วันอังคาร, 17 มิถุนายน 2568

บิ๊กปู สั่ง ตม.สงขลา-กองสืบ ตม.6-ตชด.437-สภ.สะเดา ซีลชายแดนสกัดสองหนุ่มมาเลเซีย ขนซิมบ๊อกซ์เตรียมติดตั้งให้แกงค์คอลเซ็นเตอร์

16 มิ.ย. 2568
2

วันนี้ 16 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร  ,พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ,พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. , พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผบช.สตม.,พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา ,ว่าที่ พ.ต.อ.วุฒิภัทร นภาโชติ ผกก.สส.บก.ตม.6   สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา กองกำกับการสืบสวน บก.ตม.6 บูรณาการกำลังร่วมกับ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 และสถานีตำรวจภูธรสะเดา จับกุม  ผู้ต้องหา 2 ราย

1. นายยูจีน  อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย

2. นายตัน  อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย

ข้อหา ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร มีความผิดตาม มาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ ร่วมกันมีใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 6 พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 พร้อมของกลางชุดอุปกรณ์เครื่องซิมบ๊อกพร้อมเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ต จำนวนรวม 8 ชุดและอุปกรณ์อื่นๆรวมกว่า 46 รายการ

โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณถนนกาญจนวนิช พื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จว.สงขลา  ต่อมาพบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า CX5 หมายเลขทะเบียน PPMxx ขับเข้าด่าน จึงเรียกให้หยุดแล้วตรวจสอบ โดยมีนายยูจีน อายุ 37 ปี สัญชาติมาเลเซีย ขับขี่ นายตัน อายุ 25 ปี  สัญชาติมาเลเซีย นั่งโดยสาร เจ้าหน้าที่แสดงตัวขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย ผลการตรวจค้นพบเครื่องกระจายสัญญาณซิมบ๊อกซ์พร้อมเครื่องเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ตแบบเสียบซิมการ์ด จำนวน 4 ชุด ขณะเดียวกันพบกุญแจพร้อมคีย์การ์ดของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสะเดา จึงนำตัวทั้งสองคนไปตรวจค้นเพิ่มเติม ผลการตรวจค้นพบ เครื่องกระจายสัญญาณซิมบ๊อกซ์ พร้อมเราท์เตอร์สำหรับต่ออินเตอร์เน็ต เพิ่มอีก จำนวน 4 ชุดและอุปกรณ์อื่นๆอีกว่า 46 รายการ อยู่ในลักษณะกำลังเปิดใช้งาน เชื่อว่าเพิ่งมีการติดตั้ง จากการตรวจสอบอุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นเครื่องวิทยุคมนาคม เชื่อว่าลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยการนำกล่องเครื่องขยายสัญญาณเสียงมาปิดบังอำพรางกันเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ  การมีไว้ครอบครองต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และ ครอบครองเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ถูกจับให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นเพียงเครื่องเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานหลักฐานว่ามีการสั่งการจากคนสัญชาติเดียวกันให้หาจุดติดตั้งเครื่องซิมบ๊อกซ์ดังกล่าว ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับเครื่องซิมบ๊อกซ์เป็นอุปกรณ์ที่กลุ่มแกงค์ขบวนการคอลเซนเตอร์ ใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตประเทศไทย แปลงสัญญาณโทรมาหลอกคนไทยเพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญลักษม์ ผบช.สตม. กล่าวว่า คดีนี้เป็นผลจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวและขบวนการลักลอบนำเข้าของผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน ซึ่งสอดคล้องกับ นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยเร่งรัดการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว รวมถึงการควบคุมพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยและมั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์