รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคมชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น
การเมืองภาพใหญ่ของประเทศไทย เห็นการเดินทางของนายกฯนิด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในการเดินทางไปต่างประเทศทำหน้าที่เป็นเซลส์แมนในหลายประเทศ ด้วยการนำเอาโครงการที่เป็นอภิมหาโปรเจกท์ เพื่อชักชวนนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งวันนี้เป็นเพียงเรื่องขายฝัน ที่ยังไม่เป็นจริง เพราะยังไม่มีประเทศไหนตกล่องปล่องชิ้นในการหอบเงิน เพื่อมาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ หรือสะพานบก ในการเชื่อมสองฝั่งทะเล เป็นเส้นทางขนส่ง ที่เป็นทางเลือกของการขนส่งสินค้าข้ามมหาสมุทรหรือข้ามทวีป ซึ่งหากเป็นจริง หมายถึงความรุ่งเรือง ของประเทศไทย แต่โดยข้อเท็จจริง แลนด์บริดจ์เป็นเรื่องยาก ที่จะเกิดขึ้นในภาคใต้ ดังนั้นเอ็นจีโอ และกลุ่มการเมือง ที่ออกมาต่อต้านโครงการแลนด์บริดจ์ อย่างคึกคักในวันก่อน วันนี้เก็บฉากกลับบ้าน เพราะคงเห็นแล้วว่าการเดินสายของนายกฯนิด ยากที่จะประสบความสำเร็จ เป็นได้เพียงการขายฝันเท่านั้น
กลับจากทัวร์เมืองนอก ก็เป็นการทัวร์ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ซึ่งเป็นภารกิจทางการเมืองลงพื้นที่พบปะประชาชนให้ยาหอม เพื่อผลักดันโครงการในแต่ละจังหวัด ส่วนจะทำได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่เศรษฐกิจ ของประเทศ ว่าจะเติบโตได้หรือไม่โดยเฉพาะงบประมาณแผ่นดิน ที่ยังมองไม่เห็นว่า จะเจียดเงินที่ไหนไปพัฒนาประเทศ ตามความต้องการของแต่ละพื้นที่
พูดง่ายๆ ในรอบ 7 เดือนของรัฐบาลนิด 1 สิ่งที่ทำไปแล้วเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆแต่โครงการใหญ่ๆ ที่ทำแล้วเห็นผลถึงความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ-ปากท้อง และการเมือง ยังมองไม่เห็น เช่น โครงการแจกเงิน ให้ประชาชนคนละ 10,000 บาทที่เรียกว่าดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลนิด 1ขอเวลา 1 เดือน เพื่อนำไปศึกษา วันนี้ครบ 1 เดือนแล้ว แต่ไม่มีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย เพื่อแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบว่าประชาชนจะได้รับเงินแจก 10,000 บาท หรือไม่ได้ เพราะแม้แต่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์รมช.คลัง ที่เสียงแข็ง ยืนกระต่ายขาเดียว ว่าทำได้แน่นอน วันนี้ก็ไม่กร้าวในการให้สัมภาษณ์สื่อ เหมือนก่อน หรือเพื่อไทย ได้รับคำสั่งไอ้เสือถอย จาก ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำประเทศตัวจริง เสียงจริง เรียบร้อยโรงเรียนจันทร์ส่องหล้า แล้วกระมัง
รอบรั้ว จ.สงขลา ถึงเทศกาลจัดงานตามอำเภอต่างๆ เช่น งานสงกรานต์ ประจำปี 2567ที่หน้าสนามสวนสาธารณะเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย อ.สบ้าย้อย เริ่ม 12-21 เมษายน2567, งานพระแม่โพสพ ที่สนามเทศบาลตำบลระโนด อ.ระโนด เริ่ม 8-18 พ.ค. 2567, งานเททองหล่อพระ และทอดผ้าป่าสามัคคี วัดบ้านไร่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ เริ่มวันที่ 24-28 มีนาคม 2567, งานบุญวันผูกเปล หลวงปู่ทวด ถิ่นฐานบ้านเกิด ที่สำนักสงฆ์นาผูกเปล หมู่ 7 ต.ชุมพล อ.สทิงพระ เริ่ม 21-27 มีนาคม 2567, งานกาชาดจังหวัดสงขลา ซึ่งงานทั้งหมดที่จะจัดขึ้นนี้ ทาง นายสมนึก พรหมเขียวผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เร่งมีคำสั่งให้งานต่างๆ เหล่านี้ ไม่ให้มีการพนันประเภท 5เช่น ปาโป่ง ปาเป้า หยิบสลาก บิงโกฯ อย่างเด็ดขาด ถึงท่านนายอำเภอของอำเภอนั้นๆ เนื่องจากการพนันดังกล่าว จะมีเด็กและเยาวชนเข้าไปเล่นการพนันกันเป็นจำนวนมาก ส่วนทางด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ควรมีคำสั่งให้ ผู้กำกับทุกๆ สภ. สั่งการให้ตำรวจใต้บังคับบัญชาเข้มงวดกวดขันเรื่องการพนันตามงานต่างๆ ที่จะจัดขึ้นด้วย ชาวบ้านจะขอขอบคุณเป็นอย่างมากครับผม
ที่สำคัญ นายอำเภหาดใหญ่ และนายอำเภอสะเดา อย่าปล่อยให้ผับเถื่อนได้ใจ เปิดได้ยันสว่าง จะมีการจับเพียง 2-3 เดือนครั้ง นอกนั้นอ้างว่า ผับเถื่อน อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาต ถามว่าผับเถื่อนเหล่านั้น ขอใบอนุญาตมากี่ปีแล้วครับ ผับเถื่อนตั้งแต่เปิดมาไม่เคยมีใบอนุญาตถูกต้องครับท่านนายอำเภอ ถึงเวลาที่ ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สมควรสั่งปราบผับเถื่อน อย่างจริงจังแล้วหรือยัง…และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ควรจะสั่งการให้ตำรวจสงขลา ลุยผับเถื่อนที่เปิดอย่างผิดกฎหมายได้หรือยัง หรือจะปล่อยผับเถื่อนให้เปิดจนท่านเกษียณอายุราชการ ก็ไม่ว่ากันครับผม
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์