นายแพทย์รักษ์ บุญเจริญ” มาเป็น”นายกเทศบาลนครตรังแทน” ดร.สัญญา ศรีวิเชียร” และที่”เทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ชาว”เบตง” เมืองในหมอก ก็ตัดสินใจ”เลือก “ใช้ วงศ์ลัภย์นิตย์” เป็น”นายกเทศบาลเมืองเบตง แทน”สกุล เล็งลัคย์กุล” ก็ต้องดูว่า”ช่างใช้” จะนำ”เทศบาลเบตง”ไปใน”ทิศทางไหน……สำหรับ”พิทักษ์ ก่อเกียรพิทักษ์” อดีต”นายกเทศบาลเมืองปัตตานี 4 สมัย” ลงสมัครเป็น”ครั้งสุดท้าย” เพื่อ”ทวงตำแหน่งกลับมาอีกครั้ง แต่ไม่”ประสบความสำเร็จ” ยัง”พ่ายแพ้” คู่”ปรับเก่า” นุนิอันวา สุไลมาน” เป็นครั้งที่สอง แต่ที่เห็นว่า”การเลือกตั้ง” ที่”เทศบาลเมืองปัตตานี” มีเรื่องที่”นักการเมือง” หรือ”หัวคะแนน”ไม่สมควรทำ” นั้นคือการ”หาเสียง”แบบ”แบ่งแยก” พี่น้องชาว”ไทยพุทธ” และ”มุสลิม” ซึ่งเป็นการสร้างความ”ย่ำแย่” ให้เกิดความ”แตกแยก” มากขึ้น และเป็นการ”ทำลาย” สังคม” พหุวัฒนธรรม” ที่ไม่น่าให้”อภัย”
เรื่องของ”ไฟใต้” วันนี้ยังคงมีความ”รุนแรง” ต่อไป ที่น่าเป็นห่วง เมื่อ”กองกำลังติดอาวุธ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น” ประกาศว่าจะใช้ความ”รุนแรง” ด้วยการ” สังหาร”คนไทยพุทธ” โดยเฉพาะ”พระ” และ”ครู” ในส่วนของ”พระภิกษุสงฆ์” การ”ป้องกัน” อาจจะ”ไม่อยาก” เช่น “ทหาร”หรือ”อาสารักษาดินแดน”ไปตั้งฐานปฏิบัติการ” ใน”วัด” และจัด”รปภ.คุ้มครองพระ” ในการออก”โปรดสัตว์” หรือ”บิณฑบาต” แต่กับ”ครู” นี้ซิ ถ้า”บีอาร์เอ็น” หวนกลับมาเพื่อ”เล่นงาน” ครูในพื้นที่ “จังหวัดชายแดนภาคใต้”อีกครั้ง เพราะ”ครู” มี”จำนวนมาก” และต้อง”เดินทาง” จาก”บ้านพัก”ไปยัง”โรงเรียน” แม้จะมีการ”จัดกำลัง” ในการ”รปภ.ครู” แต่ที่ผ่านมา”ชุด รปภ.ครู” คือ”เหยื่อ” ของ”ระเบิดแสวงเครื่อง”ของ”บีอาร์เอ็น” มาโดยตลอด วันที่ 16 นี้ โรงเรียนกำลังจะ”เปิดเทอม” หวังว่า” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะได้” สั่งการ” ให้” มีการ”ยกระดับ”ในการ”รปภ.ครู” ให้มีความ”ปลอดภัย” อย่าให้”แม่พิมพ์ชองชาติ” กลายเป็น”เหยื่อ”ของ”บีอาร์เอ็น” เพื่อ”ซ้ำเติม” สถานการณ์” อย่าง”เด็ดขาด…..โดยเฉพาะการ”เดินหน้า” ในการ”กวาดล้าง” เพื่อ”จับกุม” แนวร่วม” และ”ผู้ก่อเหตุ” ที่ยัง”หลบหนี” ในพื้นที่ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อการทำลาย”เครือข่าย” และการ”ทำลายโครงสร้าง” ของ”บีอาร์เอ็น”ในพื้นที่ ที่สำคัญต้องเป็นการ”บังคับใช้กฎหมาย”ด้วยความ”ยุติธรรม” ไม่ออก”นอกกรอบ”ที่”กฎหมาย”กำหนด…..ที่เห็นได้ชัด วันนี้”จุดอ่อน”ของ”กองกำลังติดอาวุธ” ในพื้นที่ กลัวกล้อง”วงจรปิด” เพราะ”ภาพในกล้อง” ติด”หลักฐาน” ในการ”มัดตัว” และ”ศาลเชื่อ” ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย”ตัวจริง” วันนี้” แนวร่วม” ในพื้นที่จึงมีการ”ทำลายกล้อง” อย่าง”เป็นล่ำเป็นสัน” ดังนั้นจึงเป็น”หน้าที่”ของ”เจ้าหน้าที่”ใน”พื้นที่” ในการ”ป้องกัน”การ”ทำลายกล้องวงจรปิด” และต้องมีการ”จัดหา” กล้วงวงจรปิด มา”ติดตั้ง” ในพื้นที่ ซึ่งเป็น”เส้นทาง” ในการ”เคลื่อนไหว” ของ”บีอาร์เอ็น” ให้มากขึ้น
ที่สำคัญ วันนี้”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ต้อง”พัฒนา” อุปกรณ์” เพื่อการ”ลดความสูญเสีย” ทั้งของ”เจ้าหน้าที่” และ”ประชาชน” นั้นคือต้องมี” โดรน” เพื่อช่วยในการ”ลาดตระเวน” และต้องใช้”โดรน”ช่วยในการ”บิน”ลาดตระเวน” เพื่อการ”คุ้มครองฐานปฏิบัติการ” โดยเฉพาะ” ชุดคุ้มครองตำบล” หรือ”ชคต”…..วันก่อน”ผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุข” ที่เป็น”ตัวแทน”ของ”รัฐบาลมาเลเซีย” เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อการ”พบปะ”กับ” ภูมิธรรม เวชยชัย “ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ “เสนาบดีกระทรวงกลาโหม” เพื่อให้”ฝ่ายไทย” ยืนยันว่าจะมีการ”ขับเคลื่อน” เวทีการ”พูดคุย”ระหว่าง”ตัวแทน”ของ”รัฐบาลไทย” กับ”บีอาร์เอ็น” เมื่อไหร่ และในคณะ”พูดคุย” ของ”รัฐบาลไทย” ใครจะเป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” ….. และหาก”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังคงยืนยันว่าการ”พูดคุย” ต้องตั้งอยู่ในกรอบข้อตกลงสามข้อ 1 ต้องหยุดความรุนแรงในพื้นที่ทุกรูปแบบ 2. การพูดคุยต้องยึดในแนวทางพหุวัฒนธรรม” 3 .เจรจาภายใต้ธรรมนูญไทย ที่รัฐไทยเป็นรัฐเดียว แบ่งแยกไม่ได้ ซึ่งหากยังยึดใน 3 ข้อ นี้ คงไม่มีการ”พูดคุย” ในเร็วๆนี้ เพราะ” บีอาร์เอ็น” ประกาศ”ชัดเจน” ว่าต้องการ”แบ่งแยกดินแดน”ไม่ใช่เป็น”เขตปกครองพิเศษ หรือ”เขตปกครองตนเอง” และที่สำคัญผู้นำ” ขบวนการบีอาร์เอ็น” ไม่มี”เอกภาพ” ในการ”สั่งการ” ให้”กองกำลังในพื้นที่” ที่มีอยู่”หลายกลุ่ม” ให้หยุดการ”ก่อเหตุ” เพื่อ”ยุติ” ความ”รุนแรง” ได้อย่างแน่นอน…… แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า สวัวดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก