รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
ภาพใหญ่ทางการเมือง ที่ต้องจับตาคือเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องการ ถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กลายเป็นชนักปักหลัง ที่ต้องรอการ ที่ทำให้ตำแหน่งของผู้นำประเทศ ไม่มีความสง่างาม และนอกจากนี้ยังต้องลุ้นด้วยความระทึก ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ จะตัดสิน แบบออกหัว หรือออกก้อย แม้กูรู และเกจิ ทางการเมืองจากหลายสำนักดัง จะออกมาฟันธง ว่า เสี่ยนิด จะอยู่รอดปลอดภัย เพราะเพื่อไทย และพรรคร่วมรวมทั้งผู้ที่มีบารมี นอกรัฐธรรมนูญ ยังต้องใช้บริการของเพื่อไทย และเพื่อไทย ก็ยังต้องใช้บริการ ของเสี่ยนิด ในการนำทัพ ในยามที่ โพลล์ทุกสำนัก ชี้ชัดว่า วันนี้ความนิยมในพรรคเพื่อไทยยังตกต่ำ ดังนั้น เสี่ยนิด จึงยังต้องทำหน้าที่มีดพร้า ในการฟาดฟันสิ่งกีดขวาง และขวากหนาม เพื่อให้อุ๊งอิ๊งแพทองธาร ชินวัตร ก้าวขึ้นสู่ถนนการเมือง โดยบอบช้ำ น้อยที่สุด
วันนี้เพื่อไทย แม้ผลโพลล์ที่ออกมาจะตกต่ำ แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าเมื่อเทียบกับทุกพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังมีภาษี มากกว่าทุกพรรค ที่สามารถต่อกร กับพรรคก้าวไกล ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ดังนั้น ณ วันนี้ เศรษฐาทวีสิน จึงยังอยู่ในโซนปลอดภัย ยังไม่ตกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างชัวร์ เช่นเดียวกับทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าบริบท ที่ออกมาจะเลยธง จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมหรือไม่ แต่เชื่อว่า สุดท้ายแล้ว ประเทศไทยยังต้องใช้บริการ ของทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าจะต้องหวานอมขมกลืน ก็กลายเป็นเรื่องจำเป็น ที่ยังต้องบริการของ ทักษิณ ต่อไป เพราะนี่คือประเทศไทย ที่มีอะไรมากมาย ที่ประเทศอื่นไม่มี
หลังการประชุม เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ยังไม่ยอมโงหัว ทั้งที่เพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ เป็นเวลาเกือบ 1 ปี จนมีคำถามจากคนทั้งประเทศถึงความล้มเหลวของพรรคการเมืองที่อวดอ้าง กับประชาชน มาโดยตลอดว่าเป็นพรรคการเมืองที่เป็นมืออาชีพ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ดูไปดูมาประชาชน บอกกว่าสู้มือปฏิวัติ อย่างลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน ก็ลัดฟ้าไปยังฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อไปพบปะกับนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจยักษ์ๆ หลายบริษัทด้วยกัน เพื่อชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซา ของประเทศ ซึ่งถ้าติดตามบริบทของเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบว่าวิธีการเดียวในการกอบกู้ เศรษฐกิจของประเทศไทยคือทุนจากต่างประเทศ
ส่วนการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศ ก็ฝากความหวัง ไว้กับการเข็นดิจิทัล วอลเล็ต ให้สำเร็จโดยเร็ว และทั้ง 2 เรื่อง ที่เศรษฐา ทวีสิน และเพื่อไทย ทำอยู่ ก็ยังการันตี ไม่ได้ว่า จะทำให้เศรษฐกิจ ของประเทศฟื้นตัว โดยเฉพาะทุนนอกประเทศ ที่ ผ่านไปเกือบ 1 ปี ที่เศรษฐา ทวีสิน ทำการเทียวไล้เทียวขื่อ บางประเทศไปเยือนแบบถี่ๆ แต่ก็ยังไม่มีกลุ่มทุน ประเทศไหนที่ยกทัพเข้ามาลงทุน ในประเทศไทย สิ่งที่ติดมือของเสี่ยนิด กลับบ้านคือยาหอม ส่วนมันนี่ ยังไม่มีเข้ามาแม้แต่อีแปะเดียว แต่อย่างไรเสีย คนไทย ก็ไม่มีทางเลือก และยังต้องฝากชีวิต ฝากความหวัง ไว้กับพรรคเพื่อไทยและเศรษฐาทวีสิน ต่อไป
ปัญหาขยะ กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ ที่ทางทน.หาดใหญ่ จะต้องเร่งแก้ไข เพราะขยะกว่า 270 ตัน จะมีมากขึ้นทุกๆ วัน หากไม่เร่งหาเส้นทางให้รถขนขยะไปทิ้ง และที่กำจัดขยะ ที่ต้องมีการเร่งกำจัดขยะทุกๆ วัน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่มีแผนสำรองหากเกิดปัญหาไม่สามารถขนขยะไปทิ้งได้ตามเส้นทางเดิม เพราะขยะส่วนใหญ่จะส่งกลิ่นเหม็นเน่า มีเชื้อโรค และรถขนขยะวิ่งส่งเสียงดัง นี่เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข ส่วนการกำจัดขยะ ในบ่อทิ้งขยะปัจจุบัน ก็ไม่ทราบว่า จะกำจัดขยะได้วันละกี่ตัน ในขณะที่ขยะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัญหานี้ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรี ทน.หาดใหญ่ จะต้องเร่งหาทางแก้ไขเป็นการด่วน
นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่ของชาวคลองแงะ อ.สะเดา จ.สงขลา ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นเน่าจากโรงงานบางแห่งที่ปล่อยน้ำเสีย ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วเมืองคลองแงะ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องทนทุกข์ทนกลิ่นเหม็นมานาน โดยไม่มีหน่วยงานไหนสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหานี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอสะเดา อุตสาหกรรมจังหวัด สิ่งแวดล้อมจังหวัด และสาธารณสุข ประชุมหาทางแก้ไขก็หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
.เท่านั้นยังไม่พอ วันนี้ใจกลางเมืองคลองแงะยังมีการปิดถนนเข้า-ออก บ้านคลองแงะ เพื่อปรับปรุงสร้างถนนใหม่ ทั้งๆ ที่ถนนยังอยู่ในสภาพที่ดี แต่ก็มีการปิดถนนขาเข้าและออก เลนเดียว ทั้งสองฝั่งถนน ทำให้ร้านค้าที่อยู่ริมถนน ไม่สามารถทำมาค้าขายได้ เนื่องจากเมื่อปิดถนนแล้วให้วิ่งเพียงเลนเดียวทั้งสองฝั่ง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ก็ไม่สามารถที่จะจอดลงแวะซื้อสินค้าในร้านค้าที่เปิดริมถนนใจกลางเมืองได้ ยิ่งมีข่าวว่า การทำถนนใหม่ ใช้เวลานานถึง 8 เดือน งานนี้ หน่วยงานไหนจะเข้าไปเยียวยาร้านค้าได้บ้าง แทนที่จะทำถนนทีละฝั่งถนน แต่ดัน ทำทีเดียวทั้งสองฝั่งถนน..งานนี้ใครสามารถช่วยพี่น้องชาวคลองแงะ ได้บ้างครับ
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์