สสว. จับมือ 2 มหาลัยดัง ม.อ. – มข. เดินหน้า “โครงการส่งเสริมและพัฒนาการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ SMEs ด้วย Soft Power ปี 2568” เพื่อยกระดับแนวคิดสร้างสรรค์ของเอสเอ็มอี ทั่วประเทศ สู่การดำเนินธุรกิจที่สามารถประยุกต์ใช้ทุนทางวัฒนธรรม ท้องถิ่น และภูมิปัญญาไทย (Soft Power) ต่อยอดเป็นสินค้าและบริการในเวทีระดับชาติและนานาชาติ
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการผู้อำนวยการ สสว. เผยว่า โครงการดังกล่าวมุ่งหวังพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วทุกภูมิภาค ผ่านกิจกรรมบ่มเพาะความรู้ แนะแนวทางการเริ่มต้นธุรกิจ สร้างแรงบันดาลใจ และสนับสนุนโอกาสในการพัฒนาต้นแบบธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้จริง โดยใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ ไทยเป็นจุดแข็งสำคัญ โดยเฉพาะใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหาร ท่องเที่ยว ออกแบบแฟชั่น และภาพยนตร์
ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับซอฟต์พาวเวอร์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย ซึ่ง สสว. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้สามารถใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
สำหรับขอบเขตการดำเนินกิจกรรมครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาคหลักทั่วประเทศ โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ร่วมดำเนินโครงการในพื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ในขณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ร่วมดำเนินโครงการในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่สนใจพัฒนาศักยภาพธุรกิจ สามารถเข้าร่วมกับหน่วยร่วมที่ดำเนินการในแต่ละภูมิภาคได้ตามสะดวก
ปัจจุบัน หน่วยร่วมดำเนินการทั้ง ม.อ. และ มข. ได้ดำเนินโครงการฯ ด้วยการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 1,000 ราย แสดงถึงความสนใจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต่อการสร้างธุรกิจจากรากฐานซอฟต์ พาวเวอร์ ของไทยอย่างเด่นชัด เพื่อเพิ่มโอกาสสู่การเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ประยุกต์ใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ ของไทย หลังจากการอบรมสัมมนาส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการแล้ว ทางหน่วยร่วมดำเนินการของโครงการฯ ได้เริ่มดำเนินกิจกรรมพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจ โดยการให้คำปรึกษาเชิงลึกจากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อาทิ แนวคิดการทำธุรกิจ, การจัดการธุรกิจ, การตลาด, การเงิน, การหาแหล่งทุน, การบัญชี, การเกษตร, การพัฒนาผลิตภัณฑ์, มาตรฐาน, การผลิต, การบริการ, การลดต้นทุน/เพิ่มประสิทธิภาพ, การออกแบบ, แฟชั่น, ภาพยนตร์, การท่องเที่ยว ฯลฯ อีกทั้งยังดำเนินกิจกรรมการเชื่อมโยงส่งต่อให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เพื่อสร้างและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการที่ยั่งยืนและเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนผ่านการจัดงานแสดงสินค้า โดยจัดขึ้นทั้งหมด 6 แห่ง
ประกอบด้วย วันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2568 ณ งาน Isan Creative Festival 2025 อีสานโชว์ พ(ร)าว Isan Soul Proud ใน โซน D-Kak Market ณ บริเวณลานกิจกรรม TCDC ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น / วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2568 ณ ลาน Beacon 2 ชั้น 1 CENTRAL WORLD กรุงเทพมหานคร / วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2568 บริเวณ Street food Market โซน One Sala ตลาดวันนิมมาน จังหวัดเชียงใหม่ / วันที่ 26-27 กรกฎาคม 2568 ณ ลานน้ำพุ ชั้น 2 CENTRAL WESTGATE จังหวัดนนทบุรี / วันที่ 2-3 สิงหาคม 2568 ณ ลานใจกลางเมือง ถนนเสน่หานุสรณ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา / วันที่ 30-31 สิงหาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมชั้น G CENTRAL Si Racha อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
นอกจากนี้ จะมีการนำผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจากการประเมินผลการเข้าร่วมในทุกกิจกรรมให้มีโอกาสเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับประเทศอีกด้วย
นางสาวปณิตา เผยอีกว่า การที่จะสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลได้นั้น ซอฟต์ พาวเวอร์ นับได้ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ และ สสว. ต้องการให้เอสเอ็มอีไทยเป็นทูตวัฒนธรรมที่จะช่วยเผยแพร่อัตลักษณ์ของไทยไปทั่วโลก
“สสว. มุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเอสเอ็มอี ที่ใช้ซอฟต์ พาวเวอร์ เป็นกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และขอเชิญชวนทุกท่านติดตามให้กำลังใจกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ของไทย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นพลังสร้างสรรค์ผ่านทางทุกช่องทางออนไลน์ของ สสว. รวมทั้งช่องทางของทั้งสองหน่วยร่วมดำเนินการ ม.อ. และ มข. ด้วยเช่นกัน” รก.ผอ.สสว. กล่าว