รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น
ก่อนอื่นผู้เขียนก็ขอแสดงความยินดีกับ คุณไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ ขอแสดงความยินดีด้วย
วกมาดูภาพใหญ่ของประเทศไทย และสังคมไทย ยังให้น้ำหนัก ในเรื่องของการเมือง อาจเป็นเพราะการเมือง คือเข็มทิศในการนำพาประเทศชาติ ไปสู่ความรุ่งเรือง และความล้มเหลว นั่นเอง เรื่องการยุบพรรคการเมืองพรรคก้าวไกลเนื่องจากผู้เขียน ส่งต้นฉบับล่วงหน้าก่อนวันที่ 3 กรกฎาคม จึงไม่ขอเขียนถึงเพราะยังไม่ทราบผลว่า ก้าวไกล จะมีโอกาสก้าวต่อไป หรือ หยุดก้าว ในวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และหากถูกยุบพรรค ก็ต้องพบกับสภาพของแพแตก สส.ต้องหาพรรคใหม่สังกัด ที่สำคัญจะมีงูเห่า ที่ย้ายไปอยู่พรรคอื่นๆ เท่าไหร่ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ และชวนติดตาม
ส่วนเรื่องการตัดสินอนาคตทางการเมือง ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ที่ใกล้เข้ามา ก็ยังเป็นเหตุระทึก สำหรับกับประเทศไทย และกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากกระแสและสถานการณ์จากข่าวสารที่ได้รับฟังมา มีความเป็นไปได้ที่จะออกหน้าไหนก็ได้ เรื่องการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ถ้าบอกว่าผู้ที่ลงนามแต่งตั้งผิด ก็ออกได้ แต่ถ้าไม่ผิด แม้จะออกได้ แต่ต้องมีเหตุมีผล ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องชี้ให้เห็นตามข้อกฎหมาย และต้องฟังได้ ว่าไม่ผิด เพราะอะไร
ถ้า เศรษฐาทวีสิน พ้นจากบ่วงแร้ว ในความผิดฐานแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ผ่านไปได้ เก้าอี้ สร 1 สำหรับ เสี่ยนิด ก็คงจะลากยาว เนื่องจากเพื่อไทยหาคนในพรรคที่เป็นแบบเสี่ยนิด ไม่ง่ายที่สำคัญ ผู้ที่มีอำนาจตัวจริง ของบ้านจันทร์ส่องหล้า ยังยืนยันที่จะไม่ให้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นดีเอ็นเอ ตัวจริงของเพื่อไทยก้าวสู่ตำแหน่ง เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย เพราะบทเรียน ที่เกิดขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นเหมือนผลไม้บ่มยังตามหลอกหลอน คนในตระกูลชินวัตรอยู่ และจนถึงบัดนี้ ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังหาแผน ในการพาน้องสาว อย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับบ้านกลับเมืองไม่ได้
แต่ถ้าเส้นทางการเมืองของเสี่ยนิด ต้องสะดุดหยุดลงที่ปัญหาของการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี มีการถามว่า รัฐบาลจะไปต่ออย่างไร ถ้าไม่เอาอุ๊งอิ๊งที่เป็นเหมือนผลไม้จำบ่ม ขึ้นมาแทนที่เสี่ยนิด และจะเอาใคร ถ้าจะเอาชัยเกษม ก็เสี่ยง ในเรื่องที่ไม่มีจุดขายทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ หนทางในการนำพาประเทศ อาจจะไม่ถูกยอมรับ จากคนส่วนใหญ่ ที่อาจจะพาให้เพื่อไทยยิ่งมีปัญหาอุปสรรคกับการเลือกตั้งในอนาคต
วันนี้โฟกัส ยังจับไปที่ อนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย อีกครั้ง ซึ่งถ้าเทียบกับพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งตัวเลข สส.ของภูมิใจไทย และคุณสมบัติของหัวหน้าพรรค เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล ยังกินขาด กว่าทุกพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคสีน้ำเงิน คือพรรคที่แสดงออกถึงการเป็นพรรคการเมืองที่ปกป้องแถบสีน้ำเงิน บนธงชาติไทยที่ชัดเจน การเมืองไทย พลิกแพลง และพลิกไปพลิกมาได้ทั้งสิ้น ก็ต้องติดตามกันแบบวันต่อวัน แต่เอาเถอะ ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้นำประเทศ คนไทยส่วนใหญ่ขอเพียงให้นำพาประเทศชาติ ไปให้รอดปลอดภัย ทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว สินค้าต้องไม่ขูดรีดเงินในกระเป๋าของชาวบ้าน แบบที่ขึ้นราคาได้ขึ้นราคาดี และรัฐบาลก็ไร้น้ำยา ในการสั่งผู้ผลิต ผู้ขาย อยู่ภายใต้คำสั่งของเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์ และพืชผลทางการเกษตร ต้องคงเส้นคงวา เพราะเกษตรกร คือ คนส่วนใหญ่ของประเทศไทย
ร้องกันมามากว่าถนนสายกาญจนวนิช ระหว่าง สะเดา-หาดใหญ่ จ.สงขลา ออกจากสะเดาไม่นานก็จะมีกลิ่นเหม็นเน่า พอหายเหม็นก็มาถึงบ้านคลองแงะ บางครั้งก็จะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงเข้ามาภายในรถยนต์ พอผ่านพื้นที่มาเข้าพื้นที่บ้านพรุ ก็มีโรงงานปล่อยกลิ่นเหม็นเน่า ออกมาอีก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและคนไทยที่ต้องผ่านเส้นทางสายนี้ ได้รับความเดือดร้อนกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ได้แต่วอนเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมฯ, สาธารณสุข และอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบหากลิ่นเหม็นเน่าด้วยว่ามาจากโรงงานไหน ดำเนินการให้โรงงานนั้น ช่วยปรับปรุงกลิ่นเหม็นเน่า ให้จางลงก็ยังดี มิใช่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนให้ชาวบ้านทนทุกข์มานานครับผม
ยังคงเส้นใหญ่ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ ที่สามารถเปิด ผับเถื่อนและกล้าเปิดเกินเวลา โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปใช้บริการ ทั้งๆ ที่มีปัญหายาเสพติดระบาดหนักในสถานบันเทิงบางแห่ง แถมผับเถื่อนยังสามารถเปิดนอกเขตโซนนิ่ง อยู่ใกล้วัดและโรงเรียนได้ ใหญ่ไม่ใหญ่ เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าไปตรวจจับอย่างดีทำได้เพียงขอจับเป็นบางครั้งเท่านั้น บอกได้คำเดียวชาวบ้านเหนื่อยครับ ไม่มีหน่วยงานให้ความสนใจในเรื่องนี้
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์