วันศุกร์, 20 มิถุนายน 2568

ม.อ. เจ้าภาพสัมมนาเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายวางแผน และเครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษา สร้างเครือข่ายความร่วมมือ รับการเปลี่ยนแปลงยุคดิจิทัล

28 มี.ค. 2568
21

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดโครงการสัมมนาวิชาการเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายวางแผน และเครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษา ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “การวางแผนอุดมศึกษาสู่อนาคตแห่งการพัฒนาองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลโดยใช้เครื่องมือบริหารจัดการสมัยใหม่” โดย ผศ. ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี ให้เกียรติกล่าวต้อนรับและเปิดงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ผู้อำนวยการกองแผนงานของมหาวิทยาลัย/สถาบัน ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานด้านวิเคราะห์นโยบายและแผน เข้าร่วม ระหว่างวันที่ 20 – 22 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา

สำหรับเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายแผน และเครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษา (Higher Education Planning Network : HEP Net) จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างรองอธิการบดีฝ่ายวางแผน ผู้อำนวยการ และผู้ปฏิบัติงานด้านนโยบาย การวางแผน และงบประมาณในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และในกำกับของรัฐ เป็นเครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาการปฏิบัติงาน พัฒนาระบบงาน สร้างผลงานทางวิชาการ ส่งเสริมความร่วมมือ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัย/สถาบันต่าง ๆ เป็นศูนย์กลางในการร่วมมือประสานงาน ให้ข้อคิดเห็นกับองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านนโยบาย การวางแผน และการงบประมาณอุดมศึกษาของประเทศ

ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมเครือข่ายจำนวน 34 มหาวิทยาลัย/สถาบัน โดยมีผู้อำนวยการกองแผนงานของแต่ละมหาวิทยาลัยหมุนเวียนกันเป็นประธานเครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษา และมีมหาวิทยาลัยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดโครงการสัมมนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่อง

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายวางแผน และเครือข่ายการวางแผนอุดมศึกษาให้เป็นเจ้าภาพในการดำเนินโครงการสัมมนาวิชาการเครือข่ายรองอธิการบดีฝ่ายวางแผน และเครือข่ายวางแผนอุดมศึกษา ประจำปี 2568 เรื่อง “การวางแผนอุดมศึกษาสู่อนาคตแห่งการพัฒนาองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลโดยใช้เครื่องมือบริหารจัดการสมัยใหม่” เนื่องจากในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว รูปแบบการทำงานก็ได้รับผลกระทบอย่างมากในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านกระบวนการทำงาน ทักษะที่จำเป็น หรือวิธีการสื่อสารและประสานงาน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทายที่ผู้คนและองค์กรต้องเผชิญ เช่น การทำงานทางไกล (Remote Work) ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร การเพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทในการลดเวลาการทำงาน และเพิ่มความแม่นยำ การเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยี ในการวิเคราะห์ข้อมูล การสื่อสารและการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัลในหลายแพลตฟอร์ม การใช้แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มออนไลน์แทนการปฏิบัติงานแบบเดิม ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากร ตลอดจนโอกาสในการเชื่อมต่อระดับนานาชาติโดยใช้เทคโนโลยีช่วยให้การทำงานอีกด้วย