วันพฤหัสบดี, 5 มิถุนายน 2568

ผับเถื่อนเกลื่อนหาดใหญ่หากินหน้าโรงเรียนเป็นหลัก

จากกรณีที่มีจดหมายร้องเรียนถึงนายสมนึก พรหมเขียว อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 โดยมีสำเนาถึงนายอำเภอหาดใหญ่ ผู้กำกับการ สภ.คอหงส์ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ในอำเภอหาดใหญ่ เกี่ยวกับเรื่องสถานบันเทิงเถื่อน ร้านเหล้าที่เปิดเกินเวลาและไม่มีใบอนุญาต

หลังจากจดหมายร้องเรียนได้ส่งถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ให้จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายหรือบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์กับสถานบริการสถานบันเทิง แต่ดูเหมือนจะเสียเวลาเปล่าเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ร้านเหล้า ผับเถื่อน สถานบริการไม่มีใบอนุญาตก็ยังคงเถื่อนไม่มีใบอนุญาตและเปิดเกินเวลากันจนสว่างเหมือนเดิม

มีการโยกย้ายเปลี่ยนผ่านตำแหน่งในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพียงตำแหน่งเดียวคือผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จากนายสมนึก พรหมเขียว มาเป็นนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคนปัจจุบัน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ในการบังคับใช้กฎหมาย จับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าตำแหน่งนายอำเภอหาดใหญ่ ก็ยังคงเป็นนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา ผู้กำกับการ สภ.คอหงส์ พ.ต.อ.บัณฑูร เทพสุวรรณ และ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ แต่ธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ในหาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าเปิดกิจการไปกันต่อเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สถานบริการ ร้านเหล้า ผับ บาร์ ก็ยังคงเถื่อนไม่มีใบอนุญาตและเปิดเกินเวลากันยันเช้าตามปกติ บางแห่งมียาเสพติดระบาดอยู่หรือไม่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่นักเที่ยว บางแห่งมีเด็กนักดริ๊งนั่งชั่วโมง 40-50 คน ที่ตามใบอนุญาตเขาเรียกว่า”พาร์ทเนอร์” ก็ไม่มีการดำเนินการจับกุม หรือมาตรการปราบปรามใดๆ จากเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายและควบคุมบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดหรือธุรกิจที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ จะมีเพียงกลุ่มเจ้าหน้าที่แต่งชุดกันเต็มยศไปยืนแอ๊คชั่นตามหน้าร้านเหล้าบ้าง หน้าผับบ้าง ในช่วงเวลา 20.00 น.-21.00 น. แล้วถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คของหน่วยงานต้นสังกัดว่ามาตรวจแล้วไม่มีอะไรผิดกฎหมายเหตุการณ์ทั่วไปปกติ อย่างน้อยเพื่อเป็นหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำงานกันทุกวันอย่างจริงจัง

แต่ถ้าเจ้าหน้าที่จะทำงานกันจริงๆ ไม่ลูบหน้าปาดจมูกหรือสร้างภาพไปวันๆ ตรวจสถานบริการหรือผับเถื่อนเหล่านี้ เฉพาะคืนวันศุกร์ เสาร์ก็พอ อาทิตย์หนึ่งตรวจแค่สองวันไม่ต้องตรวจกันทุกวันและเวลาการเข้าตรวจควรจะเป็นเวลาเที่ยงคืนหรือ 24.00 น. เพราะไหนๆ ร้านเหล้า ผับเถื่อนเหล่านี้ก็ไม่มีใบอนุญาตประกอบการถูกกฎหมายกันอยู่แล้ว ควรจะปิดให้บริการเพียงแค่เวลา 24.00 น. เที่ยงคืนเท่านั้น และการเข้าตรวจทุกๆ วันศุกร์และเสาร์ควรบูรณาการทั้งฝ่ายปกครอง อส. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่และสาธารณสุข เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย อาวุธและยาเสพติด ในอำเภอหาดใหญ่มีร้านเหล้า สถานบริการและผับเถื่อนที่เปิดบริการผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนญาตประกอบการที่ถูกต้องและเปิดเกินเวลาอยู่ประมาณ 200 แห่ง ถ้าเจ้าหน้าที่เอาแต่แอ๊คชั่นสร้างภาพไปถ่ายรูปหน้าผับเถื่อนช่วงหัวค่ำ เกิดวันไหนมีคลิปไปแปะทับหน้าเฟสว่าร้านที่ท่านยืนอยู่นั้นเปิดบริการถึงตี 3 ตี 4 ท่านจะปั้นหน้าไม่ถูกเอานะครับ เผลอๆ อาจจะโดนมาตรา 157 หรือเปล่าว่าท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรืออาจให้การสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมายเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่างที่แต่ละแห่งต้องจ่ายกันเป็นรายเดือนที่เรียกว่า “ส่วย” หรือไม่อย่างไร?

สถานบันเทิงเถื่อนเหล่านี้มักจะชอบอ้างว่าเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว แต่แท้จริงนายทุนเหล่านี้ประกอบธูรกิจผิดกฎหมายก็เพื่อตัวเอง พวกพ้วงและเจ้าหน้าที่ท้องที่บางคนบางหน่วยเท่านั้นใช่หรือไม่? อาจจะมีการจัดสรรจ่ายส่วยให้ทุกหน่วยงานที่มีสิทธิ์มีอำนาจในการปราบปรามจับกุมหรือให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจค้น ปราบปรามและจับกุมธุรกิจผิดกฎหมายเหล่าหรือผับเถื่อนเหล่านี้หรือไม่? หรืออาจยังต้องการให้การสนับสนุนธุรกิจบันเทิงที่กระทำผิดกฎหมายเหล่านี้คงอยู่ต่อไปได้ตลอดหรือไม่? หรือเพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงานตัวเองก็จะได้คงอยู่ต่อไปเช่นกันหรือไม่?

“แก๊ซโซฮอล์” และ “เต็มถุง” ผับเถื่อนผับดังย่านธรรมนูญวิถีย่านนี้ไม่มีผับไหนมากด้วยบารมีและยิ่งใหญ่เท่า “ผับอิทธิพลเถื่อน” แห่งนี้แล้ว ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนอุดมศึกษาพาณิชยการ มี ส.ส.ในจังหวัดเป็นแบ็คค้ำหลังให้ แถมหุ้นส่วนยังมีดีกรีเป็นลูกผู้การจังหวัดถึง 2 จังหวัดด้วยกัน ผับเถื่อนแห่งนี้ไม่มีข้าราชการหน่วยงานไหนกล้าแตะต้อง ถึงขั้นต้องยอมเสี่ยงมาตรา 157 ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และต้องหันมาให้การสนับสนุนผับเถื่อนแห่งนี้กันเลยทีเดียว เพราะขนาดเคยถูกอดีตนายอำเภอชวกิจจ์ สุวรรณคีรี ซึ่งเป็นนายกอำเภอหาดใหญ่ในปี 2564 จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาว่าตั้งสถานบริการตามมาตรา 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน 2564 ก็ไม่มีผลทำให้ระคายผิวแม้แต่นิดเดียว รวมถึงสื่อส่วนกลางอย่าง”แนวหน้า” นำเสนอข่าวในหน้าสังคม ฟาดฟัน ชี้ช่องถึงการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ ของผับแห่งนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน ก็ไม่สามารถทำอะไรผับเถื่อนแห่งนี้ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รวมหัวกันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่สนใจการแจ้งเบาะแสของสื่อต่างๆ นั่นเอง

ท่านผู้ว่าฯ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาที่เพิ่งมาใหม่ไฟกำลังแรง ท่านส่งข้าราชการคนสนิทที่เชื่อใจได้ มีความซื่อตรงมายืนแถวๆ หน้าโรงเรียนเทคโนโลยีอุดมศึกษาพาณิชยการ ถนนธรรมนูญวิถีในคืนวันศุกร์และเสาร์นี้เวลาตี 2 จนถึง 6 โมงเช้าแล้วท่านจะได้พบเห็นกับตาได้รับทราบความจริงทุกประการจากคนของท่านเอง ส่วนท่านจะมีมาตรการจับกุมปราบปรามต่อไปยังไงก็สุดแล้วแต่วิสัยทัศน์คนเป็นพ่อเมืองอย่างท่านที่จะแก้ไขเรื่องที่ผิดให้ถูกต้องเสียที เพราะในย่านนี้ไม่เขตโซนนิ่ง แต่เป็นย่านใจกลางชุมชน มีบ้านพักอาศัยของชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำเป็นร้อยเป็นพันหลังคาเรือน มีหอพักนักศึกษา อพาร์ทเมนท์ ของคนที่ต้องนอนหลับพักผ่อนเพื่อทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้นกันต่อไปมากมายหลายแห่ง และที่สำคัญ “ผับเถื่อนแห่งนี้” ยังตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานศึกษาอีกต่างหาก ซึ่งสถานบันเทิงเถื่อนแห่งนี้ถ้าไม่มีบารมีข้าราชการที่ใหญ่โตคอยหนุนหลัง อำนาจเงินที่เอื้อเจ้าหน้าที่ตัวเล็กตัวน้อยในพื้นที่ซ้ายหันขวาหันได้เป็นรายเดือน ก็คงจะต้องถูกสั่งปิดกิจการไปตั้งนานแล้ว ส่วนชาวบ้านที่มีที่พักอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ ต้องอดตาหลับขับตานอน ทนเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มจนเกือบสว่างกันทุกคืนต่อไป ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องย้ายออกไปเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา