การเมือง เรื่อง”ผลประโยชน์” ของ”พรรคการเมือง” หรือของ”ประชาชน” วันนี้ “คนไทย” คงจะ”เห็นชัด” ขึ้นทุกวัน เพราะความ”ระส่ำระสาย” ของ”การเมือง” ที่อาจจะเห็นการ”ลาออก” ของ”นายกรัฐมนตรี” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” ในเดือน “ สิงหาคม” นี้หรือไม่ หรือ”แพทองธาร ชินวัตร” จะสวม”หัวใจนางสิงห์” ยืนหยัด ในตำแหน่ง”เสนาบดีกระทรวงวัฒนธรรม” ต่อไป เพื่อรอการการ”วินิจฉัย” จาก”ศาลรัฐธรรมนูญ” จากการณี”คลิปเสียง” การ”สนทนา” กับ”ฮุนเซ็น” เพราะ”เชื่อมั่น” ว่า” ผลการ”วินิจฉัย”ของ”ศาลรัฐธรรมนูญ” จะ”เป็นบวก” เพราะ”กองทัพ” ยังให้การ”สนับสนุน” ให้”พรรคเพื่อไทย” ไปต่อ โดยมี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”ตัวประกัน” ทาง”การเมือง” เพราะจะได้”ทักษิณ ชินวัตร” มาเป็น”นายกรัฐมนตรี” ด้วยอีกคนหนึ่ง โดยที่รัฐไม่ต้องจ่าย” เงินเดือน”….ดังนั้น เดือน สิงหาคม-กันยายน” จึงเป็นเดือนที่”สำคัญ” เพราะไม่เพียงแต่” อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีจะ”ตกสวรรค์” หรือไม่ แต่ยังมี”คดีความ”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ที่”รอลุ้น” การ”ตัดสิน” ทั้งใน”คดี 112” และ “คดี เทวดา ชั้น 14 อยู่ด้วย ….. แน่นอน ว่า ถ้า”คดีความ” ของ” สองพ่อ-ลูก“”แห่ง”ตระกูลชิน” ออกมาเป็น”ทางบวก” การเมืองไทย จะลด”อุณภูมิ” ของความ”ร้อนแรง” ลง”รัฐบาลเพื่อไทย แม้จะมี”เสียงปริ่มน้ำ” แต่ก็จะ”ประคับประคอง”เพื่อ”ไปต่อ ได้อีก “ระยะหนึ่ง” การ”ยุบสภา” จะไม่เกิดขึ้นในปี 2568 เพราะ”เพื่อไทย” จะใช้”ห้วงเวลา” นี้ในการ”สร้างผลงาน” ทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” เรื่องของการ”แก้ปัญหายาเสพติด” ที่ วันนี้” บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย” ใช้ตำแหน่ง”รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง” และ”เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย” สั่งการ ให้”ทุก”องคาพยพ” ทั้ง”ตำรวจ,ทหาร,ปปส.”และ”ปกครอง” เดินหน้าเพื่อ”สร้างผลงาน” ด้วยการ”จับกุม” ขบวนการค้ายาเสพติด”ในทุกพื้นที่ตามที่ได้”ประกาศ” ว่าภายใน”สามเดือน” ยาเสพติดต้องหมดจากประเทศไทย ก็”เชียร์” ให้ทำได้”สำเร็จ” เพราะ”ยาเสพติด” คือ”มหันตภัย”ของ”ประเทศ” อย่าง”แท้จริง”
แต่ที่”ไปเร็ว”กว่าที่”คาดคิด” คือ”พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” สส. จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร” คนที่ 1 ที่ถูก”ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้มูล”ความผิด”ใน”มาตรา 144” พ้นตำแหน่ง”รองประธานสภาฯ” และที่”สำคัญ” ถูก”ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เสียดายนะกับความเป็น” นักการเมืองคุณภาพ” ของ”พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน”ที่ต้อง”เว้นวรรค” จากเวที”การเมือง” ในครั้งนี้….ก็ต้องยอมรับอย่าง”หน้าชื่นตาบาน” ว่าไม่มี”ยุคไหน” ที่”องค์กรอิสระ” ทั้ง”ศาลรัฐธรรมนูญ” ทั้ง”ปปช.”ทั้ง”กกต.” และ อื่นๆ จะกลายเป็น”องค์กร” ที่มีงาน”ล้นมือ” จากการ”ฟ้องร้อง” เพื่อ”เอาผิด”กับ”นักการเมือง” ทั้งในเรื่องการ”ทุจริต” ทั้งในเรื่องความผิด”จริยธรรม”และ”คดีอาญา” แม้แต่”สมาชิกวุฒิสภา” ก็ยังถูก”กล่าวหา” ว่าเป็น”อั้งยี่ซ่องโจร” เป็นยุคที่”การเมือง”ของ”ประเทศไทย” อยู่ในภาวะของการ”เสื่อมทรุด” อย่าง”แท้จริง”…..ทั้งหมด”มีส่วน” มาจาก”รัฐบาล” ที่ไม่”ใส่ใจ” ในเรื่องการ”ทุจริตคอร์รัปชั่น” ที่เป็น”รากเหง้า” ของ”ปัญหา” วันนี้”ประเทศไทย” มีการ”คอร์รับปชั่น” ที่”รุนแรง”มาก ทั้งใน”แวดวง”ของ”การเมือง” ใน”แวดวง”ของ”หน่วยงานรัฐ”ของ”ข้าราชการ” และใน”องค์กรเอกชน” สารพัดการ”โกงกิน” เต็มไปหมดในทุก”องคาพยพ” มีที่ไหนการ”ประมูลการก่อสร้าง”ของ”หน่วยงานรัฐ” ต้องมี”เงินทอน”ถึง 50 % ถ้าเรื่องการ”ทุจริตคอร์รัปชั่น”หรือ”ฉ้อราษฎร์บังหลวง” ยังไม่ได้รับความ”สนใจ” จาก”รัฐบาล” เชื่อเถอะ “หายนะ” ของ”ประเทศชาติ” อยู่ไม่ไกล
เรื่อง”ภาษีทรัมป์” แม้จะถูก”เรียกเก็บ”เพียง 19 % ก็ อย่าเพิ่ง”กระดี๊กระด๊า” ดีใจว่าเป็นความ”สำเร็จ” ของ”คณะขุนคลัง” ในการ”เจรจาต่อรอง” เพราะ”ดีลสุดท้าย” ที่”ไทย”ได้รับการ”ลดหย่อนผ่อนผัน” จาก”อัตราภาษีส่งออก 36 % มาเป็น 19% มาจากการเป็น”เด็กดี” ที่”ว่านอนสอนง่าย”ที่”ทหารไทย” หยุดการ”สู้รบ”กับ”กัมพูชา” ตามที่ถูก” โดนัลด์ ทรัมป์” ทำการ”บีบ” ของ”รัฐบาลเพื่อไทย”ต่างหาก และถ้า”พิจารณา” ให้”ถี่ถ้วน” จะพบว่าใน”ข้อตกลง” เรา”เสียเปรียบ” ทั้งในทาง”ภาษี” และในการ”การค้า”อย่าง”มหาศาล”รวมทั้งการให้”สิทธิพิเศษ” แก่” สหรัฐอเมริกา” อีก”หลายกระบุงโกย”….ที่”สำคัญ” หลังจากนี้ไป”รัฐบาล” จะมี”มาตรการ” ในการ”ช่วยเหลือ” ภาค”เอกชน” ที่ต้อง”แบกรับ”กับ”มาตรการ”ของ”ภาษีทรัมป์” อย่างไร นี่ต่างหากที่”ภาคเอกชน” ต้องการเห็น และเป็น”มาตรการ” ที่”จำเป็น” โดยไม่ทิ้งให้”ภาคเอกชน” ต้อง”โดดเดี่ยว” ในการ”ต้องสู้” กับ”ภัยคุกคาม” จาก”อัตราภาษีของทรัมป์” ภาคเอกชนนั้น อย่างไรเสีย ทุกคนต่างมี”วิธีการ” ในการ”เอาตัวรอด” จาก”วิกฤตการค้า” อยู่แล้ว แต่ถ้า”รัฐบาล” เป็น”รัฐบาล”ที่ดีและมี”กื๋น” ในการ “บริหารประเทศ” ก็ต้องรู้ว่า”ควรที่จะช่วยเหลือ” ภาคเอกชนอย่างไร และต้อง”ทำจริง”ไม่ใช่”จ้อไปครั้งๆ อย่าง”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี”…..เพื่อนบ้านของเรา”อย่างมาเลเซีย” ที่”เศรษฐกิจตกต่ำ” ประชาชนทั่วประเทศ ออกมา”เดินขบวน” ขับไล่”อันวาร์ อิบราฮิม “ นายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังถูก”ขับไล่” อันวาร์ อิบราฮิบ” ประกาศ”ลดภาษี” และมี”มาตรา”ออกมาหลายอย่างในการ”แก้ปัญหา” ตามที่”ประชาชน” ออกมา”เรียกร้อง” แสดงว่า”รัฐบาล”ของ”มาเลเซีย” ให้ความ”สำคัญ” กับ”เสียง”ของ”ประชาชน” ผิดกับ”รัฐบาลเพื่อไทย” ที่ไม่ได้ให้ความ”สำคัญ” กับการ”ชุมนุม” เพื่อ”เรียกร้อง” เพราะ”เพื่อไทย” คิดเป็นเพียงอย่างเดียวว่า”ประชาชน” ผู้มา”ชุมนุม” ผู้มา”เรียกร้อง” เป็นผู้ที่เป็น”ฝ่ายตรงข้าม”
เรื่อง”ข้อพิพาท” ชายแดนด้าน”ตะวันออก”ของ”ประเทศไทย ระหว่าง”ไทย”กับ”กัมพูชา” แม้จะมีการ”ลงนาม” เพื่อ”หยุดยิง” และเข้าสู่การ”เจรจา” เพื่อหา”ทางออก”จากความ”ขัดแย้ง” โดยการเข้ามาเป็น”คนกลาง” ของ”มหาอำนาจ” อย่าง”สหรัฐอเมริกา” เข้ามา”บีบ” ให้”รัฐบาลไทย” ยอม”หยุดยิง” ในขณะที่”ยุทธการ”ของการ”ต่อสู้” ยังอยู่ระหว่าง”เข้าด้ายเข้าเข็ม”เป็นเหตุให้การยึด”พื้นที่สำคัญ” อย่าง”ปราสาทตาควาย” และ”เนิน 305” ไม่ประสบความสำเร็จ….เหตุที่”รัฐบาล”ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” และมี”ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่เป็น”คนสนิท” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี” ใน”ฐานะ”ของ”รักษาการนายกรัฐมนตรี” รีบ”รับปาก” กับ”โดนันด์ ทรัมป์” แบบ”ปัจจุบันทันด่วน” ซึ่งอาจจะไม่ได้”ปรึกษาพรรคร่วม” และอาจจะไม่ได้”ปรึกษา” ผู้นำ”เหล่าทัพ” ก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่มี”ข่าวนี้” ปรากฏให้เห็น ซึ่งการที่” รัฐบาล” ตัดสินใจอย่าง”รวดเร็ว” ในการเข้าสู่การ”เจรจา”กับ”กัมพูชา” เพื่อ”หยุดยิง” แสดงให้เห็นว่า” ระหว่าง”อธิปไตย” และการ”เสียแผ่นดิน” กับเรื่องการลด”อัตราภาษี”เพื่อการ”ส่งออก” รัฐบาลชุดนี้ เลือกเรื่องของ”ภาษีการส่งออก”โดย”ยินยอม” ที่จะ”สูญเสียดินแดน” ใช่หรือไม่ เรื่องนี้ ยังเป็นเรื่องที่”ค้างคาใจ” ของคน”ส่วนใหญ่” ใน”ประเทศ” เพราะ”ยุทธภูมิ”การ”รบพุ่ง” ทั้งที่”ภูมะเขือ,ช่องบก,ช่องอานม้า,ปราสาทตามเมือนธม” และ”ปราสาทตาควาย” เหล่า”ทหาร,ตำรวจตระเวนชายแดน” และ” ทหารพราน” ต่าง”เอาเลือดทาแผ่นดิน” มีการ”พลีชีพ” และ”ทุพลภาพ” ไปกับการ”รักษาแผ่นดิน” ครั้งนี้ จำนวนไม่น้อย “รัฐบาล” คิดถึงความ”เจ็บปวด” ของ”ทหาร,ตำรวจ” อย่างไร
วันนี้”รัฐบาล”กำลังเข้าสู่”โหมด”ของการ”เจรจา” ในเรื่อง”พื้นที่แนวชายแดน” ที่มีการ”อ้างสิทธิ” ระหว่าง”ไทย”กับ”กัมพูชา” โดยมี” อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็น”คนกลาง” ในการ”ไกล่เกลี่ย” ถามว่า”รัฐบาล” มี”นโยบาย” ในการ”เจรจา”อย่างไร เพื่อการ”ได้เปรียบ” ฝ่ายของ”กัมพูชา” ประเด็น”สำคัญ” คือ”การ”เจรจา”ภายใต้”เอ็มโอยู 43” ที่”ไทย”ยืนยัน” การใช้”แผนที่” 1 ต่อ 50,000” และ”กัมพูชา” ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 “ ถ้าต่างฝ่ายต่าง”ยืนยัน” ในการใช้”แผนที่”ที่ต่างกัน การ”เจรจา” ไม่มีทางที่จะหา”จุดลงตัว” สุดท้ายคือ”ล้มเลิก” การ”เจรจา” หรือเป็นการ”เจรจา”แบบ”คาราคาซัง” ไม่มี”จุดจบ” เพื่อให้”กัมพูชา” มีเวลาในการ”ตั้งหลัก” เพื่อ” ปรับขบวนทัพ” และ”ยุทโธปกรณ์” เพื่อ”เปิดศึก”กับ”ทหารไทย” ครั้งใหม่ เพราะ”เข็มมุ่ง” ของ”กัมพูชา” คือการ”ยึดครอง” ปราสาทตาเมือนธม,ภูมะเขือ,และดินแดนบางส่วนของ”ช่องจอม,ช่องบก” โดยไม่มีการ”เปลี่ยนแปลง” ที่”สำคัญ”ที่สุด ความ”ขัดแย้ง”ในกรณี”พิพาท” ดินแดน”ครั้งนี้ “รัฐบาล” จะต้อง”ไม่”ตีโง่” ให้”ประเทศไทย” กลายเป็น”พื้นที่” ให้”มหาอำนาจ” อย่าง”พญาอินทรีย์” และ”พญามังกร”จน”ประเทศไทย” กลายเป็น”สงครามตัวแทน”…..ดังนั้นเมื่อ”รัฐบาล”กลายเป็น”ผู้นำประเทศ” ที่”ประชาชนส่วนใหญ่” ไม่ให้ความ”เชื่อถือ” และเห็นว่า”คนใน”ตระกูลชิน” มี”ผลประโยชน์” กับ”ตระกูลฮุน”และมีความ”เป็นดอง” ของทั้ง”สองตระกูล” “กองทัพ” จึงต้อง”เป็นหลัก” ให้กับ”ประเทศชาติ” ในการ”รักษาอธิปไตย” และ”บูรณภาพแห่งดินแดน” ของประเทศไทย ในด้าน”ตะวันออก” ที่ต้องมี”ความพร้อม” ในการ”รับศึกสงคราม” ครั้งใหม่ ที่ต้องเกิดขึ้นอย่าง”หลีกเลี่ยง”ไม่ได้ “กองทัพ” ต้องกล้าที่”เห็นแย้ง” กับ”รัฐบาล” ถ้าเห็นว่า” นโยบาย”ของ”รัฐบาล” เป็น “นโยบาย” ที่”สุ่มเสี่ยง” ต่อความ”เสียหาย” ต่อ”ดินแดน” และความ”มั่นคง”ของ”ประเทศชาติ” ซึ่งวันนี้” กองทัพ” มี”กฎอัยการศึก” เป็น”เครื่องมือ” ที่”จำเป็น” ต้องใช้ในการ”รักษาอธิปไตย”ของ”ประเทศ โดยไม่ต้อง”เกรงใจ” หากเห็นว่า”รัฐบาล”
ที่”สำคัญ” ถ้า”วิธีการ”ของ”กัมพูชา” ยังมี”เป้าหมาย” ในการ”ฆ่าพลเรือน”และ”บ้านเรือน” สถานที่”ราชการ” ใน”แนวชายแดน” กระทรวงต่างๆ ที่”รับผิดชอบ” จะต้องมี”แผน”ในการ”รับมือ” ที่มี”ประสิทธิภาพ” เพื่อ”ป้องกัน” ความ”สูญเสีย” ทั้ง”ชีวิต” และ”ทรัพย์สิน” ของ”ประชาชน” แน่นอน”สงคราม” ไม่ใช่”สิ่งดีงาม” ถ้า”หลีเลี่ยง”ได้ต้อง”หลีกเลี่ยง” แต่เมื่อ”กัมพูชา” เป็นผู้”กระหายสงคราม” และเป็น”อันธพาล” สิ่ง”สำคัญ”คือ”แผน”ในการ”รับมือ”…..และอย่าง”มั่นใจ”ว่า”สหรัฐอเมริกา” จะ”สั่งการ” กับ”กัมพูชา” ได้ทุกอย่าง เพราะแม้แต่”จีน” ที่ให้การ”สนับสนุน”ต่อ”กับพูชา” อย่าง”มากมาย” สุดท้าย”กัมพูชา” ยัง”พยายาม”ที่จะ”สลัดทิ้ง” เพื่อหันมาอยู่ภายใต้”อุ้งเท้า” ของ”พญาอินทรีย์” ที่”กัมพูชา” เคย”สลัดทิ้ง” ตั้งแต่ปี 2017 และ กลับมาเป็น”พันธมิตร” อีกครั้ง ทั้งหมดคือ”สันดาน”ของ”ลูกหลานพระยาละแวก” ที่ใน”อดีต”เป็นอย่างไร”ปัจจุบัน” ก็ยังเป็นอย่างนั้น
อีกเรื่องที่ยัง”ค้างคาใจ” คือเรื่อง”เสาสัญญาณอินเตอร์เน็ต”และ”โทรคมนาคม” ที่”ทหารกัมพูชา” ติดตั้งเป็นเครื่องมือ”สื่อสาร” ที่”ภูมะเขือ” ก่อนที่”ทหารไทย”จะได้”ยึดได้” “เสาสัญญาณโทรคมนาคม” เป็นของ”ค่ายมือถือไหน” และ”ตัวแทน”ใน”พื้นที่” คนไหน ที่มีส่วน”เกี่ยวข้อง” เรื่องนี้” กสทช.” อย่า”อ้ำอึ้งอู้อี้” ว่า”ตรวจไม่พบ” หา”หลักฐาน” ว่าเป็น”ของใคร”ไม่ได้ และที่”สำคัญ” วันนี้”เสาเถื่อน” ใน”แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา” มีอยู่”มากน้อย” เท่าไหร่ “กสทช.” มีการ”สำรวจตรวจสอบ” หรือไม่ โดยเฉพาะด้าน” อ.กาบเชิง” จ.สุรินทร์ ที่มี”บ่อนการพนัน” ของ”กัมพูชา” ตั้งอยู่ 2 บ่อน และมีแก๊งค์”คอลเซ็นเตอร์” ในพื้นที่นั้นด้วย “ธุรกิจสีเทา” เหล่านี้มีการใช้”ระบบโทรคมนาคม” จาก”ฝั่งไทย” หรือไม่
”มหากาพย์”ที่ดิน”เขากระโดง”จบลงด้วยการยึดกลับมาเป็น”ของแผ่นดิน”ภายใต้การ”เดินเกม” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็น”นายกรัฐมนตรีตัวจริง” ผ่านทาง”เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช.มหาดไทย” เมื่อ”เขากระโดง” จบได้ด้วย”กฎหมาย” ต่อไปก็ต้องดูเรื่องของ”ที่ดินอัลไพน์” และ”ที่ดินที่”ผิดกฎหมาย” ในพื้นที่ของ”อำเภอปากช่อง” และ อื่นๆ ของ”นักการเมือง” ที่ต้องทำให้”เด็ดขาด” และ”รวดเร็ว” ซึ่งเป็นเรื่องที่”เดชอิศม์ ขาวทอง” ต้องทำให้เป็น”มาตรฐาน” เช่นกัน….ข่าวว่า”เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ”นายกชาย” รมช มหาดไทย /เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สส.เขต 5 สงขลา”เปิดบ้าน” เพื่อ”พบปะประชาชน” ได้ให้”ยาหอม” กับ”ประชาชน”ว่าจะนำที่ดิน”ทุ่งเลี้ยงสัตว์” ที่ประชาชนเข้า”ครอบครอง” เพื่อ”ทำกิน” มาออก”เอกสารสิทธิ์” ให้กับ”ประชาชน” เรื่องนี้” รมต.ที่รับผิดชอบในการดูแล”กรมที่ดิน” ทุกคนก็”หาเสียง” อย่างนี้ แต่ก็ยังไม่เห็น”รมต.คนไหน ที่”กำกับดูแลกรมที่ดิน” ทำได้”สำเร็จ” แม้แต่คนเดียว ครั้งนี้ก็ขอให้”กำลังใจ” และ”เอาใจช่วย” ให้”เดชอิศม์ ขาวทอง” ทำได้”สำเร็จ” เพราะนี้คือความต้องการของ”ประชาชนทุกคน” ที่”ทำกิน” ใน”ทุ่งเลี้ยงสัตว์”
จบลงด้วยการ”ลาออก”เอง สำหรับ”สิรดนัย พลายด้วง” หรือ” สจ.กอล์ฟ” ลูกชาย”หัวแก้วหัวแหวน”ของ” โกถึก” สส.สมยศ พลายด้วง” สส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูก” แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกับพวก” ทำร้ายร่างกายของ”ตำรวจตระเวนชายแดน” ที่ทำหน้าที่”ควบคุมหน่วยเลือกตั้ง” โดยไม่ต้องให้”สภา อบจ.”ต้อง”ออกแรง” ส่วนเรื่อง”คดีความ” นอกจากเรื่อง”ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่”แล้ว ยังมีเรื่องของ”พนันออนไลน์” เรื่อง”เส้นเงิน” ที่”ผิดกฎหมาย” อีกหลายคดี ที่ต้อง”ต่อสู้”ใน”กระบวนการยุติธรรม”อีก”ยาวนาน”…..ส่วน”สส.คนดัง”อีกคนของ”จังหวัดสงขลา” ที่เคยต้องคดีเรื่อง”การพนันออนไลน์” ที่”เจ้าตัว” บอกว่าเรื่อง”จบแล้ว” โดย”พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง”ข้อเท็จจริง คดี”การพนันออนไลน์” อัยการ”สั่งไม่ฟ้อง”เป็น”ของจริง” แต่”สำนักงานตำรวจภาค 9” มีความ”เห็นแย้ง” เรื่องจึงต้องรอการ”ชี้ขาด”จาก”สำนักงานอัยการสูงสุด” เรื่องจึงยัง”ไม่จบ”…..อีกเรื่องที่เป็นเรื่อง”อัปยศ” ของ”จังหวัดสงขลา”คือเรื่อง”อความเรี่ยมหอยสังข์” ที่”สร้างไม่เสร็จ” ทั้งที่”เบิกเงิน”ไปแล้ว 1,400 ล้านบาท และ”ทิ้งงาน”ไปแล้ว 15 ปี วันนี้”ข่าวว่า”นายกองค์การบริหารจังหวัดสงขลา”สุพิศ พิทักษ์ธรรม” กำลังเข้ามา”แก้ปัญหา” เพื่อ”ดำเนินการต่อ” โดยจะ”สร้างให้แล้วเสร็จ” แต่ยังคง”วัตถุประสงค์เดิม” นั้นคือเป็น”อควาเรี่ยม” แต่มี”ส่วนประกอบอื่น” เช่น”หอประชุม” และที่จำหน่าย”สินค้าโอท็อป” และ อื่นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างขอให้” เจ้าของเรื่อง” คือ”กรมอาชีวะศึกษา” และ”เจ้าของกระทรวง” คืนที่ดิน” ให้กับ”กรมธนารักษ์” เพื่อที่”องค์การบริหารท้องถิ่น” จะได้เข้าไป”ดำเนินการ”ได้ตาม”กฎหมาย” ก็ต้องรอดูว่า” เจ้ากระทรวง” จะว่าอย่างไร
เรื่องดีๆอีกเรื่อง ที่”จังหวัดสงขลา” หลังจากที่”ดำเนินการ” ทำให้”คลองอาทิตย์” ในพื้นที่”คาบสมุทรสทิงพระ” ใช้ประโยชน์ในการ”เกษตร”ได้แล้วค่อนข้าง”สมบูรณ์” ช่วยให้”ชาวบ้าน” มีน้ำในการทำนาทำสวน แก้ปัญหา”น้ำแล้ง” ของคนใน”คาบสมุทรสทิงพระ”ไปได้ “ธำรง เจริญกุล” อดีต ผวจ.สงขลา ก็หันมาหา”งบประมาณ” เพื่อ”สมทบทุน” ในการ”ก่อสร้างโรงพยาบาลสทิงพระ” จ.สงขลา ที่เป็น”บ้านเกิด”โดยการ”ทอดผ้าป่าสามัคคี” นำเงิน”สมทบทุน” ได้เงินกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้””ธำรง เจริญกุล” ก็เป็น”หัวเรือใหญ่” ในการ”มีส่วน” การ”ของบประมาณ” ในการ”ก่อสร้างอาคารแห่งใหม่”ของ”โรงพยาบาลสงขลา”ไปแล้ว
เรื่องการ”ซ้อมทรมาน”หรือไม่”ระหว่าง”เจ้าหน้าที่”กับ”ผู้ถูกจับกุม” ไม่ได้”เป็นข่าว” มานานมากแล้วในพื้นที่ของ”สามจังหวัด” และ”สี่อำเภอ”ของ”จังหวัดสงขลา” ล่าสุด”ญาติๆของ”นายนรินทร์”ขอ”สงสนนามสกุล” ผู้”ต้องหา” ที่”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ทำการ”ควบคุมตัว”และอยู่ใน”กระบวนการซักถาม” ได้”ร้องทุกข์กล่าวหา ” ว่า”นายนรินทร์” ถูก” เจ้าหน้าที่” ทำร้าย”ได้รับบาดเจ็บ” เรื่องนี้”คณะกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ” ( กสม.) เป็นผู้”รับเรื่องร้องเรียน” ก็ต้องมีการ”สอบสวน” ข้อ”เท็จจริง”กันต่อไป…..ในขณะที่” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า “ก็ได้”ชี้แจง”ต่อ”สาธารณชน”ว่า ในวันที่” เจ้าหน้าที่” เข้าทำการ”จับกุม” นายนรินทร์ ที่ บ้านพัก หมู่ 3 ต.น้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี นายนรินทร์ ได้”วิ่งหนี” ระยะทาง 150 เมตร และ “สดุดล้มลง” บาดแผลที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากการ”สดุดล้ม” ใคร ผิด ใคร ถูก” ต้องรอผลการ”ตรวจสอบ”ของ”แพทย์” เป็น”หลักฐาน” แต่โดย”ข้อเท็จจริง” นับตั้งแต่” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” เป็น”แม่ทัพภาคที่ 4” และ”ผอ.กอ.รมน.ภาค 4” มีการ”จับกุม” กลุ่ม”แนวร่วม”ในพื้นที่”สามจังหวัด” และ”สี่อำเภอ”ของ”จังหวัดสงขลา” ได้เป็น”จำนวน”ไม่น้อย แต่ไม่เคยมีการ”วิสามัญฆาตกรรม”เกิดขึ้น แม้แต่รายเดียว ดังนั้นการ”ซ้อมทรมาน” ผู้ที่ถูก”จับกุม” จึงไม่น่าจะ”เป็นไปได้”….ส่วนความคืบหน้าในการ”สืบสวนสอบสวน”เพื่อการ”จับกุม” กลุ่ม”แนวร่วม”ในการวาง”ระเบิดแสวงเครื่อง” ในพื้นที่เมือง”เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว” ใน”จ.ภูเก็จ,พังงา,และ”กระบี่” นั้น”พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล” ผกก.สส.จชต. ภาค 9 เปิดเผยว่า มีการ”ออกหมายจับ” ผู้”ต้องหา”ไปแล้ว 26 คน จับได้แล้ว 5 คน นี่ก็นับเป็น”ข่าวดี” สำหรับการ”ดับไฟใต้”
และที่ต้อง”จับตา” และ”วิเคราะห์” ถึง”สถานการณ์” ใน”ปัจจุบัน” ที่การ”ก่อเหตุ”ลดความถี่ลง มาจาก”สาเหตุอะไร” หรือมีการ”รอคอย” เพื่อการ”ก่อเหตุใหญ่” พร้อมๆกัน”หลายพื้นที่” เรื่องนี้”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าต้องไม่”ประมาท” และต้องมีงาน”การข่าว” ที่”ชัดเจน” แต่การที่”เหตุร้ายลดลง” ก็เป็น”ข่าวดี” เพราะลดการ”ก่อเหตุหนึ่งวัน”ก็ลดความ”สูญเสีย”ไปได้ “หนึ่งวัน” ไม่มีการ”ก่อเหตุหนึ่งสัปดาห์ก็เท่ากับ”ลดความสูญเสีย”ไปได้”หนึ่งสัปดาห์” เป็น”โชคดี”ของ” เจ้าหน้าที่” และ”ประชาชน”
คนร้าย”ปฏิบัติการอุกอาจ” ใช้”อาวุธสงคราม” ยิง”กำนันเล้น” ”นายบัญฑิต รองพล” ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน” อ.ห้วยยอด จ.ตรัง “เสียชีวิต” คนตายเป็น”กำนันมือปราบ” คดีนี้ ต้องดู”ฝีมือ”ของ”พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ สำคัญ” จังหวัดตรัง” มีการ”ปราบปรามอาวุธสงคราม” มาโดยตลอด แต่ก็ยังมีทั้ง”มือปืน” และ”อาวุธสงคราม” ในพื้นที่ รวมทั้งยังมี” เจ้าพ่อ”ที่ดูแล”ซุ้มมือปืน” อีก”หลายซุ้ม”ก็ต้องเป็น”หน้าที่”ของ” พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตะโมทนียกุล” ผบก.ภ.จว.ตรัง ในการ “ขุดรากถอนโคน” เพราะ” ตรัง” ยังเป็น”พื้นที่” ซึ่งมีการ”ก่อเหตุอุกฉกรรจ์” ที่”แซงหน้า” จังหวัดพัทลุง”ไปแล้ว
เรื่อง”สวนปาล์ม” ที่อยู่ใน”ที่หลวง” และหมด”สัมปทาน” ไปแล้ว แต่”นายทุน” ยังให้”ลูกน้อง” ที่ส่วนหนึ่งเป็น” เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นผู้ควบคุมดูแล” เพื่อ”เก็บเกี่ยวผลประโยชน์” และมี”กลุ่ม”อิทธิพล” อีก”หลายกลุ่ม” ที่เข้านำ”ประชาชน” ซึ่งไม่มีที่”ทำกิน” เข้าไป”บุกรุก” และ”แบ่งปัน” จนกลายเป็น”การใช้”อิทธิพล” ใช้”อาวุธสงคราม” ในการ”ข่มขู่” เหมือน”บ้านป่าเมืองเถื่อน” ทั้งใน” จ.สุราษฎร์ธานี” และที่” จ.กระบี่” เรื่องนี้”เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เสนาบดีกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม” รวมทั้ง”กระทรงมหาดไทย” ทำไมไม่”จัดการ” ให้เป็นไปตาม”กฎหมาย” มี”อะไร” ใน”กอไผ่” หรือเปล่า เพราะผู้ที่เป็นผู้”สัมปทาน” ส่วนใหญ่มี”นักการเมือง” เป็น”แบ็คอัพ”….ส่วน”ชายแดน”ด้าน”จังหวัดชุมพร” ที่”มี”ผู้นำท้องที่” ร่วมมือกับ”นายทุน” ส่ง”รถแทรกเตอร์-แบ็คโคร” เข้าไป” ไถที่ใน”ชายแดนไทย-เมียนมา” ในเขต”ยึดครองของ” กระเหรี่ยง” ที่เป็นกลุ่ม”ชาติพันธุ์” และนำ”ที่ดิน” มา”แบ่งขาย” ให้กับ”ผู้ต้องการที่ดิน”ทำกิน” มีการ”เปิดเส้นทางเถื่อน” ใน”แนวชายแดน”ถึง 10 กว่า”เส้นทาง” เพื่อเป็น”เส้นทาง เข้า-ออก” จำได้ว่า”พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” ผบ.ทบ. ได้”สั่งการ” ให้”กองทัพภาคที่ 4” ทำการ”ตรวจสอบ” นี้เวลา”ล่วงเลย” มากว่า 3 เดือน ผลตรวจสอบเป็นอย่างไร และได้”ดำเนินการ” ในการ”เอาผิด” กับใครบ้างแล้ว” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ ต้อง”แถลง”ให้”ประชาชน”ได้รับรู้ ….เพราะ”ล่าสุด” เรื่องยัง”ไม่จบ” มี”นายอำเภอ” คนหนึ่งในพื้นที่”ชายแดน” ที่มี”ปัญหา” มีการ”แจ้งความจับ” ผู้ใหญ่บ้าน กับ” นายทุน” เพราะมี”หลักฐาน” ในการ”สนทนา” เรียก”เก็บเงิน”จาก”กลุ่มทุน” ผู้อยู่เบื้องหลัง อ้างว่าต้อง”จ่าย” ให้กับ”นายอำเภอ” ในการ”นำเครื่องจักร” เพื่อเข้าไป”บุกรุก” พื้นที่ใน”เมียนมา”….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก
