วันพุธ, 30 กรกฎาคม 2568

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่หาดใหญ่ ให้กำลังใจเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงศูนย์มณโฑ

07 มี.ค. 2025
63

วันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบโอวาทแก่สมาชิกเครือข่ายวิทยุเครื่องแดง “ศูนย์มณโฑ” ณ สโมสรค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการเฝ้าระวังเหตุและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เมือง ผ่านการเป็นจิตอาสา โดยใช้วิทยุเครื่องแดงเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักที่ช่วยให้สามารถติดต่อประสานงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีนายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พลตรี ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 นางบงกช กาญจนแก้ว ประธานคณะกรรมการศูนย์วิทยุเครื่องแดงเพื่อความมั่นคง รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน คณะกรรมการ สมาชิก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เล็งเห็นถึงภัยคุกคามจากสถานการณ์การก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547 และจึงได้ก่อตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังภาคประชาชน “ศูนย์มณโฑ” เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา และอำเภอเมืองสงขลา โดยได้คัดสรรบุคคลที่มีจิตอาสาเข้ามาร่วมช่วยเฝ้าระวังและป้องกันการก่อเหตุในพื้นที่สำคัญของเมืองเศรษฐกิจ รวมถึงการมอบวิทยุเครื่องแดงเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการรับส่งข่าวสารที่รวดเร็วและถูกต้องตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งคณะกรรมการจากภาครัฐและภาคเอกชนที่มีจิตอาสาเพื่อบริหารจัดการศูนย์วิทยุเครื่องแดง และระดมทุนสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้บริจาคจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งช่วยเสริมความมั่นคงในการปฏิบัติงานและการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทางราชการในการแจ้งข่าวสารตามวัตถุประสงค์ของศูนย์ แม้จะมีสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน แต่สมาชิกวิทยุเครื่องแดงยังคงมีอุดมการณ์ในการช่วยพาเมืองหาดใหญ่ให้พ้นจากวิกฤต พร้อมทั้งมีการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารศูนย์ วิทยุเครื่องแดง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ด้าน นางบงกช กาญจนแก้ว ประธานคณะกรรมการศูนย์วิทยุเครื่องแดงเพื่อความมั่นคง ได้กล่าวขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมย้ำถึงความสำคัญของเครือข่ายเฝ้าระวังภาคประชาชน “วิทยุเครื่องแดง ศูนย์มณโฑ” ซึ่งทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสะเดา และอำเภอเมืองสงขลา โดยมีการคัดสรรบุคคลที่มีจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจเฝ้าระวังและป้องกันเหตุการณ์ไม่สงบ พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้วิทยุเครื่องแดงเป็นช่องทางสื่อสารที่มีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง และในวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่สมาชิกเครือข่ายผ่านการฝึกอบรมการใช้งานวิทยุสื่อสาร การสังเกตบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการตรวจเช็คและซ่อมบำรุงวิทยุเบื้องต้น เพื่อให้สมาชิกมีความพร้อมและใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง

จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับชมวิดีทัศน์การดำเนินงานของศูนย์วิทยุเครื่องแดง พร้อมมอบรางวัลให้แก่สมาชิกวิทยุเครื่องแดงที่ปฏิบัติงานยอดเยี่ยมจำนวน 12 ราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 6 รางวัล และมีการแจกเสื้อและของที่ระลึกแก่สมาชิกวิทยุเครื่องแดง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการร่วมมอบของที่ระลึกในครั้งนี้ด้วย

แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เกิดเหตุใน จ.ยะลา หลังมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุฯกลางดึกที่ผ่านมา

22 มี.ค. 2024
93

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตรี นิติ ติณสูลานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา และ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุใน พื้นที่ จ.ยะลา หลังเกิดเหตุฯ ป่วนเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมประฌามกลุ่มก่อเหตุที่ก่อกวนสร้างความเดือดร้อน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต่างร่วมกระทำความดีในเดือนรอมฎอน

พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากพอสมควร อันเนื่องมาจากการก่อกวนของกลุ่มคนร้าย ซึ่งดูจากพฤติกรรมแล้วเป้าหมายของการก่อเหตุครั้งนี้ คนร้ายไม่ได้มุ่งต่อชีวิตประชาชน แต่จะมุ่งไปที่การทำลายทรัพย์สินมากกว่า ซึ่งห้วงเวลาของการก่อเหตุนั้นอยู่ในช่วงเดือนรอมฎอน ถือเป็นเดือนที่ทุกคนมีแต่ปฏิบัติความดี ดังนั้น การก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่เห็นด้วยและต้องช่วยกันประณามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้

แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุด้วยว่า ในห้วงที่ผ่านมา ตนได้เน้นย้ำเรื่องของฐานปฏิบัติการ หรือที่ตั้งของหน่วย ให้ช่วยกันดูแล โดยสังเกตได้จากเหตุเมื่อคืนนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตรงนี้เป็นจุดที่เราต้องนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงว่าจะทำอย่างไรให้ดูแลความปลอดภัยได้ทุกพื้นที่
ทั้งนี้ หลังจากนี้อาจต้องมีการปรับเรื่องของห้วงเวลาการก่อเหตุ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้น เขาจะดูช่องว่างของการทำงาน เมื่อไหร่ที่มีโอกาส ทางหนีพร้อม จะกระทำในทันที
สำหรับในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีแรงงานพม่า เสียชีวิต 1 รายซึ่ง เป็นเหตุการณ์วางระเบิดหัวจ่ายน้ำมัน ภายในปั๊ม น้องแรงงานพม่าอยู่ภายในห้องพักได้โดนสะเก็ตระเบิด ต้องขอแสดงความเสียใจ ต่อผู้ที่เสียชีวิต และครอบครัวด้วย