เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ในการประชุมหารือแนวทางความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วย “การจัดการเรียนการสอนกับร่างอาจารย์ใหญ่” ณ ห้องประชุมสำนักงานคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการให้มีมาตรฐานระดับวิชาชีพ รองรับการผลิตบัณฑิตด้านกายภาพบำบัดที่มีคุณภาพ พร้อมปฏิบัติงานจริงในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองสถาบันเข้าร่วม อาทิ ผศ.จิรพรรณ พีรวุฒิ ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยทักษิณ, รศ.ดร.สุทธิพร บุญมาก รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและการเรียนรู้ และรักษาการแทนคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ พร้อมด้วยคณาจารย์และผู้บริหารฝ่ายสนับสนุนจากคณะสหเวชศาสตร์ ม.ทักษิณ ขณะที่ฝ่ายคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. นำโดย คณบดี รองคณบดีฝ่ายพัฒนาบุคลากรและวิทยาศาสตร์สุขภาพ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ การศึกษา และวิเทศสัมพันธ์ หัวหน้าสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และรองหัวหน้าสาขาฯ ฝ่ายกำกับดูแลหลักสูตรกายวิภาคศาสตร์ โดยมีหน่วยงานสนับสนุนการจัดการศึกษาร่วมประสานการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด
การหารือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการแลกเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรียนการสอนร่วมกันระหว่างสองสถาบัน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากทั้งฝ่ายบริหารและคณาจารย์ ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของหลักสูตร รวมถึงการดูแลมาตรฐานการเรียนรู้ที่ต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในประเด็นด้านร่างอาจารย์ใหญ่ ซึ่งถือเป็นหัวใจในการเรียนรู้ทางกายวิภาคศาสตร์เชิงลึกของนักศึกษา
คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้แสดงความตั้งใจในการพัฒนาหลักสูตรให้เทียบเท่าระดับมาตรฐานสากล และเล็งเห็นความสำคัญของแหล่งเรียนรู้จริงที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการศึกษาจากร่างอาจารย์ใหญ่ที่ต้องอาศัยการดูแลทั้งด้านจริยธรรมและมาตรฐานทางวิชาการสูงสุด ซึ่งทางคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ได้สะท้อนถึงแนวทางการบริหารจัดการ ตลอดจนบทบาทการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ภายในคณะ
ทั้งนี้ การพบหารือระหว่างสองสถาบันในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านสุขภาพระดับภูมิภาค ที่จะนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรที่ยึดโยงกับบริบทจริงของสังคม และสนับสนุนการผลิตบัณฑิตที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และจิตสำนึกทางวิชาชีพ เพื่อร่วมขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยในอนาคตอย่างยั่งยืน
