วันพุธ, 16 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 8 สิงหาคม 2567

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม  ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

เรื่องแรกมาพูดถึงเรื่องของโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นไม้เด็ด ของพรรคเพื่อไทย ในการหาคะแนนเสียง และหวังว่าจะเป็นสึนามิในการสร้างความเติบโต ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา หรือสภาสูงไปเรียบร้อย มีการเปิดให้ผู้มีสิทธิ์ ทำการลงทะเบียน ในเดือนสิงหาคม และมีผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียน ไปแล้ว 25 ล้านคน ส่วนจะสามารถแจกเงิน ให้ผู้มีสิทธิ์ คนละ 10,000 บาทเมื่อไหร่ ก็ต้องติดตามดู ที่สำคัญที่ทุกฝ่ายเป็นห่วง คือ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะเป็นสึนามิ ที่ทำให้เศรษฐกิจ ของประเทศโตแบบก้าวกระโดดตามความต้องการของพรรคเพื่อไทย จริงหรือไม่ และถ้าไม่จริง นอกจากคนไทยทั้งประเทศจะมีหนี้เพิ่มอีก 500,000 ล้านบาทแล้ว ยังจะเกิดสึนามิ แห่งความหายนะ ครั้งใหญ่ที่ยิ่งกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะวิกฤตต้มยำกุ้ง ผู้ได้รับผลกระทบ เป็นนักลงทุน และกิจการ ระดับบน แต่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ผู้ที่รับเคราะห์ เป็นคนระดับกลาง และระดับล่าง ทั้งประเทศ ซึ่งหากกระสุนนัดสุดท้าย ในรังเพลิง เกิดการด้าน หรือยิงพลาดเป้าหมาย คนไทยทุกคนคือคนที่หนีไม่พ้นความเสดสาครั้งใหญ่ ที่คงจะต้องตัวใครตัวมัน

แต่ในเมื่อดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย และเป็นโครงการที่ เพื่อไทยไม่ฟังเสียงคัดค้าน แม้แต่เสียงคัดค้านของธนาคารแห่งประเทศไทย และป.ป.ช.รวมทั้งกฤษฎีกา และในเมื่อเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าดิจิทัล วอลเล็ต เป็นของดีจริง  เมื่อมีมติ เห็นชอบให้ดำเนินการได้ทั้งจากสภาล่าง และสภาบน ก็ต้องเร่งให้เพื่อไทย ดำเนินการโดยเร็ว เพราะหากดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายที่ดีจริง เศรษฐกิจประเทศไทยจะได้ฟื้นตัวได้จริงในปี 2567  เพื่อให้ ประเทศไทย หลุดพ้น จากปากเหว ของเศรษฐกิจปากท้องของคนส่วนใหญ่ในประเทศ

แต่ถ้าจะคิดว่าดิจิทัล วอลเล็ต จะทำให้เพื่อไทย ได้คะแนนนิยม เพิ่มมากขึ้น เป็นเหมือนซื้อเสียง ล่วงหน้าจากประชาชน ก็อาจไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ของเพื่อไทย มีความผิดพลาด หลายประการ ประการแลกเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำ ให้กับสังคม เพราะเงินที่ใช้ในการแจกประชาชน จำนวน 450,000 ล้านบาท ทุกคนที่เป็นหุ้นส่วน ประเทศไทย มีหนี้ ที่ต้องแบบรับ เท่าเทียมกัน แต่มีกลุ่มคน จำนวนหนึ่ง ไม่ได้รับอานิสงส์ จากการแจกเงิน ในครั้งนี้ เช่น คนที่มีเงินฝาก 500,000 บาทขึ้นไป และร้านค้า ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้ ไม่แสดงออกแต่ไม่พอใจ กับนโยบายของเพื่อไทย อย่างแน่นอน

น้ำมันเถื่อนยังคงมีการลักลอบขนเข้ามาโดยรถหัวลาก รถกระบะ และรถเก๋ง ที่มีการนำรถมาดัดแปลงถังลับสำหรับบรรทุกน้ำมันเถื่อน คันละ 1,000 –3,000 ลิตร/คัน ขนผ่านทั้งทางช่องทางธรรมชาติและที่หน้าด่านสะเดา วันละหลายๆเที่ยว แต่แปลกที่เจ้าหน้าที่ หน่วยงาน ที่รับผิดชอบ กลับมองไม่เห็นเหมือนกับมีสีเทาๆ มาบดบังสายตาให้มองไม่เห็น มิน่า น้ำมันเถื่อน ถึงไม่มีวันตาย

นี่ก็ ผับเถื่อน ที่เปิดเกลื่อนเมืองหาดใหญ่ ทั้งเปิดเสียงดังไม่เกรงกลัวกฎหมาย แถมบางแห่งเปิดยันสว่าง โดยที่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบ แต่ถ้าเข้าไปตรวจสอบ ก็เพียงแต่ไปบอกว่า ให้ไปทำใบอนุญาตให้ถูกต้องเท่านั้น ปล่อยให้ ผับเถื่อน เปิดบริการมานานนับหลายปี ก็ยังเป็น ผับเถื่อน ทำให้ชาวบ้าน บ่นกันว่า ไม่รู้ รับส่วยกันหรือเปล่า ที่สำคัญ ชาวหาดใหญ่ ถามกันมาว่า ที่แก๊สโซลีน เปิดมานานหลายปี มีใบอนุญาต ถูกต้องหรือยังครับ ท่าน เอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ และ พ.ต.อ.บัณฑูร เทพสุวรรณ ผกก.สภ.คอหงส์ ช่วยตอบที

สะเดา นายทุนทั้งต่างชาติ และ ไทย เปิดบ่อนกำถั่ว  2 แห่ง เย้ย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.งานนี้ เห็นที พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ต้องเร่งตรวจสอบ ว่าใครกล้ามาเปิดบ่อนท้าทายอำนาจตำรวจ

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์