วันที่ (28 มิถุนายน 2567) ที่ วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาท้องถิ่น ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณ วัดนาทวี เพื่อความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กำหนดจัดการฝึกอบรมโครงการปันรักปันสุขจากใจพี่สู่น้อง รุ่นที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2567 ในระหว่างวันที่ 27 – 24 มิถุนายน 2567 ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 จังหวัดสงขลา ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 200 คน โดยคัดเลือกจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 43 และ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 โรงเรียนละ 100 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นแกนนำเยาวชนการพัฒนาตนเองและผู้อื่น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเชื่อมั่นและศรัทธาในสถาบันหลักของชาติ การมีจิตอาสา การรู้จักช่วยเหลือคนอื่น และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือของเยาวชนในลักษณะการเป็นมวลชนของกองทัพไทย เพื่อประโยชน์ในงานด้านความมั่นคงของประเทศ

โอกาสนี้ นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะรองหัวหน้าจิตอาสา 904 ประจำจังหวัดสงขลา นำจิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน และจิตอาสาภาคประชาชนร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณวัดนาทวี เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย

วันนี้ (28 มิถุนายน 2567) ที่ห้องประชุมชวาวงศ์ ที่ว่าการอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ครั้งที่ 5/2567 เพื่อรับทราบผลการเบิกจ่ายเงินงบบริหารจัดการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และผลการเบิกจ่ายเงินงบโครงการชุมชนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายกฤชณัทท พลรัตน์ นายอำเภอจะนะ นายวิญญู สิงหเสม ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา นางสาวชนภรณ์ อือตระกูล ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีเรื่องพิจารณา 2 ประเด็น ดังนี้ การพิจารณางบประมาณในการบริหารจัดการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา และประเด็นการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการชุมชนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

วันนี้ (27 มิถุนายน 2567) ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรม “มหกรรมวันต่อต้านยาเสพติด” ประจำปี 2567 ตามที่องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนยันเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ที่จะร่วมมือกับประชาคมโลก ในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ตั้งแต่ปี 2530 ถึงปัจจุบัน พร้อมได้น้อมนำพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่องยาเสพติดมาปฏิบัติให้สำเร็จลุล่วง

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสงขลา จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดกิจกรรม “มหกรรมวันต่อต้านยาเสพติด” เพื่อให้ประชาชนและผู้นำชุมชน ได้รับรู้และเห็นถึงความสำคัญของวันต่อต้านยาเสพติดโลก ตระหนักถึงภัยจากยาเสพติด เฝ้าระวัง เสริมสร้างพื้นที่/กิจกรรมเชิงบวก รวมทั้งมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

อีกทั้ง เพื่อให้ประชาชนและผู้นำชุมชน ได้รับรู้และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ตลอดจนร่วมแสดงพลังความสามัคคี และทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

โดยภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การเสวนาในหัวข้อ “การบูรณาการขับเคลื่อนหมู่บ้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย สู่การปฏิบัติ” โดยวิทยากรจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และสำนักงานสาธารสุขจังหวัดสงขลา / การอ่านสารและกล่าวคำปฏิญาณตน ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านยาเสพติดเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก / มอบรางวัลเกียรติบัตรแก่หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินดีเด่นระดับอำเภอ จำนวน 16 หมู่บ้าน และกิจกรรมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน

27 มิถุนายน 2567 ที่ ห้องประชุมเทพทาโร ชั้น 3 ตึกแกรนด์บอลรูม โรงแรมบุรีศรีภู อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการไตรภาคี โรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ไทย-มาเลเซียพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ก่อนเริ่มวาระการประชุมรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบประกาศเกียรติบัตรหมู่บ้านดีเด่นให้กับผู้แทนที่ได้รับการคัดเลือก จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมในส่วนของเรื่องเพื่อทราบความคืบหน้าการดำเนินงานกองทุนพัฒนาอาชีพและสังคมทีทีเอ็ม ประจำปี 2567 และติดตามการประชุมครั้งที่ผ่านมาเรื่องการสำรวจแนวท่อเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันการระบายน้ำในช่วงฤดูฝน

จากนั้นได้พิจารณาผลการติดตามการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานกลาง บริษัทยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด และการพิจารณาตรวจรับรายงานความก้าวหน้าของหน่วยงานกลาง ครั้งที่ 2/2567 ตามลำดับต่อไป

ช่วงเย็นวันนี้ (25 มิถุนายน 2567) นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจความพร้อมของสถานที่สำหรับการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จังหวัดสงขลา ณ วัดชัยมงคล พระอารามหลวง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และพิธีเวียนเทียนสมโภชพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนอัญเชิญไปประกอบในพระราชพิธี ณ กรุงเทพมหานคร

ตามที่รัฐบาลได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยพิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด 108 แห่ง โดย 107 แห่งจะมาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และอีก 1 แห่งในหอศาสตราคม พระบรมมหาราชวัง โดยจังหวัดสงขลา มีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 1 แห่ง คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา

สำหรับกำหนดการจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จังหวัดสงขลา จะมีพิธีพลีกรรมตักน้ำ ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ฤกษ์เวลา 14.49 น. ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดแหลมบ่อท่อ หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ฤกษ์เวลา 17.09 ณ พระอุโบสถวัดชัยมงคล พระอารามหลวง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และพิธีเวียนเทียนสมโภชพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ฤกษ์เวลา 12.00 น. ณ พระอุโบสถวัดชัยมงคล พระอารามหลวง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

วันนี้ (24 มิถุนายน 2567) ที่หาดสวนกง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานรับมอบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการจัดพื้นที่คุ้มครองทางทะเลโดยชุมชนเป็นผู้นำเพื่อการออกแบบอนาคตที่ยั่งยืนที่ชุมชนชาวอำเภอจะนะเป็นผู้ริเริ่มออกแบบ ในนามผู้แทนรัฐบาล ภายใต้กิจกรรม Ship Tour 2024 : Ocean Justice จัดโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ชุมชนชายฝั่ง กลุ่มเยาวชน และภาคประชาสังคม เพื่อต้องการให้ภาครัฐนำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายไปปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน ตลอดจนปกป้องครองความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศท้องทะเลไทย โดยมี ส่วนราชการ, เครือข่ายชุมชนชายฝั่งจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น, สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ, จะณะแบ่งสุข และเครือข่ายนาทวียั่งยืน เข้าร่วม

โดยทาง กรีนพีซ ยังได้ร่วมทำงานวิจัยเพื่อวิทยาศาสตร์ภาคพลเมืองกับตัวแทนชุมชนประมงและเยาวชนจากอำเภอจะนะและเทพา โดยมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นผู้นำในการวิจัยครั้งนี้ พร้อมด้วยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและอาสาสมัครนักดำน้ำของกรีนพีซ เพื่อรวบรมข้อมูลความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลในจังหวัดสงขลา ผ่านการสำรวจสัตว์ทะเลหน้าดิน แพลงก์ตอนสัตว์และสัตว์น้ำวัยอ่อนซึ่งเป็นหนึ่งในข้อบ่งชี้สภาพท้องทะเล และเป็นตัวกลาง ในการเชื่อมร้อยความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับภูมิปัญญาเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเลและสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ในการทำงานอนุรักษ์ร่วมกับชุมชน การทำงานวิจัยนี้ตั้งแต่วันที่ 17-20 มิถุนายน 2567 ซึ่งผลการสำรวจข้อมูลจะถูกส่งต่อให้ชุมชนเพื่อนำไปใช่ในงานอนุรักษ์ทรัพยากรและออกแบบการปกป้องท้องทะเลในชุมชนต่อไป

นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “พวกเราส่วนใหญ่ทราบดีว่าทะเลและชายฝั่งเป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญและมีคุณค่าในหลากหลายมิติ ทั้งมิติความมั่นคงทางอาหาร คุณภาพชีวิตประชาชน ด้านเศรษฐกิจของชุมชน และการท่องเที่ยว ปัจจุบันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กำลังประสบปัญหาทะเลไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหานานับประการ ทั้งปัญหาขยะทะเล และความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศในทะเล ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการพัฒนาเมืองชายฝั่งเพื่อเป็นสถานที่ ท่องเที่ยว เขตอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม โดยขาดการบูรณาการความร่วมมือในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วนและต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย”

วันนี้ (23 มิถุนายน 2567) ที่วัดนาหม่อม อำเภอนาหม่อม จังหวัดวสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามในการบำเพ็ญบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เพื่อนำปัจจัยบูรณะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และพัฒนาศาสนสถานที่มีความชำรุดทรุดโทรม ถือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ โดยมี ผศ.ศุภรัตน์ พิณสุวรรณ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นายจรินศักดิ์ สงสุวรรณ นายอำเภอนาหม่อม พร้อมด้วยหน่วยงานราชการ และประชาชนในพื้นที่ศรัทธาเลื่อมใสร่วมกันสมทบทุน ซึ่งยอดถวายปัจจัยเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 326,746 บาท

วัดนาหม่อมเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในจังหวัดสงขลา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2340 โดยมีหม่อมหลวงเด่นเป็นผู้สร้างในที่ดินของตนเองซึ่งเป็นที่นา จึงให้นามว่า “วัดนาหม่อม” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2477 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 8 เมตร ยาว 13 เมตร วัดนาหม่อมเป็นวัดที่สร้างมานานกว่า 200 ปี ปัจจุบันสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ทั้งอุโบสถ กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ซึ่งมีอายุนับ 100 ปี ได้ชำรุดทรุดโทรมไปมาก ซึ่งปัจจุบันทางวัดได้ปรับปรุงซ่อมแซมได้บางส่วน และได้จัดสร้างขึ้นมาใหม่ทดแทน บางหลังยังคงเก็บไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ของวัด

รุ่งเช้าวันนี้ (23 มิถุนายน 2567) ที่โรงเรียนสานฝันปันรักมูลนิธิ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางไปประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักวิ่ง ในงานเดิน-วิ่ง การกุศล สานฝันปันรักเพื่อเด็กออทิสติก มินิมาราธอน ครั้งที่ 10 โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ไวคกุล ประธานมูลนิธิสานฝันปันรัก กล่าวรายงานวัตถุประสงค์

ด้วย โรงเรียนสานฝันปันรักมูลนิธิ ได้ร่วมกับชมรมวิ่งหาดใหญ่ กำหนดจัดงานเดิน-วิ่ง การกุศล สานฝันปันรักเพื่อเด็กออทิสติก มินิมาราธอนครั้งที่ 10 มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหารายได้เพื่อใช้ในการบริหารจัดการในโรงเรียน อีกทั้งเพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคม และให้โอกาสกับเด็กกลุ่มพิเศษและเด็กด้อยโอกาสขอภาคใต้ ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนมีสุขภาพดีด้วยการออกกำลังกาย

สำหรับการจัดงานวิ่งในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร แยกออกเป็นรุ่นแยกชาย/หญิง ดังนี้ ชาย รุ่นอายุน้อยกว่า 29 ปี รุ่นอายุ 30 – 39 ปี รุ่นอายุ 40 – 49 ปี รุ่นอายุ 50 – 59 ปี รุ่นอายุ 60 – 59 ปี รุ่นอายุ 70 – 79 ปี และรุ่นอายุ 80 ปีขึ้นไป / หญิง รุ่นอายุน้อยกว่า 29 ปี (หญิง) อายุน้อยกว่า 29 ปี รุ่นอายุ 30 – 39 ปี รุ่นอายุ 40 – 49 ปี รุ่นอายุ 50 – 59 ปี รุ่นอายุ 60 ขึ้นไป และระยะฟันรัน 4 กิโลเมตร (ไม่แบ่งอายุ) โดยผู้เข้าเส้นชัยอันดับ 1 – 3 แยกชาย/หญิง จะได้รับเงินรางวัล 3 อันดับ ชนะเลิศ จำนวนเงิน 1,500 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวนเงิน 1,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวนเงิน 500 บาท นอกจากนี้ผู้เข้าเส้นชัยยังได้รับโล่รางวัล (เฉพาะอันดับ 1 – 5) ระยะฟันรัน และอันดับ 1- 3 ของระยะมินิมาราธอน ในแต่ละรุ่นอีกด้วย

วันนี้ (18 มิถุนายน 2567) นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” และตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ระดับจังหวัด นำคณะทำงานลงตรวจเยี่ยมพื้นที่และประเมินผลกิจกรรมคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข” และตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระดับจังหวัด ประจำปี 2567 ในพื้นที่อำเภอกระสินธุ์ และอำเภอหาดใหญ่ โดยมี นายสงัด พืชพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ท้องถิ่นจังหวัดสงขลา เกษตรจังหวัดสงขลา เข้าร่วมลงตรวจพื้นที่ประเมินฯ

กรมการพัฒนาชุมชน ได้กำหนดให้จังหวัดดำเนินการสรรหาและคัดเลือกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เป็น เป็นสุข” ดีเด่น ระดับจังหวัด ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดีเลิศ ระดับจังหวัด และกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัด ประจำปี 2567 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้นำชุมชนที่มีผลงานดีเด่น เพื่อจัดการความรู้ และพัฒนาเครือข่ายการเรียนรู้ในกระบวนการบริหารจัดการชุมชนที่มีผลสัมฤทธิ์สูง โดยให้คัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เป็น เป็นสุข” ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งดำเนินการคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ระดับจังหวัด เพื่อเข้ารับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และโล่รางวัล “สิงห์ทอง”

วันนี้ (14 มิถุนายน 2567) ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในกิจกรรมจิตอาสาและศึกษาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรม 3 ศาสนา โดยมี นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา ตลอดจนส่วนราชการ ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ เด็กเยาวชนและนักเรียนทั้ง 3 ศาสนา กว่า 80 คน เข้าร่วม

ด้วยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมการโครงการพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายใต้กิจกรรมจิตอาสาและศึกษาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรม 3 ศาสนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำคุณค่าแห่งศาสนา ภาษา ศิลปะ พหุวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่เป็นทุนอันทรงคุณค่า เป็นสื่อเชื่อมใจในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างศาสนิกชน สร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างวัฒนธรรม อันนำไปสู่ความสงบสุขและสมานฉันท์ในสังคม ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน/หมู่บ้านตามแนวทางที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและศาสนาของประชาชน และขยายความคิดการนำหลักศาสนามาเสริมกระบวนการพัฒนาสร้างความสมานฉันท์ของประชาชนในชุมชน รวมทั้งเสริมสร้างให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความรู้ในหลักธรรมทางศาสนา วัฒนธรรมและความร่วมมือที่ดีต่อกันระหว่างองค์กรทางศาสนา ทั้ง 3 ศาสนา และสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ได้ดำเนินกิจกรรมในรูปแบบของจิตอาสาและศึกษาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรม 3 ศาสนา ซึ่งน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ถือเป็นผู้แทนของ 3 ศาสนา นับเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้ามาเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรม คือ สังคมที่อยู่ร่วมกันทุกเชื้อชาติ ศาสนา ในจังหวัดสงขลา และเป็นสิ่งที่อยู่กันมายาวนานแต่รุ่นบรรพบุรุษ กิจกรรมดังกล่าวนอกจากเราจะได้ร่วมกิจกรรมจิตอาสาแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละศาสนา โดยผู้รู้ทั้ง 3 ศาสนามาเป็นวิทยากรบรรยาย พร้อมทั้งได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ชัดเจนและเป็นองค์ความรู้โดยแท้จริง

วันนี้ (13 มิถุนายน 2567) นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 ในขั้นตอนการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการเจาะสำรวจปิโตรเลียม แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/65 และ G3/65 ของบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

ด้วย บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ.อีดี ได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ในพื้นที่แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 และ G3/65 ในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต หรือ Production Sharing Contract จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งขณะนี้มีแผนที่จะดำเนินการเจาะสำรวจปิโตรเลียม ในแปลงสำรวจทั้ง 2 แปลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายที่จะต้องศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า “อีไอเอ” และต้องจัดกิจกรรมการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดสงขลาไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 และได้รวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่ได้จากกิจกรรมดังกล่าวไปดำเนินการศึกษาให้มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้นตามความคิดเห็นของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่

สำหรับการประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 ในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อนำเสนอผลการศึกษาในร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และร่างมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เพื่อให้กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ได้ร่วมกันพิจารณา และแสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อร่างรายงานดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการรวบรวมข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ไปใช้ในขั้นตอนการปรับปรุงร่างรายงานและร่างมาตรการให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก่อนที่จะนำเสนอรายงานต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป

วันนี้ (8 มิถุนายน 2567) ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานรับมอบทุนนมยูเอชที ให้แก่โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิ๊กชี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ในกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ที้ได้จัดกิจกรรมพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือในสังคม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎคม 2567 ภายใต้โครงการบริจาคนมกล่องให้แก่โรงเรียนเนื่องในวันดื่นมโลก

ด้วยห้างบิ๊กซีได้จัดโครงการนมกล่องยูเอซทีให้แก่โรงเรียน เนื่องในวันดื่มนมโลก ภายใต้โครงการ “World Milk Day วันดื่มนมโลก” โดยบิ๊กซีจัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 9 และโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็น 1 ในโครงการด้านการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือในสังคม จำนวน 72 โครงการของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบนมยูเอซที จำนวน 133,893 กล่อง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา จำนวน 143 โรงเรียน ใน 33 จังหวัด ทั้งนี้ผลักดันให้คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ตระหนักถึงประโยชน์จากการดื่มนมและให้เด็กไทยมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะเด็กไทยในวันนี้จะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศต่อไป

ช่วงเย็นวันนี้ (5 มิถุนายน 2567) นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานนำจิตอาสาพระราชทาน และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณพุทธมณฑลจังหวัดสงขลา ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายไมตรี สรรพสิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา นายสงัด พืชพันธุ์ พัฒนาการจังหวัดสงขลา นางสาวสุนารี บุญชุบ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นางสาวสุภาพร เกตุสุริยงค์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา เข้าร่วม

ด้วยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา กำหนดจัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ ในโครงการงานเฉลิมพระเกียรติฯ ภายใต้ชื่อ “กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาพื้นที่ป่าในเมืองทุ่งเสม็ดงาม (พุทธมณฑลจังหวัดสงขลา) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อีกทั้งมุ่งหวังเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ป่าในเมืองทุ่งเสม็ดงาม

วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมกิจกรรม THE HUB OF SOUTHERN MICE, THAILAND กิจกรรมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไมซ์กับผู้ประกอบการนานาชาติ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มลูกค้า MICE ตามนโยบาย SONGKHLA MICE CITY ภายใต้ชื่องาน Amazing Songkhla MICE City

โดยในเวลา 09.00 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ “Songkhla MICE City Roadshow to Ipoh and Penang” มุ่งส่งเสริมกิจกรรมไมซ์ในจังหวัดสงขลาและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ณ ห้องประชุมสถานกงสุลใหญ่ไทย รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย จากนั้นในเวลา 13.00 น.ได้ร่วมเปิดและรับฟังการบรรยายจากวิทยากรในหัวข้อความน่าสนใจในการจัด กิจกรรม MICB CITY ของจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ ณ โรงแรม cititel penang ประเทศมาเลเซีย โดยมีสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ สงขลา สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ผู้นำภาคธุรกิจ และ ผู้ประกอบการในปีนังร่วมรับฟังความคิดเห็นและหารือแนวทางสร้างความร่วมมือในด้านท่องเที่ยวและ MICE ของทั้งสองเมือง

วันนี้ (16 พฤษภาคม 2567) นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงเยี่ยมกลุ่ม “เรินผ้าลีมาแล” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อย่าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พร้อมหารือแนวทางการพัฒนา ส่งเสริมกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ในการสร้างรายได้เพิ่มแก่กลุ่มผู้ประกอบการ หลังประสบปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ยอดจำหน่ายลดลง โดยมี นางจันทร์จิรา บางเสน อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ

สำหรับ “เรินผ้าลีมาแล” เป็นศูนย์แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดสงขลาเล็งเห็นความสำคัญถึงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องการทอผ้าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสืบทอดและสนับสนุนการทอผ้าพื้นเมืองให้ยังคงอยู่ด้วยการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการส่งเสริมให้ผ้าทอพื้นเมืองเป็นที่รู้จักในระดับสากล สามารถนำมาประยุกต์ผลิตเป็นสินค้าของดีและของที่ระลึกประจำจังหวัด จึงได้จัดสรรงบประมาณให้แก่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เพื่อดำเนินการร่วมกันพัฒนาโครงสร้างผ้าทอพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้โครงการเทศกาลท่องเที่ยวและวัฒนธรรมสัมพันธ์กลุ่มประเทศอาเซียน เมื่อปี พ.ศ. 2559

จากกรณีที่มีการส่งข้อความในสังคมโซเชียล ผ่านแอพพลิเคชั่น LINE และแสดงข้อความพบเห็นการซื้อ-ขายสัตว์น้ำขนาดเล็ก โดยเฉพาะปูม้า ขนาดกระดองเล็กกว่า 6 เซนติเมตร ในตลาดสด หรือตลาดนัดหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ อำเภอควนเนียง อำเภอบางกล่ำ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร และอำเภอเมืองสงขลา จนกลายเป็นประเด็น นั้น

ในช่วงบ่ายวันนี้ (15 พ.ค. 67) นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เรียกประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมสัตว์น้ำชายฝั่งสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพื่อพิจารณากรอบมาตรการและวิธีปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการซื้อ-ขาย สัตว์น้ำขนาดเล็ก โดยเฉพาะปูม้า หวังลดความเสี่ยง ความสูญเสียทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีใช้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนไม่ซื้อ – ไม่ขาย สัตว์น้ำขนาดเล็ก โดยเฉพาะลูกปูม้า และหากชาวประมงจับได้ปูขนาดเล็กก็ขอให้ปล่อย เพื่อให้ลูกปูเหล่านี้ได้เจริญเติบโต และมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปูม้า ถือเป็นสัตว์ทะเลที่มีความสำคัญ สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำและยังจัดอยู่ในสัตว์สำคัญทางเศรษฐกิจที่ควรค่าต่อการเพาะเลี้ยง อีกด้วย

วันนี้ (11 พฤษภาคม 2567) เวลาประมาณ 12.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีอำนวยพรและส่งผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ในเทศกาลฮัจย์ ณ นครเมกกะ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ประจำปี 2567 ฮิจเราะห์ศักราช 1445 โดยมี นางกอตีเย๊าะ ซีเดะ สถิติจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมในพิธีและอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง

นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมนับได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเทศกาลฮัจย์ทุกปี จะมีพี่น้องมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมมาโดยตลอด เพื่อให้สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างสะดวกสบายปลอดภัย และได้ประกอบศาสนกิจอันสำคัญยิ่งอย่างสมบูรณ์

สำหรับเทศกาลฮัจย์ปีนี้ มีผู้ลงทะเบียนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวนทั้งสิ้น 7,738 คน ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 4,189 คน ระหว่างวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2567 และวันที่ 8-9 มิถุนายน 2567 ส่วนเที่ยวบินขากลับ ในห้วงวันที่ 22 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคม 2567 รวมทั้งสิ้น 28 เที่ยวบิน การเดินทางในครั้งนี้เป็นเที่ยวบินที่ 2 โดยกำหนดเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 8810 เวลา 14.00 น. ไปท่าอากาศยานมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 289 คน

วันนี้ (10 พฤษภาคม 2567) ที่สนามฟุตบอลโรงไฟฟ้าจะนะ สงขลา อ.จะนะ จ.สงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดคลีนิควิชาการเชิงปฏิบัติการกีฬาจานร่อน BODY MIND SOUL โดยมี ดร.ประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล นางอุไรวรรณ จันลาภ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา ดร.ชนภรณ์ อือตระกูล ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ครูผู้ควบคุม นักเรียน นักกีฬา เจ้าหน้าที่ เข้าร่วม

ด้วยชมรมกีฬาจานร่อนจังหวัดสงขลา ร่วมกับสโมสร SKY ULTIMATE CIUB สมาคมกีฬาจานร่อนแห่งประเทศไทย มีแผนงานปฏิบัติการ ประจำปี 2567 ด้านการส่งเสริมทักษะกีฬาจานร่อน กีฬาทางเลือกใหม่ ซึ่งเป็นชนิดกีฬาใหม่ที่สมาคมกีฬาจานร่อนแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเป็นกีฬาสาธิตบรรจุในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมทักษะในด้านกีฬาให้แก่เยาวชน และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล เปิดโอกาสรับสมัครนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษาของแต่ละสถานศึกษาที่สนใจเข้าร่วมคลินิกวิชาการเชิงปฏิบัติการ กีฬาจานร่อน BODY MIND SOUL เป็นระบบทีม ชนิดกีฬา ULTIMATEและ DISC GOLF โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน ทั้งนี้เป็นการตอบสนองนโยบายของจังหวัดในการขับเคลื่อน “สงขลาเมืองกีฬา” (Songkhla Sports City) และรองรับเตรียมความพร้อมในฐานะเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่โรงแรมสยามออเรียลทัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการ “ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมฮาลาลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธหว.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพ SMEs อุตสาหกรรมฮาลาล ยกระดับสินค้าและสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานฮาลาล ตลอดจนส่งเสริมให้ SMEs สามารถขยายตลาดสินค้าฮาลาลสู่ตลาดส่งออกที่มีศักยภาพได้

วันนี้ (9 พ.ค. 67) เวลา 12.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีส่งและอำนวยพรแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ประจำปี 2567 ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG8802 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานหาดใหญ่ เวลา 13.30 น. และจะถึงท่าอากาศยานมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบียในเวลาประมาณ 18.30 น. มีผู้โดยสารจำนวน 290 คน โดยมีนายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นำขอดูอาร์ พร้อมด้วยนายธีระยุทธ นาวีเดล นายอำเภอคลองหอยโข่ง ส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และครอบครัวของผู้แสวงบุญเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศภายในพิธีเป็นไปด้วยความอบอุ่น

ในการนี้ นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวอำนวยพรให้พี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ให้ได้รับผลบุญ มีความสุข ความปลอดภัยตลอดการเดินทางในช่วงที่ปฏิบัติศาสนกิจอยู่ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งจังหวัดสงขลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มีความพร้อมในการดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพื่อให้ทุกท่านได้ฮัจญ์ที่สมบูรณ์

วันนี้ (28 เมษายน 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอภิชาติ สาราบรรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมลงพื้นที่ศึกษาดูงานบริเวณด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ร่วมกับคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการฯ ในโอกาสเดินทางศึกษาดูงาน เรื่อง “ความมั่นคงของประชาชนเศรษฐกิจการค้าและกิจการชายแดนไทย – มาเลเซีย” เพื่อศึกษาและรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาความมั่นคงทางเศรษฐกิจการค้า กิจการชายแดนและความมั่นคงในชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดยมี นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้

จังหวัดสงขลาได้ขับเคลื่อนการดำเนินโครงการพัฒนาด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล ในการพัฒนาเมืองชายแดนสร้างฐานการผลิตเชื่อมโยงกับอาเซียน การดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.สะเดา จ.สงขลา ถนนเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group) ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินโครงการก่อสร้าง โดยกำหนดให้มีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและวัดจุดเชื่อมต่อร่วมกัน ฝ่ายไทยแจ้งว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนส่วนที่จะเชื่อมต่อกัน (โครงการระยะที่ 2 ) ในเดือนมิถุนายน 2567 และก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ทางฝ่ายมาเลเซียยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายน 2567 และก่อสร้างได้แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2569 ซึ่งในการลงพื้นที่เพื่อสำรวจและวัดจุดเชื่อมต่อร่วมกันเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ทางฝ่ายมาเลเซียแจ้งว่าจะขอกำหนดการประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group) ครั้งที่ 4 ในเดือนพฤษภาคม 2567 ต่อไป

วันนี้ (25 เมษายน 2567) นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 25 เมษายน 2567 พร้อมนำจิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน และจิตอาสาภาคประชาชนร่วมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำแก้มลิง บ้านวังใหญ่ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา โดยมี นายเอกชัย แก้วรัตนะ นายอำเภอเทพา พร้อมด้วยส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคต ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ มีพระอัจฉริยภาพและฝีพระหัตถ์ในทางการรบและเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิด ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงคราม ตลอดพระชนม์ชีพโดยมิได้ว่างเว้น ทรงประกาศอิสรภาพทำให้กรุงศรีอยุธยา ขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดีทรงกระทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาจนได้รับชัยชนะ ทำให้พระบรมเดชานุภาพ แผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ขับไล่อริราชศัตรู เพื่อรักษาเอกราชของชาติไทย นับเป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ตราบจนทุกวันนี้

วันนี้ (22 เม.ย. 67) นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการบำบัดยาเสพติด โดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTX) และคัดเลือกชุมชนล้อมรักษ์ จังหวัดสงขลา โดยมีนายแพทย์กู้ศักดิ์ บำรุงเสนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวรายงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมโครงการในวันนี้

นายแพทย์กู้ศักดิ์ บำรุงเสนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทำลายเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทยแม้ว่าทุกฝ่ายจะพยายายามป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดมาโดยตลอด มีการแพร่ระบาดไปถึงระดับหมู่บ้านชุมชน แพร่กระจายเข้าไปในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และเยาวชน จำนวนผู้ป่วยผู้ใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับนโยบายการค้นหากลุ่มสีแดงเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดรักษามีจำนวนมาก จำนวนเตียงในโรงพยาบาลสำหรับให้บริการผู้ป่วยไม่เพียงพอ และเพื่อจัดสรรเตียงในการรอรับผู้บำบัดรายใหม่ การเตรียมชุมชนการเตรียมความพร้อมของครอบครัว ในการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้จึงมีความจำเป็นมาก การดำเนินงานบำบัดยาเสพติดโดยชุมชนมีส่วนร่วม (CBTX) ชุมชนล้อมรักษ์ ตามข้อสั่งการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ครอบคลุมทุกตำบลในจังหวัดสงขลา

วันนี้ (21 เมษายน 2567) ที่วัดชะแล้ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในงานประเพณี “แห่ผ้าห่มพระบรมธาตุสุวรรณคีรีเจดีย์วัดชะแล้ : ศรัทธาวิถี เท่@สิงหนคร” โดยมี นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร อาจารย์ ดร.นิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและชุมชนสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ นายถาวร ไชยมะโณ นายกเทศมนตรีตำบลชะแล้ พร้อมด้วยส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

ด้วยโครงการวิจัย “การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนสร้างสรรค์และสำนึกท้องถิ่นด้วยฐานทุนทางวัฒนธรรม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา” ร่วมกับเทศบาลตำบลชะแล้ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และภาคีในพื้นที่ กำหนดจัดงานประเพณี “แห่ผ้าห่มพระบรมธาตุสุวรรณคีรีเจดีย์วัดชะแล้ : ศรัทธาวิถี เท่@ สิงหนคร” ขึ้น ในวันที่ 21 – 23 เมษายน 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการร่วมสีบสานประเพณีที่มีคุณค่าของอำเภอสิงหนครและจังหวัดสงขลา และเพื่อให้เกิดสำนึกท้องถิ่น รวมถึงเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชุมชนให้คงอยู่สืบไป โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการจากผลงานวิจัย ตลอดจนการแสดงของศิลปินและนักเรียนในพื้นที่ การออกร้านสินค้าทางวัฒนธรรม รวมถึงกิจกรรมการประกวดแข่งขันการทำอาหารพื้นถิ่น

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมพิธีปล่อยขบวนพาเหรดและพิธีเปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024” เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567 ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถนนราชดำเนิน และบริเวณท้องสนามหลวงกรุงเทพมหานคร

วันนี้ (11 เมษายน 2567) เวลา 17.30 ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีปล่อยขบวนพาเหรด “Maha Songkran World Water Festival 2024” เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567 สุดตระการตา กับขบวนพาเหรดจาก 16 จังหวัด

ตามที่รัฐบาล มีนโยบายให้กระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการจัดงาน Maha Songkran World Water Festial 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ในวันที่ 11 – 15 เมษายน 2567 เพื่อประชาสัมพันธ์งานสงกรานต์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นการเฉลิมฉลองที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการใช้พลังของ Soft Power ต่อยอดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวยกระดับกิจกรรมงานเทศกาลประเพณีไทย (Festival) จากระดับประเทศสู่ระดับโลก และช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์นำไปสู่การสร้างรายได้หมุนเวียนจากการจัดกิจกรรม และสร้างมูลค่าเพิ่มต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

วันนี้ (27 มีนาคม 2567) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและพิธีปิดการฝึกอบรมการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด ณ หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี เข้ารับการฝึกอบรมฯ ประกอบด้วย ผู้บริหาร คณะครู และบุคลากรทางการศึกษา จากสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 93 คน เข้าร่วม

ด้วยสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้อนุมัติให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ดำเนินงานโครงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาขาด ระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม 2567 ณ หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาดในจังหวัดสงขลาได้พัฒนาตนเอง มีวุฒิหลักสูรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการจัดกิจกรรมยุวกาชาด

ช่วงเช้าวันนี้ (26 มีนาคม 2567) ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 นำโดยพลโทสมยศ ฉันทวรลักษณ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในโอกาสที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นำนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 พร้อมด้วยคณาจาย์และเจ้าหน้าที่เดินทางมาดูกิจการและศึกษาภูมิประเทศภาคใต้ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ในระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม พ.ศ. 2567 พร้อมบรรยายสรุป เรื่อง “สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ ประชาชน มีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” มีรายละเอียดสรุปดังนี้

จังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ที่เป็นศักยภาพทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน คุณภาพชีวิต เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดที่สำคัญ อาทิ สถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าสงขลาที่ทรงคุณค่าและวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลาย เพื่อสงขลาสู่มรดกโลก, มีพื้นที่ด่านชายแดนทางบก (ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์) ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า – ออก มากที่สุดของประเทศไทย, มีแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา, เป็นเมืองแห่งการศึกษา, จังหวัดสงขลาได้ประกาศเป็น Songkhla MICE City เป้าหมายปลายทางเมืองไมซ์ (MICE Destination) สำคัญของภาคใต้ และเป็นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านอาหาร Songkhla Gastronomy

วันนี้ (24 มีนาคม 2567) เวลา 17.30 น. ที่ มัสยิดสุลต่านสุลัยมานชาห์ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นประธานเปิดการละศีลอดในเดือนรอมฎอน โดยมี นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายนพดล สุระสังวาลย์ นายอำเภอสิงหนคร นายศักดิ์กรียา บิลแสงละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นายเชาวลิต พินธุ์สุวรรณ อิหม่ามมัสยิดสุลต่านสุสัยมาน ชาห์ และนายเดชอิศม์ ขาวทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 จังหวัดสงขลา เข้าร่วม

ซึ่งในเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 เป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม การถือศีลอด เดือนรอมฎอนเป็นการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอิสลามที่มีความสำคัญต่อชาวมุสลิมทั่วโลก และเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสัมผัสได้ถึงหัวใจที่ใกล้ชิดกับองค์พระอัลเลาะห์ อีกทั้ง วาระแห่งเดือนรอมฎอนเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ระลึกถึงพระคัมภีร์อัลกุรอานที่พระองค์ประทานให้ เพื่อยึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต ชำระขัดเกลาร่างกายและจิตใจ ยึดมั่นในการทำความดีการให้อภัยซึ่งกันและกัน การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ อันนำไปสู่ความรัก ความสามัคคี ความสงบสุข และสังคมแห่งสันติภาพ

ช่วงเย็นวันนี้ (8 มีนาคม 2567) ที่ห้างไดอาน่า หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการ SongkhlaFocus All Sale ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2567 จัดโดยหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส และสื่อออนโลน์ในเครือ “สงขลาโฟกัส“ ทุกแพลตฟอร์มในเครือข่าย และนำสินค้าราคาต้นทุนจากฟาร์มและโรงงาน มาจำหน่ายเพื่อลดค่าครองชีพประชาชน รวมถึงลูกค้าสมาชิกผู้สนับสนุน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะนำรายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุน “เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา” พร้อมกิจกรรมพิเศษ บริการฟรี (เฉพาะวันที่ 8 มีนาคม) ตรวจวินิจฉัยโรค คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ และการนวด โดย ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนหาดใหญ่เวชกรรมไทย ในวาระ “วันนักข่าว” 5 มีนาคม

นายภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้ โฟกัส กล่าวว่า ในฐานะสื่อมวลชน การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม การสร้างสังคม เป็นจุดมุ่งหมายหลัก การจัดงานในครั้งนี้โดยได้เชิญชวนผู้ประกอบการโรงงาน นำสินค้ามาเป็นส่วนลดให้กับผู้บริโภค ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันในเรื่องของค่าของชีพ ราคาสินค้า ถือเป็นปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชนส่วนนึง จึงได้จัดกิจกรรมในวันนี้ขึ้นมุ่งหวังเกิดประโยชน์กับสังคม และนำรายได้ส่วนหนึ่งไปสมทบสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา โดยได้รับความสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา สมาคมเอสเอ็มอีจังหวัดสงขลา กลุ่ม LIFE FOR LIFE และทางโรงเรียนหาดใหญ่เวชกรรมไทย ที่ได้นำคณะศิษย์เก่ามาให้บริการนวดฟรีแก่ประชาชน ขณะที่ผู้ประกอบการก็มีความตั้งใจนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาโรงงาน นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อ จึงขอประชาสัมพันธ์การจัดงานในวาระ “วันนักข่าว” ในวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา

เช้าวันนี้ (8 มี.ค. 67) ที่ห้องปฏิบัติการห้องรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ให้เกียรติมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจและถ่ายภาพร่วมกับตัวเเทนเยาวชนต้นแบบเก่งและดี To Be Number One IDOL รุ่นที่ 14 ของจังหวัดสงขลา จำนวน 9 คน 1. ประกอบไปด้วย นายเขมพิชฌน์ มณีรวม 2. นายพุทธินันท์ เกียรติภูวธานนท์ 3. นางสาวกานต์สินี พระไพรี 4. นางสาววีรธิดา ไกรดำ 5. นางสาวบิสมิลลา ไวยฤทธิ์ 6. นางสาวจรรยพร สุขกร 7. นางสาวมนัสนันท์ ขันทอง 8. นางสาวตุงกูนอร์จัสมิน บินตี้ ฮารุน และ 9. นางสาวจิณห์นิภา จงพุ่ม เพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันต่อในระดับภาคใต้ ในวันอาทิตย์ ที่ 10 มีนาคม 2567

โอกาสนี้ นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่น้องๆ เยาวชนที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งต่อในระดับภาคใต้ พร้อมกล่าวมอบกำลังใจให้ทุกคนได้ใช้กำลังภายในและแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความประทับใจแก่คณะกรรมการและคว้ารางวัล To Be Number One IDOL รุ่นที่ 14 ในคราวนี้มาให้ได้เพื่อให้ชาวสงขลาได้ชื่นชม

ช่วงบ่ายวันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2567) ณ โรงเรียนแจ้งวิทยา อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานมอบเกียรติบัตรการทดสอบทักษะวิชาการนักเรียนกลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา ครั้งที่ 24 ปีการศึกษา 2566 ระดับประถมศึกษา เขตภาคใต้ ในการนี้พระเดชพระคุณ พระพิศาลสิกขกิจ สมพงศ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ดร.ชนภรณ์ อือตระกูล ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา นายประเวช ไกรเทพ ประธานเขตภาคใต้กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดใน คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ตลอดจนผู้บริหาร คณะบุคลากร ครู และนักเรียนกลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา เข้าร่วม

กลุ่มโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา เป็นโรงเรียนที่จัดการศึกษาโดยไม่หวังผลกำไร มุ่งสงเคราะห์เด็กยากจนและด้อยโอกาสทางการศึกษา เน้นการปลูกฝังให้เยาวชนไทยเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี และมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ปัจจุบันเขตภาคใต้ มีโรงเรียนสังกัดกลุ่มฯ รวมทั้งสิ้น 17 โรงเรียน ได้จัดกิจกรรมทดสอบทักษะวิชาการขึ้นเป็นประจำทุกปี ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 24 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนางานด้านวิชาการ ส่งเสริมความสามารถทางด้านวิชาการของนักเรียนและกระตุ้นการทำงานของครู รวมทั้งส่งเสริมความสมานสามัคคีของผู้บริหาร ครู และนักเรียนภายในกลุ่มฯ

โดยปีนี้ได้จัดการทดสอบทักษะวิชาการของนักเรียนฯ ดังนี้ การทดสอบทักษะวิชาการนักเรียนฯ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ในระหว่างวันที่ 2 – 3 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงเรียนวินิตศึกษาในพระราชูปถัมภ์ฯ จังหวัดลพบุรี, การทดสอบทักษะวิชาการนักเรียนฯ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 เขตภาคใต้ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 – 26 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงเรียนแจ้งวิทยา จังหวัดสงขลา จัดการทดสอบในวิชาหลัก 5 วิชา คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ วิชาภาคปฏิบัติ 2 วิชา คือ ศิลปะและคอมพิวเตอร์ นักเรียนที่มีผลการทดสอบผ่านเกณฑ์ 80% ขึ้นไป จะได้รับรางวัลเหรียญทอง 70-58% ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 60-65% ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง และผู้ที่สอบได้ต่ำกว่า 60% จะได้รับเกียรติบัตรชมเชย ในปีนี้มีคณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนเข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 500 คน

(24 กุมภาพันธ์ 2567) พาไปดูสีสันกิจกรรม Songkhla Romantic Full Moon Party 2024 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานหาดใหญ่, กลุ่ม Eco Tourism Songkhla Thailand , หอการค้าจังหวัดสงขลา และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลาร่วมกันจัดขึ้น เพื่อโปรโมท การท่องเที่ยวชุมชนบ้านหัวเขา ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา เปิดเมืองสงขลาในมุมมองใหม่ที่คุณอาจไม่เคยเห็น โดยมีนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นางนงเยาว์ จิรันดร ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานหาดใหญ่ และนางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา นำคณะสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวเกือบ 30 คน ลงเรือหางยาวที่ท่าเรือ SLB ถนนนครนอก อ.เมือง จ.สงขลา ล่องทะเลสาบสงขลาไปยังฝั่งเขาแดง ต.หัวเขา อ.สิงหนคร

นั่งเรือเพลิน ๆ เพียง 5-7 นาทีก็จะถึงร้าน Songkhla Pier ร้านอาหารเล็ก ๆ สไตล์ฮาวาย โดยผู้ประกอบการชุมชนได้นำชาหมักคอมบูชาที่หมักจากผลไม้ท้องถิ่น เช่น มะม่วงเบา และสะ-หวา (ละมุด) มาให้คณะได้ลองชิม มีการสาธิตวิธีทำไข่ครอบ (สินค้า GI เมืองสงขลา) แต่ก่อนจะเริ่มกิจกรรม Songkhla Romantic Full Moon Party 2024…ไกด์ชุมชนได้ชวนรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและคณะ ขึ้นสามล้อพวงข้าง ตระเวนชมวิถีชีวิตชุมชนบ้านหัวเขา ซึ่งชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม

ชุมชนหัวเขา อ.สิงหนคร เป็นชุมชนเก่าแก่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า ที่นี่คือเมืองสงขลาฝั่งแหลมสน…เป็นยุคแรกของการสร้างบ้านแปลงเมือง, ก่อนจะย้ายมาอยู่ฝั่งเขาแดงในยุคที่ 2 และย้ายเมืองอีกครั้งในยุคที่ 3 เพื่อมาตั้งถิ่นฐานถาวรที่ฝั่งบ่อยาง (หรือ อ.เมืองสงขลาในปัจจุบัน) ระหว่างทางที่สามล้อพวงข้างขับผ่าน จุดแรกแวะชมโบราณสถานบ่อเก๋ง (หรือ ซุ้มประตูบ่อเก๋ง) ที่อดีตเคยเป็นปราการด่านหน้าของเมืองสงขลา สร้างขึ้นประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 24 ประกอบด้วยเชิงเทิน ที่ตั้งปืนใหญ่ อาคารที่พักของผู้รักษาป้อม บ่อน้ำ และซุ้มประตู ซึ่งกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็น “โบราณสถานของชาติ” เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ.2542 ระหว่างทางยังผ่านสุสานเจ้าเมืองสงขลา (ต้นสกุล ณ สงขลา) ตั้งเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา แต่ละสุสานมีศิลาจารึกภาษาจีนบอกปีที่สร้างและบอกประวัติไว้ชัดเจน

วันนี้ (16 ก.พ. 67) เวลา 15.30 น. นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกิ่งไม้ขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับ ขณะมาทัศนศึกษา ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ณ อำเภอนาทวี โดยมีนายแพทย์ สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ณ อำเภอนาทวี ให้การต้อนรับ

นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบข่าวดังกล่าว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการประสานไปยังทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าให้การช่วยเหลือครูและนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนมากถึง 12 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บางรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยได้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน มีเพียง 5 ราย ประกอบด้วย นางสาวแวนูรอัยมี ยะปา, นางสาวฝาตอนะห์ บูเลาะ, นางสาวรุฮายาตี เปาะแต, นางสาวนูรฟาดีลา สามิและนายนนท์นรินทร์ ปิ่นแก้ว ซึ่งเป็นครูผู้สอน ที่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว

15 ก.พ.67 ที่ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานงาน “โครงการหลวง ROYAL PROJECT 2024” ซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง และ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด จัดขึ้น โดยมีนายปรีดี ปรัชญ์ดำรงค์กิจ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่, นายสัมฤทธิ์ บุญรัตน์ รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่, นางสาวภัทรา ลิ่มนิรันดร รองผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่, นายธนกฤต ชาลิสาธนกฤษดาการ และนางสาวนฤภร จันทร์ศิริรวิชัย ผู้จัดการแผนก Tops สาขาเซ็นทรัล หาดใหญ่ ร่วมเปิดงาน

ภายในงานพบกับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ สตรอว์เบอร์รี่สด สายพันธุ์พระราชทาน 80, ของดีของอร่อย ผักและผลไม้สดเมืองหนาว, และผลิตภัณฑ์สุดยอดคุณภาพอื่นๆ มากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ดอยคำ, ผลิตภัณฑ์แปรรูป นำมาจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์ ระหว่างวันที่ 15-27 กุมภาพันธ์ 2567

มูลนิธิโครงการหลวงเป็นโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ในการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวเขา เพื่อเป็นการหารายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น ถือเป็นพระอัฉริยภาพในการแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นของชาวเขาอย่างยั่งยืนและถาวร อีกทั้งทรงวางรากฐานโครงการให้มีการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิโครงการหลวงเป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของตลาด และจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ประชาชนทั่วไปสามารถที่จะหาซื้อบริโภคพืชผักที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมในราคาไม่แพงได้

วันนี้ (12 ม.ค.67) ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา 3 จังหวัดสงขลา นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567 โดยศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 3 จังหวัดสงขลา พร้อมอ่านสาร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมี นางนัศญวรรณ ถ้ำเสือ รองผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 3 จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยคณะครู บุคลากร เยาวชนและผู้ปกครองนักเรียนร่วมภายในงาน

รัฐบาลได้กำหนดให้วันเสาร์ ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ เพื่อให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนเพราะเด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ายิ่ง ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพเพื่อจะได้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดี ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 3 จังหวัดสงขลา จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็กพิการได้รับความสนุกสนาน รื่นเริง กล้าแสดงออกในทางสร้างสรรค์ ตระหนักในสิทธิหน้าที่ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ตลอดจนส่งเสริมให้เด็กพิการ มีพัฒนาการเต็มศักยภาพ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากบุคคล ห้างร้านและหน่วยงานต่าง ๆ สนับสนุนอาหาร เครื่องดื่ม ของขวัญของรางวัลต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก

วันนี้ (17 ธ.ค. 66) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมลากูน่าแกรนด์ แอนด์ สปา สงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของสหกรณ์อิสลามอัศศิดดีก จำกัด โดยมีนายคอเบตร์ เหล็มหนู ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อิสลาม อัศศิดดีก จำกัด พร้อมด้วยคณะกรรมการดำเนินการ คณะที่ปรึกษา คณะผู้ตรวจสอบกิจการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างผู้ปฏิบัติงานสหกรณ์เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

สำหรับการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์จะจัดขึ้นปีละครั้ง ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานผลการดำเนินกิจการในรอบปีบัญชีของสหกรณ์ และรับรองงบการเงินประจำปี ซึ่ง มีรอบระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน ของปีถัดไป ให้กับ สมาชิกสหกรณ์ได้รับทราบถึงความก้าวหน้า และการเจริญเติบโตของกิจการสหกรณ์ตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้

นายคอเบตร์ เหล็มหนู ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อิสลาม อัศศิดดีก จำกัด กล่าวรายงานว่า ในปี 2566 แม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยจะเริ่มคลี่คลาย ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจและสังคมค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติขึ้นเป็นลำดับแล้ว แต่สถานการณ์โลก และกติกาโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้เศรษฐกิจโลกไม่เหมือนเดิม เติบโตช้า การค้าและรูปแบบธุรกิจไม่เหมือนเดิม ซึ่งยังคงมีความตึงและข้อจำกัดมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น สหกรณ์ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ และการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และเป็นอีกปีที่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายด้วยความอดทน พยายาม คิดค้นและพัฒนามีการร่วมแรงร่วมใจจากมวลสมาชิกและทุกภาคส่วน ทำให้สหกรณ์สามารถดำเนินอยู่อย่างมั่นคงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และพร้อมฉายภาพการเป็น สถาบันการเงินแห่งคุณค่าที่ทุกคนวางใจ ดังวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ ผลประกอบการของสหกรณ์ ในรอบปีบัญชี 2566 เป็นที่น่าพอใจ โดยสหกรณ์มีสมาชิกคงเหลือ 30,655 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1,145 คน คิดเป็น ร้อยละ 3.88 มีสินทรัพย์รวม 2,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 8.92 มีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาทเศษ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 16.05 นอกจากนี้ทางสหกรณ์ โดยที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 26 ได้มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกในอัตราร้อยละ 3.65 เป็นจำนวนเงิน 33 ล้านบาทเศษ คิดเป็นร้อยละ 57.67 ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่ประชุมใหญ่ในวันนี้จะมีการพิจารณาอนุมัติต่อไป

10 ธันวาคม 2566 ที่ สนามเทนนิสเทศบาลนครหาดใหญ่ ภายในสนามกีฬาจิระนคร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยสมาคมพัฒนากีฬาหาดใหญ่ ร่วมกับสถาบันสอนเทนนิสหาดใหญ่ และชมรมกีฬาเทนนิสจังหวัดสงขลา จัดการแข่งขันเทนนิสนานาชาติหาดใหญ่ ครั้งที่ 7 Hat Yai-PT International Junior Tennis Championships 2023 สนองนโยบายหาดใหญ่เมืองกีฬา พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น โดยพิธีเปิด มี นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาหมัด เบ็ญอาหลี รองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ นายอัคคะไกร มหาศรี นายกสมาคมพัฒนากีฬาหาดใหญ่ รวมถึงส่วนราชการ คณะกรรมการจัดการแข่งขัน นักกีฬาเทนนิสทั้งไทยและต่างชาติ

โดยการแข่งขันเทนนิสนานาชาติหาดใหญ่ ครั้งที่ 7 จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ประชาชน และผู้สูงอายุเห็นคุณค่าของการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ด้วยการหันมาออกกำลังกาย เล่นกีฬาและนันทนาการจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อสร้างความตระหนัก มุ่งเน้นเรื่องการดูเเลรักษาสุขภาพ ให้สมบูรณ์ แข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ ป้องกันไม่ให้เป็นโรคติดต่อร้ายแรงได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักกีฬาเทนนิสได้ร่วมเข้าแข่งขันในระดับนานาชาติ เสริมสร้างประสบการณ์ พัฒนาขีดความสามารถในการเล่นกีฬาเทนนิสให้มีมาตรฐาน สามารถต่อยอดไปสู่อาชีพได้ ที่สำคัญการจัดการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อต้องการผลักดันนโยบายหาดใหญ่เมืองกีฬา สร้างมาตรฐานระดับนานาชาติ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้เข้าสู่หาดใหญ่ สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้น

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 – 13 ธันวาคม 2566 มีนักกีฬาเยาวชนจากประเทศต่าง เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 162 คน จาก 10 ประเทศ ประกอบด้วย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรีย มองโกเลีย อินเดีย อุซเบกิสถานฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย โดยการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 20 ประเภท ตั้งแต่เยาวชนชายเดี่ยว / ชายคู่ และหญิงเดี่ยว / หญิงคู่ รุ่นอายุ 8 , 10 , 12 , 14 และ 18 ปี / รางวัลชนะเลิศทุกรุ่น จะได้รับถ้วยรางวัล พร้อมเกียรติบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1และ 2 ประเภทเดี่ยวทุกรุ่น จะได้รับถ้วยรางวัล พร้อมเกียรติบัตร ส่วนประเภทคู่ทุกรุ่น จะได้รับเหรียญรางวัล พร้อมเกียรติบัตร

วันนี้ (5 ธันวาคม 2566) เวลา 17.40 น. ที่ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับบรรดานักวิ่ง และเป็นประธานกล่าวปิดกิจกรรม “วิ่งน้อมรำลึก 5 ธันวา 89 พรรษา 89 กม. ด่านนอก-สมิหลา” ซึ่งชมรมวิ่งในจังหวัดสงขลาได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันน้อยใหญ่ร่วม 4,000 โครงการ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย ตลอดรัชสมัย 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายให้ประชาชน สอดรับกับนโยบาย Sport City ของจังหวัดสงขลา

กิจกรรม “วิ่งน้อมรำลึก 5 ธันวา 89 พรรษา 89 กม. ด่านนอก-สมิหลา” ครั้งนี้มีนักวิ่งในพื้นที่จังหวัดสงขลาและใกล้เคียงลงทะเบียนเข้าร่วม จำนวน 890 คน ปล่อยตัวนักวิ่ง ณ ด่านพรมแดนสะเดา (จุดสตาร์ท) ตั้งแต่เวลา 04.50 น. จากนั้นวิ่งเข้าสู่ที่ว่าการอำเภอสะเดา ผ่านศูนย์แพทย์ชุมชนตำบลพะตง, ศูนย์อนามัยเทศบาลเมืองบ้านพรุ, แวะพัก ณ ลานพระบิดา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าสู่อำเภอเมืองสงขลา โดยสิ้นสุดขบวนวิ่ง กม.ที่ 89 ณ รร.มหาวชิราวุธ จ.สงขลา

เมื่อขบวนนักวิ่งมาถึง นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ทักทายพูดคุยให้กำลังใจก่อนที่ทุกคนจะร่วมกันยืนตรงเคารพธงชาติ เชิญธงลงจากยอดเสา ในเวลา 18.00 น. เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัติย์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตนสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของคณะผู้จัด และนักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรม น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณฯ ในครั้งนี้ จึงได้อัญเชิญพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งมีพระราชดำรัสในพิธีเปิดการแข่งขันกรีฑา นักเรียนประจำปี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2504 มากล่าวปิดกิจกรรม ความว่า “การกีฬานั้นนับเป็นอุปกรณ์การศึกษาที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นการกล่อมเกลาให้เด็กมีจิตใจ อดทน กล้าหาญ รู้แพ้รู้ชนะ ปลูกฝังพลานามัยให้แข็งแรง เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เด็กเป็นผู้มีสมรรถภาพทั้งในทางจิตใจและร่างกาย เป็นผลสืบเนื่องไปถึงการเป็นพลเมืองของชาติ อันเป็นยอดแห่งความปรารถนา…” พระราชดำรัสนี้แสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานในเรื่องการส่งเสริมการกีฬาว่าเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาบุคคลและประเทศชาติ จึงทรงส่งเสริมกีฬาทุกประเภท พร้อมทั้งทรงกีฬามากมายหลายประเภท ทรงเคารพกฎกติกาของการกีฬาที่ทรงเล่น และมักจะทรงเน้นย้ำให้นักกีฬาทั้งหลายมีวินัยตลอดเวลา ทรงให้ความสำคัญต่อการฝึกซ้อมเป็นอันมาก ด้วยทรงเห็นว่าการจะเป็นนักกีฬาที่ดีนั้นต้องให้ความสนใจในการฝึกซ้อม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และปรับปรุงตนเองให้มีประสบการณ์เพิ่มขึ้น ถ้านักกีฬาคนใดไม่ฝึกซ้อมก็จะเป็นนักกีฬาที่ดีไม่ได้ นอกจากนั้นยังทรงรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5, 6 และ 8 รวมทั้งกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4, 8 และ 13 ซึ่งเป็นกีฬาระดับนานาชาติไว้ใน พระบรมราชูปถัมภ์ ตลอดจนทรงเป็นองค์ราชูปถัมภ์ของสมาคมกีฬาสมัครเล่นของไทยอีก 11 สมาคม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติด้านการกีฬาที่พระองค์ได้สร้างไว้ให้

วันนี้ (24 ก.ค. 66) ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดโพธิ์ปฐมวาส พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเอกชัย เลิศวิบูลย์ลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีสมโภชเทียนพรรษา ถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2566 เพื่อร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามทางพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ โดยมีนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา นางสาวธัญพร น้อยเสงี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คณะครู นักเรียน นักศึกษา ตลอดพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

สำหรับกิจกรรมถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน ตามโครงการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2566 กรมศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย เข้าวัดปฏิบัติธรรม บำเพ็ญจิตตภาวนา รักษาศีล ลด ละ เลิกอบายมุข พร้อมนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ไปเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิต และเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างความสุข