‘บิ๊กโจ๊ก’ ยื่นฟ้อง ผบ.ตร.ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีลักข้อสอบจุฬาฯ ยันไม่เคยกระทำการดังกล่าว โต้เสียชื่อเสียง
02 ต.ค.2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปยื่นฟ้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการลักข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ไม่เคยถูกแจ้งข้อกล่าวหา หรือถูกดำเนินคดีอาญาในเรื่องดังกล่าว แต่กลับถูกนำชื่อไปเกี่ยวโยงกับคดีทุจริตข้อสอบของจุฬาฯ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งแม้จะไม่ระบุชื่อชัดเจน แต่ก็มีลักษณะพาดพิง ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นตน ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และภาพลักษณ์ จนนำมาสู่การยื่นฟ้องในครั้งนี้
กรณีดังกล่าวมีต้นเหตุจากเมื่อเดือนเมษายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้รับหนังสือร้องทุกข์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตข้อสอบ คณะนิติศาสตร์ (ภาคค่ำ) โดยพบว่ามีการนำข้อสอบออกไปจากห้องสอบ และจัดทำเฉลยก่อนนำกลับมาให้ผู้เข้าสอบ
ต่อมา คณะพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าร่วมกันนำเอกสารของผู้อื่นไปโดยประการที่อาจเกิดความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 บก.สอท.1 ได้ส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจนถึงปัจจุบัน การสอบสวนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
ทั้งนี้ ในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0038/1397 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568 และคำสั่งที่ 0039/1493 ลงวันที่ 11 เมษายน 2568 ระบุว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ พบข้อมูลสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการแบ่งหน้าที่กันทำงานในการทุจริตข้อสอบ โดยบางช่วงมีข้อความที่เชื่อมโยงกับชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งเอกสารดังกล่าวยังระบุถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ต.ท. ชานนนท์ อ่วมทร, ร.ต.อ.ชัชวาล กุลกำลัง และ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ซึ่งมีบทบาทในการจัดเตรียมข้อสอบ เฉลยคำตอบ และนำส่งข้อสอบกลับคืน พร้อมทั้งพบธุรกรรมทางการเงินที่โยงกับบัญชีของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ และผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ และไม่เคยถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่กลับถูกกล่าวถึงในเชิงพาดพิงอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า มายื่นฟ้อง ผบ.ตร.ในคดีอาญา 2 ฐานความผิด คือหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องคดีลักข้อสอบ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง แต่สำนวนและการให้ข่าวชัดเจนว่าพาดพิงถึงผม ส่งผลให้สังคมเข้าใจผิด กระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติยศส่วนตัว จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายปกป้องตนเอง ดังนั้นการถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ทั้งที่พ้นจากราชการไปแล้ว เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรม และทำให้ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นผู้ต้องหาทุจริตข้อสอบ ทั้งที่ความจริงไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือฟ้องร้องในชั้นพนักงานสอบสวน
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์