วัดสูงเกาะใหญ่ เป็นพุทธสถานที่สร้างในสมัยอยุธยา มีโบราณสถานที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนชาวพุทธในแถบนี้ที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งพบได้ยากมากแล้วใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ วัดสูงเกาะใหญ่ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีอีกแห่งหนึ่ง บริเวณที่ตั้งอยู่บนเนินเคยเป็นปราสาทหินและเป็นศิลปกรรมที่เชื่อว่าเป็นเทวสถานและต่อมาได้คงเหลือไว้แต่เพียงร่องรอยพุทธสถานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่เป็นชาวบ้านบัวทอง เมืองปัตตานี (ปัจจุบันอยู่เขตบางลำพู จังหวัดนราธิวาส) สมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อเกิดสงครามในเมือง สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่และพี่น้องได้อพยพมาจากปัตตานี ลงเรือสู่เมืองสงขลา ผ่านเขาแดง เขาเขียว เกาะยอ บ้านป่าขาด และล่องเรือไปในทะเลสาบสงขลาตอนในผ่านเกาะรวบ เกาะกระ เกาะสี่ เกาะห้า จนมาถึงเกาะใหญ่ เห็นว่าเกาะใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้นำเรือเข้ามาจอดและจมเรือสองลำที่นำมาไว้ที่อ่าวบัว ชาวบ้านที่มาด้วยกัน ได้ช่วยกันตั้งบ้านให้ชื่อว่า “บ้านทองนำ” เมื่อแรกสร้างอุโบสถ สมเด็จเจ้าเกาะใหญ่นั่งสมาธิใช้พลังจิตยกก้อนหินขนาดใหญ่ไปวางอย่างมีระเบียบ วิชานี้เรียกกันว่า “พลังเสือ”
พระอุโบสถหินซึ่งประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ปัจจุบันเหลือแค่ฐานอุโบสถหิน สร้างโดยใช้ก้อนหินขนาดใหญ่สกัดเรียบทั้ง ๔ ด้าน เรียงซ้อนกันแบบสนิทโดยไม่ได้สอปูน ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับปราสาทหิน ตัวอุโบสถมีความกว้างประมาณ ๕ เมตร ยามประมาณ ๑๐ เมตร ผนังทั้ง ๔ ด้าน ยังคงสภาพเดิมอยู่ซึ่งสูงประมาณ ๒ เมตร ส่วนบนและหลังคาไม่มี ช่องประตูมีอยู่ ๒ ช่อง ไม่มีบานหน้าต่างหรือช่องระบายลม ความหนาของผนังประมาณ ๖๐ ซม. และไม่มีลวดลายใดๆ มีบันไดหินขึ้นอยู่ทางตอนหน้า มีแท่นหินสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่บริเวณตอนในสุดของผนัง ล้อมรอบด้วยซากใบเสมาหินจำนวน ๘ อัน
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญของวัดแห่งนี้คือเทคนิคการสร้างโดยใช้วัสดุที่มากจากในท้องถิ่น นั่นคือหิน ที่ได้จากภูเขา มาทำการก่อสร้าง ซึ่งนับได้ว่าพระอุโบสถที่นี่แปลกกว่าที่อื่นๆ จึงนับได้ว่าที่ตั้งของวัดสูงเกาะใหญ่แห่งนี้เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง ๒ ฝั่งทะเลสาบได้แก่สงขลากับพัทลุง จึงน่าจะเป็นไปได้ว่าวัดแห่งนี้น่าจะเป็นวัดที่สำคัญวัดหนึ่งของชุมชนลุ่มทะเลสาบสงขลาอีกด้วย



