วันที่ 8 ก.ย. 67 เวลา 06.30 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นำทีมปั่นจักรยาน ปั่นกินลม ชมวิว Bike with U เยี่ยมชมวัดนกยูง หรือที่พักสงฆ์ภูผาญาติการาม โดยมีพระครูบวรสรนาท อธิชาติฐานิสฺสโร อดิษสร หัวหน้าที่พักสงฆ์ภูผาญาติการาม ทีมชมรมปั่นจักรยาน อำเภอหาดใหญ่ และผู้รักในการปั่นจักรยาน ร่วให้การต้อนรับและเข้าร่วมฯ ณ วัดนกยูง หรือที่พักสงฆ์ภูผาญาติการาม หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งวัดนกยูง หรือชื่อทางการคือที่พักสงฆ์ภูผาญาติการาม เป็นวัดที่อยู่กลางหุบควนภายในวัดมีนกยูงจำนวนมากถูกเลี้ยงแบบปล่อยอิสระรอต้อนรับผู้มาเยือน บรรยากาศวัดก็ร่มรื่นกลางควนภูผาที่ล้อมรอบทุกด้าน ที่นี่ยังไม่มีไฟฟ้าแต่ใช้ไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ เส้นทางไปยังที่พักสงฆ์ภูผาญาติการามนั้นเริ่มต้นจาก ถ.ชุมแสง 4 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยต้นซอยก็จะผ่านบ้านคนพอสมควร แต่เมื่อเข้าไปด้านใน บรรยากาศสองข้างทางจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสวนยางพาราแทน เมื่อขับเข้าไปเรื่อย ๆ จะพบซุ้มทางเข้าที่พักสงฆ์ภูผาญาติการามซึ่งอยู่ด้านขวามือ ซึ่งการได้มาเยี่ยมชมวัดนกยูง หรือที่พักสงฆ์ภูผาญาติการาม ได้อิ่มบุญและได้ชมนกยูงและผองสัตว์อีกด้วย

วันที่ 1 ก.ย. 67 เวลา 08.30 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นำทีมปั่นจักรยาน ปั่นกินลม ชมวิว Bike with U จิบกาแฟร้านโข่งคอฟฟี่ กับทีมชมรมปั่นจักรยาน อำเภอหาดใหญ่ และผู้รักในการปั่นจักรยาน เข้าร่วมฯ ณ ร้านโข่งคอฟฟี่ ตำบลคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา

ซึ่งร้านโข่งคอฟฟี่ เป็นชื่อของร้านกาแฟ ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 กองพลพัฒนาที่ 4 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา สถานที่นี้สร้างความร่มรื่นและบรรยากาศร้านกาแฟได้น่านั่ง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมไปอีกทีหนึ่งของ จังหวัดสงขลา ด้วยการนำเอาการเกษตรผสมผสาน การจัดวางแปลงเพาะปลูกให้มีระเบียบและสวยงาม ทำให้กลายเป็นบรรยากาศเหมือนสวนหย่อม สวนสวยงาม ยามต้นไม้ผลิดอกออกผลน่าดูชมมาก ๆ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความนิยมมากในยุคนี้ และที่นี่ก็ดึงเอาจุดเด่นตรงนี้มาใช้ได้เป็นอย่างดี บรรยากาศโดยรวมเริ่มตั้งแต่ส่วนที่เป็นโครงการเกษตรและร้านกาแฟ แต่ก่อนที่จะสั่งกาแฟ เครื่องดื่มกินกัน เดินไปตามทางสะพานที่ทอดยาว จะไปโผล่อีกจุดหนึ่งที่เป็น ไฮไลท์ของที่นี่ก็ว่าได้ นั่นคือ โซน สระน้ำ ที่มี ควายยิ้มรอถ่ายรูปอยู่

หากใครกำลังหาสถานที่พักผ่อน ชมวิว ชมต้นไม้ ชมสวน และมีอาหาร กาแฟ ไว้คอยบริการ ที่ โข่งคอฟฟี่ เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนเมืองไม่ควรพลาด อยู่ห่างจากเมืองหาดใหญ่แค่ประมาณ10 กิโล สำหรับคนที่อยากสัมผัสธรรมชาติแล้วละก็ต้องมาเยี่ยมชมสักที

วันที่ 24 ส.ค. 67 เวลา 08.00 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นำทีมปั่นจักรยาน กินลม ชมวิว Bike with U เยี่ยมชมวัดอู่ตะเภา (วัดเก่า) กับทีมชมรมปั่นจักรยาน อำเภอหาดใหญ่ และผู้รักในการปั่นจักรยาน เข้าร่วม ณ วัดอู่ตะเภา (วัดเก่า) หมู่ที่ 8 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งวัดอู่ตะเภา ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลคูเต่า เป็นวัดเก่าแก่ สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2010 มีโบราณวัตถุที่เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนในชุมชน คือ วัตถุโบราณแกะสลักไม้เป็นรูปหนุมาน ชาวบ้านเรียกว่า “ตาหมาน” และบริเวณที่ตั้งวัดแห่งนี้เดิมเป็นที่จอดเรือสำเภาของพ่อค้า มีโบสถ์อายุกว่าร้อยปีสร้างด้วยไม้ ไม่มีการใช้ตะปู แบบเดียวกับศาลาสถานวัดคูเต่า

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าตำบลคูเต่า มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และเหนี่ยวเเน่นในขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในพื้นที่

วันที่ 24 ส.ค. 67 เวลา 07.30 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นำทีมปั่นจักรยาน กินลม ชมวิว Bike with U นำทีมปั่นจักรยาน กินลม ชมวิว Bike with U เยี่ยมชมวัดชลประทานประสิทธิ์ (วัดใหม่) กับทีมชมรมปั่นจักรยาน อำเภอหาดใหญ่ และผู้รักในการปั่นจักรยาน เข้าร่วม ณ วัดชลประทานประสิทธิ์ (วัดใหม่) หมู่ที่ 9 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งวัดชลธารประสิทธิ์ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 9 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. 2448 รับวิสุงคามสีมา เมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2560

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าตำบลคูเต่า มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และเหนี่ยวเเน่นในขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในพื้นที่

วันที่ 24 ส.ค. 67 เวลา 06.30 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ นำทีมปั่นจักรยาน กินลม ชมวิว Bike with U นำทีมปั่นจักรยาน กินลม ชมวิว Bike with U เยี่ยมชมปอเนาะ ที่แรกของอำเภอใหญ่อายุประมาณ300ปี และศาลาทวดโต๊ะแสง กับทีมชมรมปั่นจักรยาน อำเภอหาดใหญ่ และผู้รักในการปั่นจักรยาน เข้าร่วม ณ พื้นที่ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งปอเนาะ ที่แรกของอำเภอใหญ่ เดิมถูกใช้เป็นบ้านสำหรับเรียนศาสนา สะมาหยัง(ละหมาด)ของคนในละบ้านเเถวนี้มาก่อนอีกด้วย ซึ่งในรูปแบบการเรียนศาสนาและสะมาหยังโดยใช้บ้านของโต๊ะครู(ผู้รู้ทางศาสนา) เนื่องจากอยู่ไกลจากตัวสุเหร่าเเต่จะเดินทางไปสุเหร่าเฉพาะเวลาของวันศุกร์ที่จะต้องสะมาหยังรวมกันที่สุเหร่า

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าตำบลคูเต่า มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข และเหนี่ยวเเน่นในขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในพื้นที่