แม้จะอยู่ใน”สมัยปิดประชุม”แต่เรื่อง ของ”การเมือง” ก็ยังคง”ร้อนแรง” ทั้งในเรื่องของความ”ขัดแย้ง” ไม่เป็นเนื้อเดียวกันของ”ครม.” ที่ต้องมีการ”ปรับ ครม.” เพื่อความ”อยู่รอด” ของ” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และ”พรรคเพื่อไทย” ซึ่งไม่ใช่การ”ปรับ” เพื่อความ”อยู่รอด” ของ”ประชาชน” และทำให้”ประเทศชาติ” ดีขึ้น…..เรื่องของ”ชั้น 14” ที่กลายเป็น”เงื่อนไข” ของทั้งเรื่องของ”การเมือง” และเรื่องความ”ขัดแย้ง” การทำลายความ”ปรองดอง” ความ”สามัคคี”ของคนในชาติ ที่น่า”อนาถ” คือ” ผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี สังคมไทยยังคง”คุกรุ่น” และ”หมกมุ่น” อยู่กับเรื่องของ”ทักษิณ ชินวัตร” “คนไทย” และ”ประเทศไทย” ไม่สามารถ”ก้าวข้าม”บุรุษ” ที่ชื่อ”ทักษิณ ชินวัตร” ไปได้ และวันนี้ก็เห็น”ชัดเจน” ว่า” ทักษิณ” ยังคงเป็นผู้มี”อิทธิฤทธ์” และกลายเป็น”ปมขัดแย้ง” ใน”สังคมไทย” ที่ยัง”แก้ไม่ได้”
เรื่อง”เศรษฐกิจ” ที่ยังคง”หนักหนาสาหัส” ที่”ฉุดดึง” และ”เหนี่ยวรั้ง” ให้ประเทศชาติเดินไปสู่”หายนะ” ครั้งใหญ่ ถ้ายังหา”ทางออก”ไม่พบ แผน”กระตุ้นเศรษฐกิจ”ของ”รัฐบาล” ทั้งเรื่องการ”แจกเงิน” ที่แจกไปแล้ว 2 รอบ รอบละ 10,000 บาท ก็กลายเป็นเรื่อง”ขี้ลงร่อง” ไม่สามารถ”กระตุ้น”ให้”เศรษฐกิจ”มีการ”กระเตื้อง” ขึ้นแต่อย่างใด โครงการ”คุณสู้ เราช่วย” สุดท้ายก็ยังไม่มี”คำตอบ” ว่า”ช่วยได้” แค่ไหน เพราะ”หนี้สินครัวเรือน” ใน”ภาคประชาชน” ยัง”อีรุงตุงนัง” “ รถยนต์,บ้านเรือน” ถูก”สถาบันการเงิน” ฟ้องร้อง” เพราะไม่มีปัญญา ในการ”ชำระหนี้”…..การขึ้น”ค่าแรง” กลายเป็นเรื่อง”ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” รัฐบาลบริหารประเทศผ่านไปแล้ว 2 ปี กระทรวงแรงงานที่มี”พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เป็น” เสนาบดี” ภายใต้”พรรคภูมิใจไทย” ยังไม่สามารถที่จะ”ขยับปรับขึ้นค่าแรง”ได้ตามความต้องการของ”แรงงาน” เพราะ”ยังมีความ”ขัดแย้ง” ของ”นายจ้าง”และ”ลูกจ้าง” ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ในขณะที่”ราคาสินค้า” ขึ้นแล้ว”ไม่ลง” แต่”ผลิตผล”ทาง”การเกษตร”ภายใต้การ”บริหาร”ของ”นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ”พิชัย นริททะพันธ์ เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” ที่”ราคาตกต่ำ” ทั้ง”อ้อย”มันสำปะหลัง,ยางพารา,ปาล์มน้ำมัน” และ”ข้าวเปลือก” และเมื่อฟังแนวทางแก้ปัญหาของ”เสนาบดี” ที่รับผิดชอบกับเรื่อง”เศรษฐกิจ”ของ”ประเทศ” และ”ปากท้อง”ของ”ประชาชน” ก็ยิ่ง”ว้าเหว่”เหมือนกับ”ตะวันโพล้เพล้” คนหนึ่งแนะให้”ชาวนา”เลิก”ปลูกข้าว” ไปทำ”สวนกล้วย” คนหนึ่งขอให้”ชาวสวนยาง” หยุด”กรีดยาง”เป็นเวลา 1 เดือน” นี่คือ”วิสัยทัศน์” ของ”เสนาบดี” ที่”รัฐบาล” ของ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี” ให้มาดูแลแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” ของ”ประชาชน” ที่ไม่เข้าใจ”บริบท” ของ”เกษตรกร” และ”ความเป็นจริง” ที่ดินที่ใช้”ทำนา” ไม่สามารถ”ปลูกกล้วย” ให้”เจริญเติบโต”ได้ และปลูกแล้ว” ตลาด” ที่จะ”ส่งขาย” อยู่ที่ไหน หรือจะให้”คนไทย” ทุกคน”กินกล้วย” แทนการ”กินข้าว”
ส่วนให้”ชาวสวน” หยุด กรีดยาง” เป็นเวลา 1 เดือน ของ” เสนาบดี” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยิ่งทำให้เห็นว่า”ไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง “ และ”ไม่พัฒนา” “เสนาบดีหญิง” คงไม่รู้ว่า”ปีนี้” ชาวสวนยางส่วนใหญ่” ไม่ได้”หยุดกรีดยาง” ใน”ฤดูยางผลัดใบ” ในเดือน”มีนาคม-เมษายน ที่ผ่านมา เพราะหาก”หยุดกรีด” หมายถึงไม่มี”ข้าวสารกรอกหม้อ” คือ”ไม่มีกิน” จึงยอมที่จะให้”ต้นยางตาย” แต่อย่าให้”คนอดตาย” แล้วเมื่อถึง”ฤดูยางเปิดกรีด” “เสนาบดีท่าน จะให้”ชาวสวนยาง” หยุดกรีด อีก 1 เดือน ก็ต้องถามว่า”เสนาบดี” จะให้เขา”กินอะไร” ชาวสวนยางที่”ร่ำรวย” ในประเทศนี้มีเพียง”หยิบมือ” ส่วนที่เหลือคือ เจ้าของ”สวนยาง” ขนาด”เล็ก” ที่”พออยู่พอกิน” และที่เป็น”ปัญหา”ที่สุดคือ”ลูกจ้าง”ที่”รับจ้าง” ในการ”กรีดยาง” ซึ่งเป็นคน”ยากจน” ถ้าเรื่องอย่างนี้คนเป็น”เสนาบดี” ยัง คิดไม่เป็น และ คิดไม่ได้ ปัญหาของ”เกษตรกร” ก็ย่อมไม่มีทางแก้ไข ก็ต้องดูว่า”ปรับ ครม.” ครั้งนี้”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จะเอาใครมาเป็น”เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ”เสนาบดี” กระทรวงพาณิชย์ และเอามาเพื่อ”ช่วยเกษตรกร” ให้”ลืมตาอ้าปาก” หรือเป็นการ”ปรับ ครม” ที่เป็นเรื่อง”สมบัติผลัดกันชม” เพื่อลด”แรงกระเพื่อม” ภายในพรรคเพื่อไทย
และที่”หนักหนาสาหัส” คือเรื่องการขึ้น”ภาษี” ของ”ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์” แห่ง”สหรัฐอเมริกา” ซึ่ง “ทุกประเทศ” ที่โดน”กำแพงภาษี” ต่าง”กูลีกูจอ” ตั้งทีมเพื่อ”เจรจา” กับ”สหรัฐอเมริกา” กันหมดแล้ว”ทั้งโลก” เหลือเพียง”ไทยแลนด์”ที่เป็น”แดนสนธยา” ที่”ผู้นำ”ประเทศ” อย่าง”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี” แถลงข่าว บอกกับ”ประชาชน” ว่าไม่ต้อง”กังวล” เพราะมี”ดีลลับ” มีการ”เจรจา” อยู่ตลอดเวลากับ” สหรัฐอเมริกา” แต่คำว่า”ดีลลับ” และการ”เจรจา”ปัญหาการค้า และ”กำแพงภาษี” ที่ทุกประเทศเขา “วิตกกังวล” และ”เร่งร้อน” ในการ”เจรจา” เพื่อ”บรรเทา”ความ”เสียหาย” ของ”เศรษฐกิจ” และความ”เดือดร้อน”ของ”ประชาชน” แต่สำหรับ”ประเทศไทย”ผู้นำประเทศ”บอกว่าไม่ต้อง”รีบร้อน” ไม่เอา”ความรวดเร็ว” แต่จะเอาความ”แม่นยำ” อะไรคือความ”แม่นยำ”และ”เป้า”ของความ”แม่นยำ” คืออะไร ไม่มีบอกให้”ประชาชน”ได้”รับรู้” เพื่อคลายความ”วิกตกกังวล” เช่นเดียวกับ”ดีลลับ” เป็น”ความลับ” ที่ต้อง”เสียประโยชน์” อะไรให้กับ” สหรัฐอเมริกา” ตั้งแต่การต้อง”ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์” เรื่อง”ภูมิรัฐศาสตร์”ของความ”มั่นคง” ใน”ทะเลจีนใต้” และอีกหลายเรื่องที่”สหรัฐอเมริกา” ทำการ”ต่อรอง” กับ”ประเทศไทย” เพื่อการ”ถ่วงดุล” กับ”มหาอำนาจจีน” และ สุดท้าย”ดีลลับ” ระหว่าง”ไทย”กับ”สหรัฐอเมริกา” จะกลายเป็น”ปลายหอกปลายดาบ” ที่กลับมา”ทิ่มแทง” ประเทศไทย และ “คนไทย” จากความ”ไม่พอใจ” ของ”ประเทศมหาอำนาจ”อย่าง”ประเทศจีน” หรือไม่ และสุดท้ายถ้า”ดีลลับ” ระหว่าง”รัฐบาล” กับ”โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดี “สหรัฐอเมริกา” ไม่เป็นผล” เราก็จะเห็นอาการ”ลุกลี้ลุกลน” ในการ”แก้ปัญหา”ของ”แพทองธาร ชินวัตร” และก็จะเป็น”สถานการณ์”ที่”สายเกินไป” และจะเกิดความ”เสียหาย” อย่าง”ประเมินค่าไม่ได้” สำหรับประเทศไทย ก็ขอ”เตือน” คนไทยทุก”ภาคส่วน” ทุก”สาขาอาชีพ” ให้”รับมือ”กับ”วิกฤตเศรษฐกิจ” ที่จะเกิดขึ้นหลังการ”ผ่อนผัน”ในเรื่อง”ภาษีการส่งออก” ใน 90 วัน ที่เป็น”เส้นตาย” ของ”สหรัฐอเมริกา”
อีกเรื่องที่น่า”วิตกกังวล” สำหรับ”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศไทย นั่นคือการ”ท่องเที่ยว” ซึ่ง”การท่องเที่ยว” เป็น”เครื่องยนต์” ที่เหลือยู่เพียง”เครื่องเดียว” ที่”ทำเงิน” ให้กับ”ประเทศไทย” แต่ วันนี้”วิกฤต”ของการ”ท่องเที่ยว” มาเยือนประเทศไทยแล้ว จำนวน “นักท่องเที่ยว” โดยเฉพาะจาก” สาธารณรัฐประชาชนจีน” ที่เคย”ยืนหนึ่ง” ใน”ตลาดการท่องเที่ยว” หายไปจาก”ประเทศไทย” กว่าร้อยละ 50 การหายไปของ”นักท่องเที่ยว” หมายถึง”เม็ดเงิน” ที่หายไปด้วย ถามว่า”รัฐบาล” และ”เสนาบดีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา” ที่เป็น”เสนาบดี”ที่”โลกลืม” จะ ดำเนินการกับ”ปัญหา” ที่เกิดขึ้นอย่างไร จะเอา”นักท่องเที่ยว” จากที่ไหนมา”เติมเต็ม” เพื่อ”ฟื้น” การ”ท่องเที่ยว” ให้กลับมา …..และความจริงของปัญหา”วิกฤติ”ของการ”ท่องเที่ยว” ที่เป็นเรื่องจริงคือ”ค่าใช้จ่าย”ในการ”ท่องเที่ยว”ของ”ประเทศไทย” วันนี้”แพง” ถึง”แพงมาก” เมื่อเทียบกับ”คู่แข่ง” อย่าง”เวียดนามและ”ญี่ปุ่น” ในขณะที่”ความปลอดภัย” สู้”ประเทศที่เป็น”คู่แข่ง”ไม่ได้ สถานที่ท่องเที่ยวไม่มี”ของใหม่” ที่มีอยู่ไม่มีการ”พัฒนา” เมื่อก่อนเป็นอย่างไร เดี่ยวนี้ก็เป็นอย่างนั้น และสถานที่”ท่องเที่ยวธรรมชาติ” เช่น”ทะเล,ชายหาด”และ”ป่าไม้ สายน้ำ” มีความ”เสื่อมโทรม” เพราะการทำลาย”สิ่งแวดล้อม” ที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่มีการ”ปรับปรุง” นี่เป็นอีกหนึ่ง”สาเหตุ” ที่ทำให้”นักท่องเที่ยว” ที่เคยมาเยือน ไม่หวนกลับมาอีก และที่สำคัญ” รัฐบาล” และ”หน่วยงาน” ที่” รับผิดชอบ” ต่างก็”เอาหูทวนลม” กับเรื่องที่เกิดขึ้น เชื่อเถอะ “วิกฤติ”การ”ท่องเที่ยว” ครั้งนี้”ใหญ่หลวง” สำหรับ”ประเทศไทย”
เรื่องที่”ใหญ่หลวง” อีกเรื่องสำหรับ”รัฐบาล” และ”ประเทศไทย” นั้นคือเรื่องของ”ไฟใต้” ที่ การแก้ปัญหาของ”ไฟใต้” ผ่านไปแล้ว 21 ปี แต่ทุก”รัฐบาล” ที่ผ่านมา ทำได้แค่การ”เลี้ยงไข้” มีการให้ยา”แก้ปวด” ซึ่งเป็นยา”ปฏิชีวนะ” แต่ไม่มีการ”ผ่าตัด” ทั้งที่รู้ว่าอาการของดินแดน”ปลายด้ามขวาน” คือ”มะเร็งร้าย” ที่อยู่ใน”ระยะที่ 2 ที่ต้องมีการ”ผ่าตัด” หรือการทำ”คีโม” เพื่อการ”ช่วยชีวิต” แต่ไม่มี”รัฐบาล”ไหนกล้าที่จะ”ลงมีด” เพื่อการ”ผ่าตัด” วันนี้”เชื้อร้าย” มีการ”ลุกลาม” เพิ่มขึ้น แต่”สหายใหญ่” อย่าง”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ “เสนาบดี”กระทรวงกลาโหม ยังคง”เงื้อง่าราคาแพง” และยัง”หันรีหันขวาง” ไม่รู้ว่าจะ”ดำเนินการ” อย่างไรกับปัญหาของ”ไฟใต้”…….ที่ ล่าสุด” แกนนำ”ฝ่าย”ทหาร” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ที่นำโดย”ยานิง แวมามุ” สั่งการให้” กองกำลังติดอาวุธ” ในพื้นที่”ปลิดชีพ” ของ”ชาวไทยพุทธ” เพื่อการ”ตอบโต้” ทั้งในส่วนของ”รัฐบาล” ที่มี”ทักษิณ ชินวัตร” เป็นผู้”สั่งการ” ในการ”ดับไฟใต้” โดยให้”อันวาร์ อิบราฮิม”นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย ดำเนินการ”กดดัน” ให้”บีอาร์เอ็น” ทำการ”ยุติ”การ”ก่อการร้าย” ในพื้นที่ “จังหวัดชายแดนภาคใต้” วันนี้”บีอาร์เอ็น” กำลังเอา”คนไทยพุทธ” ในพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้”เป็น”ตัวประกัน” เพื่อให้” รัฐบาล” สั่งการให้” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” หยุดการ”ปฏิบัติการ” ในการ”ปิดล้อม ตรวจค้น และ”จับกุม”แนวร่วม” และ”กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” ด้วยการ”กราดยิง” และ”ซุ่มยิง” ชาว”ไทยพุทธ” ในพื้นที่”เปราะบาง” ที่”เจ้าหน้าที่รัฐ” ดูแลรักษาความ”ปลอดภัย”ไม่ทั่วถึง เช่นการยิง”ชาวไทยพุทธ”ที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส วันเดียว 4 ศพ รวมทั้งการ”ทิ้งใบปลิว” เพื่อ”ข่มขู่” ว่าจะเอา”ชีวิต”ของ”คนไทยพุทธ” ทั้งที่เป็น” ครู” เป็น”พระ” เป็น”เจ้าหน้าที่” และ”ประชาชน”ทั่วไป เพื่อเป็นการให้เกิดความ”หวาดกลัว” ที่ อาจจะ “ได้ผล” เพราะ ด้านหนึ่ง เมื่อ” เจ้าหน้าที่” ทำการ”คุ้มครอง” ชาว”ไทยพุทธ” ไม่ได้
“รัฐบาล” โดย”ภูธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ “เสนาบดี”กระทรวงกลาโหม” ทางหนึ่งอาจจะ “เล่นบท” ที่”แข็งกร้าว” เอาใจ”ชาวพุทธ” ด้วยการ”สั่งการ” ให้” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ใช้”กฎหมาย” อย่าง”เข้มข้น” ในการ”ไล่ล่า” ติดตาม”จับกุม” ผู้”ก่อเหตุ” มา”รับโทษ” แต่อีกทางหนึ่งอาจจะ”ส่งซิก” ให้”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า”หยุดปฏิบัติการ” ทาง”ทหาร” เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของ”บีอาร์เอ็น” เพื่อให้”กองกำลังติดอาวุธ” หยุดการ”ปลิดชีพ” และ”คุกคาม” คน”ไทยพุทธ” ในพื้นที่ เพื่อให้”ประชาชน”เห็นว่าความ”รุนแรง”ลดลง…..แต่อีกทางหนึ่งการ”ปลิดชีพ” ชาว”ไทยพุทธ” และการ”ข่มขู่” ของ”บีอาร์เอ็น” ได้ผล เพราะหลังจากเหตุการณ์”กราดยิง”ชาว”ไทยพุทธ” ที่เกิดขึ้น ทั้งใน” อ.แว้งอ.สุไหงปาดีอ.จะแนะ อ.ตากใบ” จ.นราธิวาส วันนี้มี”คนไทยพุทธ” เตรียม”โยกย้าย” ออกจาก”พื้นที่” เพื่อเป็นการ”รักษาชีวิต” ตามการ”ร้องขอ”ของ”ลูกหลาน” ที่”โยกย้าย” ออกจาก”พื้นที่”ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยข้อเท็จจริง ที่ “รัฐบาล” ที่”หน่วยงานความมั่นคง” ที่อยู่บน”หอคอยงาช้าง” ใน”ส่วนกลาง” ของ”ประเทศ” ต้อง”รับรู้”คือ”ไทยพุทธ” ที่อยู่ในพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ท่ามกลาง”ไฟใต้” ที่”โหมกระหน่ำ” เป็นผู้ที่”สูงอายุ” เป็น”ส่วนใหญ่” ที่ไม่ยอม”โยกย้าย” ออกจาก”พื้นที่” เพราะความ”หวงแหนแผ่นดินเกิด” และ”รักษาทรัพย์สมบัติ” ที่เป็นของ”ครอบครัว วันนี้มี”คนไทยพุทธ” อยู่ในพื้นที่ เพียง 15 % ที่อาจจะไม่ถึง 50,000 คน หากคน”ไทยพุทธ” จำนวนนี้”โยกย้าย” ออกจาก”พื้นที่”ทั้งหมด เท่ากับความ”พ่ายแพ้” ของ”หน่วยงานความมั่นคง “ ต่อ”ขบวนการบีอารเอ็น” และ เท่ากับ”แผ่นดินปลายด้ามขวาน” จะตกเป็นของ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน”โดย”พฤตินัย” เพราะเรื่องของ”ไฟใต้” จะแก้ยากขึ้น”
พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผบ.ทบ. ที่มี”อายุราชการ” ถึงปี 70 ต้อง”ตั้งหลัก” กับ”ปัญหา”ของการ”ดับไฟใต้” ให้ดี ต้องกล้าที่จะ” งัด”กับ”ฝ่ายของ”การเมือง” ที่วันนี้เรื่องของการ”ดับไฟใต้” ไม่ได้อยู่กับ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี เพราะเธอยัง”อ่อนหัด” ในเรื่องของ”ปัญหาไฟใต้” ในขณะที่”ภูมิธรรม เวชยชัย” แม้จะมีตำแหน่งเป็น”รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง” และ”เสนาบดี”กระทรวงกลาโหม” แต่โดยข้อ”เท็จจริง” เป็นที่”รู้กัน”ว่าการ”ดับไฟใต้” ทุก”กรณี” มาจาก”การ”สั่งการ”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต “นายกรัฐมนตรี” ผู้ซึ่งเคย”ผิดพลาด” กับการ”ดับไฟใต้” มาแล้ว ในครั้งที่เป็น”นายกรัฐมนตรี” กองทัพ จึงต้อง”เป็นหลัก” ในการ”ดับไฟใต้” รวมทั้งปัญหา”ความมั่นคง” ในทุดด้านของ”แนวชายแดน”ของ”ประเทศไทย
เรื่องการ”พูดคุยสันติสุข”ที่เป็นข้อเรียกร้องของ”ภาคประชาสังคม” ของ”เอ็นจีโอ” และของ”กลุ่มผู้ต้องการเห็น”จังหวัดชายแดนภาคใต้”เป็น”เขตปกครองพิเศษ “หรือการ”ปกครองตนเอง” นั้น วันนี้ก็ไม่”เสด็ดน้ำ” เพราะ”เงื่อนไข” ในการ”เดินหน้า” เพื่อการ”พูดคุยสันติภาพ”ใน”บริบท”ของ” สหายใหญ่”หรือ”บิ๊กอ้วน” นั้น หากมีการ”พูดคุย” หรือ” เจรจา” สถานการณ์ความ”รุนแรง” ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ต้อง”ยุติ”ก่อน จึงจะมีการ”พูดคุย” และต้อง”พูดคุย”กับ”ผู้มี”อำนาจ” อย่าง”แท้จริง” ของ”บีอาร์เอ็น” เท่านั้น และขอให้มีการ”เปลี่ยนตัว” หัวหน้าคณะ”พูดคุย” ของ”บีอาร์เอ็น” จาก”หิพนี มะเระ” เป็น “บุคคล”อื่นๆ……ก็เห็นด้วยว่าถ้าจะ”พูดคุย”ต่อไป เรื่องแรกที่ต้อง”ยุติ” คือ”ปัญหาความรุนแรง” ในพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ต้องไม่ได้ ส่วน”เงื่อนไข” ที่ต้องการ”พูดคุย”กับ”ตัวจริง” ของ”บีอาร์เอ็น” น่าจะยากยิ่งกว่าการ”เข็นครกขึ้นภูเขา” เพราะ” วันนี้”บีอาร็เอ็น” เป็น”องค์กรลับ” ที่”หน่วยงานความมั่นคง”ก็ยังไม่รู้ว่า”โครงสร้าง”ของ”บีอาร์เอ็น” ใน”รัฐกลันตัน” มีใครเป็น”ประธาน” มีใครเป็น”เลขาธิการ” มีใครเป็น”ผู้นำจิตวิญญาณ” และทั้งสามคนใครเป็น”ผู้มีอำนาจ” เมื่อ”หน่วยงานความมั่นคง” ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใคร” คือผู้นำบีอาร์เอ็น” แล้วจะไป”เรียกร้อง”ขอ”พูดคุย”กับ”แกนนำ” ที่เป็น”ตัวจริง” ได้อย่างไร สุดท้ายก็จะถูก”ผู้อำนวยความสะดวก” ในการ”พูดคุย”ที่เป็น”ตัวแทน”ของ”รัฐบาลมาเลเซีย” ทำการ”อุปโหลก” คนใน”ขบวนการบีอาร์เอ็น” คนใดคนหนึ่ง ขึ้นมาเป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” นี่ก็เป็น”ตัวแทน” ที่ไม่ใช่”ประธาน” หรือ”เลขาธิการ” หรือ”ผู้นำจิตวิญญาณ” มาเป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” ที่ไม่ต่างอะไรกับการ”พูดคุย” ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ต้องถาม”ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ”สมช.” ว่า “สมช. ณ วันนี้ มี”รายละเอียด” ที่เกี่ยวกับ”โครงสร้าง”ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” แค่ไหน อย่างไร กล้าที่จะ”เปิดเผย” หรือไม่ว่า “บีอาร์เอ็น” มีใครเป็น”ประธาน” มีใครเป็น”เลขาธิการ”มีใครเป็น”ผู้นำจิตวิญญาณ “ ประเด็นนี้” สมช.” ต้อง”เปิดเผย” และต้อง”ชี้เป้า”ไปยัง”ผู้อำนวยความสะดวก” ในการ”พูดคุย” ว่า” เราต้องการที่จะ”พูดกับใคร” ใน”ขบวนการบีอาร์เอ็น” เอาให้ชัด ถ้า”ชี้เป้า” แล้วถูก”ปฏิเสธ” ก็แสดงให้เห็นว่าทั้ง” มาเลเซีย” และ”บีอาร์เอ็น” ไม่มีความ”จริงใจ” ในการใช้”เวทีการพูดคุย” เพื่อ”ยุติ” ปัญหาความ”ขัดแย้ง” ที่เกิดขึ้น วันนี้จึงค่อยประกาศที่จะไม่”พูดคุย” เพราะ”ป่วยการ” ในการใช้”งบประมาณ” ในสิ่งที่ไม่”เกิดประโยชน์”กับ”ขบวนการ”ของการ”ดับไฟใต้”……และที่น่า”อิดหนาระอาใจ” คือการ”ชัดเข้าชักออก” ของ”ทักษิณ ชินวัตร”ที่ผ่านทาง”ร่างทรง”ของ”รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง”ในเรื่องตัว”บุคคล” ที่จะทำหน้าที่ในการเป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” ก่อนหน้านี้มีชื่อของ”พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก” เป็น”หัวหน้าคณะพูดคุย” โดยให้”แสดงฝีมือ” ตั้งแต่เดือน”กุมภาพันธ์” เพื่อให้ไป”พูดคุย” แสดงฝีมือ” ให้”เดือนรอมฎอน” เป็นเดือนแห่ง”สันติ” ไม่ใช่”รอมฎอนเลือด” แต่ หลังจากที่ไม่เป็นผล เพราะ”รอมฎอน” ของ”ปีนี้” ยังมี”เหตุรุนแรง” เกิดขึ้นทั้งเดือน สุดท้ายจึงมี”กระแสข่าว”การ”เปลี่ยนตัว” ผู้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะพูดคุย จาก” พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก “เป็น” พล.อ.ชินวัตร แม้นเดช” อดีต” รองแม่ทัพภาคที่ 4 “ซึ่งกว่าจะมีการ”ตกผลึก” ยังไม่รู้ว่าจะ”เปลี่ยนตัวเล่น”อีกหรือไม่ และที่สำคัญ”ตัวเล่น” ที่มีความ”เหมาะสม” ในเรื่องของการทำหน้าที่”หัวหน้าคณะพูดคุย” เหลือน้อยมากแล้ว
เรื่อง”การเมืองท้องถิ่น” การ”เลือกตั้ง” ผู้บริหารและสมาชิก “เทศบาลนคร,เทศบาลเมือง”และ”เทศบาลตำบล” ที่เข้าสู่”โค้งสุดท้าย” ที่ไม่มี”ปรากฏการ” ของ”คืนหมาหอน” คณะกรรมการ การเลือกตั้ง หรือ” กกต. “ อย่าได้”เข้าใจผิด” ว่าไม่มีการ”ขายสิทธิ์”และ”ซื้อเสียง” เพราะ”การเลือกตั้ง” ทุกระดับของ”ประเทศไทย” เขามีการ”บริหารจัดการ” ในการ”ซื้อเสียงล่วงหน้า” ก่อนวัน”เลือกตั้ง”ไม่ต่ำว่า 7 วัน ดังนั้นเรื่องของ”คืนหมาหอน” จึงกลายเป็น”ตำนาน” ของการ”เลือกตั้ง”ไปแล้ว ก็ขอให้”ประชาชน” คิดให้ดี คิดให้ถูก คิดให้ถี่ถ้วน” ว่าจะ”เลือก”เพื่อ”แลก”กับ”เงิน” หรือเพื่อ”แลก”กับการได้”นักการเมือง” ที่ไม่”คอรัปร์ชั่น” และมี”วิศัยทัศน์” ในการ”พัฒนาบ้านเมือง”……แล้วพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สวัวดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก