วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา มอบหมาย นายศิวัตน์ สุวรรณวงศ์ รองประธานหอการค้าฯ ร่วมเป็นเกียรติในงาน Songkhla MICE Barzaar 2024 ณ หอประชุมนานาชาติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน
งาน Songkhla MICE Bazaar 2024 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่ภาคใต้ โดยครั้งแรกได้มีการจัดงาน MICE Bazaar ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2565 และครั้งที่ 2 เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ เกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 400 คู่ และในปี 2567 ได้กลับมาจัดงานอีกครั้งเพื่อสร้างความต่อเนื่องของกิจกรรมไมซ์แดนใต้ โดยครั้งนี้จัดขึ้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมืองไมซ์ซิตี้ เมืองใต้ด้านเศรษฐกิจและเมืองแห่งพหุวัฒนธรรมโดยในปีนี้คาดว่าจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 500 คู่
ภายในงานมีการเข้าร่วมฟังเสวนา และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ เป็นตัวเลือกให้กับผู้ประกอบการในตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ไทยใหม่ๆ ผ่านการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้เกิดการเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อที่มาจากนอกพื้นที่
โดยในปีนี้ยังคงเน้นการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมงาน เสริมด้วยการสร้างแรงบันดาลใจในการกลับมาพัฒนากิจกรรมไมซ์ในบ้านเกิด ด้วยการบรรยายพิเศษ หัวข้อ กลับบ้าน มาสร้างอนาคต : พลิกโฉมสู่เมืองไมซ์ระดับโลก/ กลยุทธ์สื่อสารสุดล้ำ ดึงดูดใจลูกค้าไมซ์ และเสวนาหัวข้อ พลังแห่งชุมชน ขับเคลื่อนไมซ์ไทย สู่ระดับสากล จากหน่วยงานชั้นนำผู้ขับเคลื่อนชุมชนและเมือง อีกทั้งภายในงานยังเปิดตลาดไมซ์รวบรวมสินค้าและบริการ ผลิตภัณฑ์ Product MICE Premium กว่า 30 ราย เพื่อตอบโจทย์พัฒนาสินค้าและบริการของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยใหม่ๆ ให้เป็นตัวเลือกให้กับผู้ประกอบการในตลาด รวมไปถึงการเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์และเจรจาธุรกิจกันภายในอุตสาหกรรมไมซ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การจัดงาน MICE ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเมืองสงขลา ในเรื่องการจัดประชุม ด้วยสงขลาเป็นเมืองที่ครบในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นทางด้านพื้นที่ในการจัดประชุม แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งสงขลามีมนต์เสน่ห์ของประเพณีและวัฒนธรรม รวมไปถึงด้านอาหารการกินสงขลาก็มีครบ และตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ไมซ์จึงสามารถสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี คาดว่าจะเกิดการรายได้อย่างมหาศาลในอนาคตกับอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยไมซ์เพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างมั่นคง ไม่เพียงแต่ภูมิภาคภาคใต้แต่รวมถึงตลาดไมซ์ทั่วประเทศไทยอีกด้วย



