เรื่องของ”การเมือง” เป็นเรื่องที่”เข้าด้ายเข้าเข็ม”ทั้งเรื่องของ”แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถูก”ศาลรัฐธรรมนูญ” สั่งให้”หยุด” การ”ปฏิบัติหน้าที่” จาก”คลิปเสียง” ในการ”สนทนา”กับ”ฮุนเซ็น” และถูก”สมาชิกวุฒิสภา”ยื่นเรื่อง” ให้”ศาลรัฐธรรมนูญ” ตรวจสอบจนมี”คำสั่ง” จาก”ศาลรัฐธรรมนูญ” ให้ต้อง”หยุดปฏิบัติหน้าที่” จนกว่าจะมีคำ”วินิจฉัย” จาก” ศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่ง”กูรูทางกฎหมาย” และ”กูรูทางการเมือง” ต่างมีความเห็นว่า” แพทองธาร ชินวัตร” จะต้องจบ”ชีวิต” ทาง”การเมือง”เช่นเดียวกับ” เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูก”ฟ้อง” ในเรื่องของ”จริยธรรมนักการเมือง” และความไม่”ซื้อสัตย์สุจริต” ….. มีการ”วิเคราะห์”ว่า “แพทองธาร ชินวัตร” จะมีการ”ลาออก” ก่อนที่”ศาลรัฐธรรมนูญ”จะทำการ”วินิจฉัย” เพราะจะเป็น”ผลดี”กว่าที่”เสี่ยง” ใน”ตายดาบหน้า” โดย”คาดการ” ว่า”ศาลรัฐธรรมนูญ” จะ”วินิจฉัย” ที่”เป็นคุณ” มากกว่าจะ”เป็นโทษ” ที่สำคัญ” มี”ปกาศิต” จาก”ทักษิณ ชินวัตร” ผู้เป็น” นายใหญ่” และ”พ่อนายกฯ” ว่า”ไม่ลาออก” เป็นไรเป็นกัน เพราะ”มั่นใจ”ใน”ดีลลับ” ว่า”เพื่อไทย” ยังได้”ไปต่อ” และ”นายกรัฐมนตรี” ยังชื่อ” แพทองธาร ชินวัตร” เช่นเดียวกับที่ “คดี 112 “ และ”คดีเทวดาชั้น 14” ก็เป็นได้ ว่าไม่”ระคายผิว” หลังเดือน”กันยายน” เพื่อไทย” จะเป็น”พยัคฆ์เสียบปีก” และ”ทักษิณ ชินวัตร” จะ”บินปร๋อ”ไป”ทั่วโลก” นั้นคือความเชื่อของฝั่ง”ทักษิณ ชิวัตร” แต่”ความจริง” เป็นอย่างไรเป็นเรื่อง”ดุลพินิจ” ของ”ศาลสถิตยุติธรรม”และของ”ศาลรัฐธรรมนูญ”การ”ต่อสู้”ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ณ “คาบนี้” จึงเป็นการ”ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย” แบบนี้คือ”ตัวตน” ที่แท้จริงของ” ทักษิณ ชินวัตร” ที่ยอมแม้แต่เอา”อนาคต”ทาง”การเมือง” ของ”ลูกสาว” เป็น”เดิมพัน”และอาจจะเป็นเพราะว่า”เพื่อไทย” ยังมี”ชัยเกษม นิติศิริ” เป็น”แคนดิเดต” ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”ของ”พรรคเพื่อไทย” อีกคน ที่อย่างไรเสีย”เพื่อไทย” ก็ไม่ถึง”ตาจน”บน”กระดานการเมือง” แม้ว่า”เสียงของ สส.”ของพรรคเพื่อไทยจะ”ปริ่มน้ำ” ก็อาจจะใช้”บริหาร”ของ”งูเห่า” จากพรรคการเมืองอื่นๆมา”เสริมแกร่ง” เพราะ”การเมือง”ยุคนี้ถ้า”มีเงิน” อย่าว่าแต่จะ”ใช้คน” ใช้ให้”ผีโม่แป้ง” ก็ยังได้
ปัญหา”สำคัญ”ของ”ประเทศไทย” ที่”ประชาชน”ถามมาคือ” ถ้า”เพื่อไทย” ยัง”ไปต่อ” โดยมี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” และ”ทักษิณ ชินวัตร” เป็น”เสมียนประเทศ” ที่”ใหญ่กว่านายกรัฐมนตรี” ที่คน”ค่อนครึ่ง”ประเทศไม่ต้องการ รวมทั้งรอบ”องคาพยพ” ที่เต็มไปด้วย”ศัตรู” ทาง”การเมือง” ที่”พรรคเพื่อไทย” ไปต่อได้ แต่”ประเทศชาติ” และ”ประชาชน”ไปต่อไม่ได้ แล้วจะมี”ประโยชน์” อันใดกับการ”ไปต่อ” ของ”รัฐบาล”…..มีการ”นินทา” กันว่า การที่” รัฐบาลเพื่อไทย” ยอมให้”กองทัพ” ทุกอย่าง เช่นการ”อนุมัติ” ให้ซื้อฝูงบิน”กริพเพน” และ”ยุทโธปกรณ์” อื่นๆ ตามที่”กองทัพ”ร้องขอ รวมทั้งการ”อนุมัติ” เรือดำน้ำ” จาก”ประเทศจีน” ให้กับ”กองทัพเรือ” โดยการใช้”เครื่องยนต์”ของ”ประเทศจีน” ซึ่งเรื่องนี้ในสมัยที่”เพื่อไทย” เป็นฝ่ายค้าน” มีการ”คัดค้าน” แบบ”หัวชนขวา”ให้”ยกเลิกสัญญา” และมีการ”ชำแหละ” ถึง”เบื้องหน้าเบื้องหลัง”อย่าง”ถึงพริกถึงขิง” แต่วันที่”เพื่อไทย” ต้องการใช้”กองทัพ” เป็น”นั่งร้าน” เพื่อเป็น”รัฐบาล”ต่อไป จึงกลายเป็น”เห็นชอบ” แม้ในสิ่งที่”เพื่อไทย” คัดค้านไว้ในครั้งที่”พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา” เป็น”นายกรัฐมนตรี” และ นี่คือ”การเมือง” ที่เป็นเรื่อง”เหลวไหล” และ”ไร้สัจจะ”แบบ”ลิ้น”ไม่มี”กระดูก” ดังนั้นก่อนที่”กองทัพ” จะยอมเป็น”นั่งร้าน” เพื่อให้”เพื่อไทย” ไปต่อ ก็ต้องคิดให้”รอบคอบ” และให้เห็นกับ”ประโยชน์” ของ”ประเทศชาติ”และ”ประชาชน” เป็นที่ตั้ง
กล่าวได้ว่า”การสู้รบ” ระหว่าง”ทหารไทย”กับ”กัมพูชา” คือการ”ยกระดับ”ของ”กองทัพ”ให้มี”เกียรติยศ” และ”ศักดิ์ศรี” ที่”ประชาชน” ให้ความ”เชื่อมั่น” มากกว่า”รัฐบาล” ในการ”ป้องกันอธิปไตย” ของ”ประเทศ” และยิ่ง”เครดิต” ของ”กองทัพ” มีมากขึ้น กลับส่งผลให้”เครดิต” ของ”พรรคประชาชน” ลดน้อยลง โดยเฉพาะ”วลีเด็ด” ที่”ทหารมีไว้ทำอะไร” วันนี้มี”คำตอบ” ที่”ชัดเจน”แล้วว่า” ทหารมีไว้เพื่อป้องกันอธิปไตย”และ”บูรณภาพแห่งดินแดน”…..ถามว่า โอกาสที่”รัฐบาล” จะ”ยุบสภา” จะเกิดขึ้นหรือไม่ หาก”เพื่อไทย” ยังได้”ไปต่อ” โดยทั้ง”แพทองธาร ชินวัตร” และ”ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็น”นายกน้อย” และ”นายกใหญ่” ผ่าน”ฉลุย” ในทุก”ข้อหา” การ”ยุบสภา” อาจจะเกิดขึ้นได้ หลังการ”ผ่านงบประมาณแผ่นดิน” เพราะ”เพื่อไทย” อาจจะใช้กรณีการ”ยึดที่ดินเขากระโดง” และการ”เจรจา”เรื่องของ”ภาษีทรัมป์” 19 % เป็นผลงานในการ”หาเสียง” รวมทั้งการ”เร่ง” ดำเนินการในเรื่องการ”ปรามปรามยาเสพติด” เพื่อให้เป็น”ผลงาน” หลังจากที่” ภูมิธรรม เวชยชัย” มาทำหน้าที่”เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย” ที่มีการ”สั่งการ” ให้มีการ”ปราบปรามยาเสพติด” ให้ปรากฏผลงานภายใน 120 วัน โดยเฉพาะเรื่องการ”ยึดคืนเขากระโดง” เพื่อไทย เชื่อว่า สามารถเปิด”บาดแผล” ให้กับ”พรรคภูมิใจไทย” ที่เป็น”ศัตรูคู่อาฆาต”ในเวที”การเมือง” ได้อย่างแน่นอน เพราะหากไม่หยิบเรื่องนี้มา”หาเสียง” พรรคเพื่อไทย ก็ไม่มี”ผลงาน” อะไรที่จะ”หาเสียง”กับ”ประชาชน” เพราะแม้แต่เรื่อง”แจกเงิน” ให้”ประชาชน” คนละ 10,000 บาท” ก็ทำได้แบบ”กระปริบกระปรอย” มีเสียง”ก่นดา” มากกว่า”ชื่นชม” เรื่อง”อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ก็มีเสียง”คัดค้าน” มากกว่า”เห็นด้วย” โดยภาพรวม 2 ปี ที่”พรรคเพื่อไทย” ที่เป็น”รัฐบาล” ไม่ได้ทำ”ประโยชน์” อะไรตามที่มีการ”หาเสียง”กับ”ประชาชน”เอาไว้….
@ทิ้งท้ายเรื่องของ”การเมือง” คือการ”ติดตาม” และ”จับตา” สถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้นใน เดือนสิงหาคม ว่าจะเป็นไปใน”ทิศทางไหน” เพราะนอกจาก”ประเด็นร้อน” ที่กล่าวมาทั้งหมด ยังมีเรื่อง” มาตรา 144” ที่เกี่ยวกับ”งบประมาณ” รอการ”วินิจฉัย”จาก” องค์กรอิสระ” ซึ่งหากการ”วินิจฉัย” ไม่”เป็นคุณ” กับ”รัฐบาล” จะเกิดอะไรขึ้นกับ”การเมือง”ของ”ประเทศไทย” โปรดติดตามด้วยความ”ระทึก”…..เรื่องของ”ความมั่นคง” วันนี้คือเรื่อง”ข้อพิพาท” ระหว่าง”ไทย”กับ”กัมพูชา” ใน”แนวชายแดนด้านตะวันออก” ที่ถึงแม้ว่าจะมีการ”เจรจาหยุดยิง” ไปแล้ว และมีการ”ลงนาม” เพื่อการ”เจรจา” ใน”ข้อพิพาท” ระหว่าง”สองฝ่าย” ที่”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รมช.กลาโหม กล่าวว่ามีความ”พอใจ” ในผลการ”เจรจา” แต่โดย”ข้อเท็จจริง” สถานการณ์ของ”ชายแดนด้านตะวันออก” ไม่ได้มีความ”สงบ” อย่างที่”กองทัพ” แถลงข่าว เพราะ”ฮุนเซ็น” ยังไม่ได้”ยุติ” การ”ก่อกวน” ใน”แนวชายแดน” มีการ”เสริมกำลังทหาร” มีการ”เสริมอาวุธ” และการใช้”โซเชี่ยล” ในการ”บิดเบือน”ข้อ”เท็จจริง” ใน”แนวชายแดน”ด้าน “จังหวัดสุรินทร์ ,ศรีษะเกษ,อุบลราชธานี” ทหารของ “กัมพูชา” ยัง”ก่อกวน” และ”พยายาม” รุกเข้ามายึด”พื้นที่” ของ”ประเทศไทย” ตลอดเวลา ล่าสุด “ทหารไทย” ถูก”ระเบิดแสวงเครื่อง” ถึงขั้น”ขาขาด” อีก 1 นาย จากการ “บุกรุก” เข้ามาวาง”กับระเบิด” ใน”พื้นที่”ของ”ประเทศไทย
ก็เห็นด้วยกับ”รัฐบาล” ที่จะจ่ายค่า”เยียวยา” ให้กับ”ตำรวจ-ทหาร” และ”ประชาชน” ที่”เสียชีวิต” และได้รับ”บาดเจ็บ” จากการ”สู้รบ” และการเป็น”เหยื่อ” ของ”ประชาชน” จาก”สถานการณ์” ของการ”สู้รบ “ ในแนวชายแดนด้าน”ตะวันออก” ของประเทศ ที่ จ.อุบลราชธานี,ศรีษะเกษ ,สุรินทร์” เจ้าหน้าที่เสียชีวิตได้ 10 ล้าน ประชาชนเสียชีวิตได้ 8 ล้าน เช่นเดียวกับ “ทุพลภาพ” หรือ”บาดเจ็บสาหัส” ก็ได้รับการ”เยียวยา” ใน”อัตรา”นี้เช่นกัน เพราะการ”เยียวยา” แบบนี้ จะเป็นการ”ตอบแทน” ให้กับ”ครอบครัว”ของผู้”สูญเสีย” ให้มี”คุณภาพชีวิต” ที่ดีขึ้น เพราะ”คนเสียชีวิต” คน”พิการ” อาจจะเป็น” เสาหลัก” ของ”ครอบครัว”…..แต่ “คำถาม”คือ” แล้ว”เจ้าหน้าที่รัฐ” ที่เป็น”ตำรวจ,ทหาร,และ”อาสาสมัครทหารพราน” รวมทั้ง”อาสารักษาดินแดน” ครู ,พระ,เณร และ”ประชาชน” ที่”เสียชีวิต”ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เขาก็”สูญเสีย” จากการ”สู้รบ” กับ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” เพื่อ”ปกป้องอธิปไตย” ของชาติ ไม่ให้ใครมา”รุกราน” เช่นเดียวกัน แต่ทำไม”ค่าชีวิต” ของ” เจ้าหน้าที่รัฐ “ และ”ประชาชน” ใน “จังหวัดชายแดนภาคใต้” จึงถูก”รัฐบาล” ทำการ”ตีค่า” เพียง”น้อยนิด” เช่น”ตำรวจ,ทหาร” ชั้นประทวน 1 ล้านบาท ประชาชน”ศพละ 5 แสนบาท” ….. นอกจากนี้ยังมี”ผู้พิการ” ทั้ง”ตำรวจ-ทหาร ประชาชน” ที่เกิดจากการ”สู้รบ” และมาจากการ”เป็นเหยื่อสถานการณ์” อีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้รับการ”ดูแล” และ”รับผิดชอบ” อย่าง”เต็มเม็ดเต็มหน่วย” กลายเป็น”ภาระให้กับครอบครัว” และเป็น”ครอบครัว” ที่มี”คุณภาพชีวิต” ที่”ตกต่ำ” เรื่องนี้”รัฐบาล” ต้องคิดให้”รอบคอบ” อย่างสร้างความเป็น”สองมาตรฐาน”ใน”แผ่นดินเดียวกัน” การ”เยียวยา” ต้องใช้”หลักการ” เดียวกัน อย่าให้”ประชาชน” ใน”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” เขาคิดว่า “อิสาน” คือ”ฐานเสียง” ของ”เพื่อไทย” แต่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้”ไม่ใช่ การ”เยียวยา” จึงมีความ”แตกต่าง” เฉกเช่น” ฟ้า” กับ”เหว” รัฐบาลที่ดี เขาไม่ทำกัน
เห็น”รายชื่อ” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของ”รองนายกรัฐมนตรี” และ”เสนาบดีมหาดไทย” ภูมิธรรม เวชยชัย” ที่มี” พล.อ.ชินวัตร แม้นเดช “ อดีต”รองแม่ทัพภาคที่ 4” จาก”หน่วยรบพิเศษ” รวมทั้ง”บิ๊กเดฟ” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 “พล.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์” และ”พล.ท. วินัย ทับฉ้ง” ที่เคย”ปฏิบัติการ” ในพื้นที่” สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” รวมอยู่ด้วย ทั้งหมดเป็น”นายทหารฝีมือดี”และ”เข้าใจ” ถึง”รากเหง้า” ของ”ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างดี ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า”ที่ปรึกษา” ชุดนี้จะมี”บทบาท” ที่จะให้”เกิด” ความ”เปลี่ยนแปลง” ในการ”ดับไฟใต้” ได้หรือไม่ ก็ได้แต่”หวังว่า” คงจะไม่เหมือน”หลายๆครั้ง” ที่ผ่านมา ที่”รองนายกรัฐมนตรี” ก็ดี” เสนาบดีกระทรวงต่างๆ” ก็ดี มีการ “แต่งตั้ง” คณะที่ปรึกษา ที่มีความรู้และ”ประสบการณ์” แต่ไม่ได้ใช้”ประโยชน์”ในการ”แก้ปัญหา” อย่างแท้จริง กลายเป็น”ที่ปรึกษา” เพื่อใช้ในการ”พิมพ์นามบัตร”เท่านั้น…..ล่าสุด สำหรับ”สถานการณ์ความไม่สงบ”ใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” คือการที่” อันวาร์ อิบราฮิบ” นายกรัฐมนตรี”ประเทศมาเลเซีย” ที่เดินทางลงพื้นที่”รัฐกลันตัน” เพื่อพบกับ”พรรคพาส” ซึ่งเป็น”พรรคฝ่ายค้าน” ที่อยู่”เบื้องหลัง” ของการ”ปลุกระดม”ให้”ชาวมาเลเซีย” ออกมา”เดินขบวน” ขับไล่ “ อันวาร์ อิบราฮิบ” ออกจากตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ได้”เรียกร้อง” ให้”รัฐบาลไทย” เร่งดำเนินการ”สานต่อ” การ”พูดคุยสันติสุข” หรือการ”เจรจาสันติภาพ” กับ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” หลังจากที่”เวทีการขับเคลื่อน”ไม่มีการ”ขับเคลื่อน” มาแล้ว กว่า 2 ปี
ประเด็น ไม่ได้อยู่ที่” รัฐบาล”ไม่ต้องการ”พูดคุย” แต่”เงื่อนไข” ในการ”พูดคุย” ของ”รัฐบาลไทย” คือ ต้องการที่”พูดคุย” กับบุคคลที่เป็น”หมายเลข 1 “ ของ”บีอาร์เอ็น” ซึ่ง” รัฐบาล” ได้ส่ง”สัญญาณ”ให้กับ” บีอาร์เอ็น” และ”ผู้อำนวยความสะดวก” ในการ”พูดคุย” ที่เป็นคนของ”รัฐบาลมาเลเซีย”ไปแล้ว ดังนั้น วันนี้การ”พูดคุย” จะมีการ”เดินหน้า” ต่อได้หรือไม่ จึงอยู่ที่”ผู้อำนวยความสะดวก” ในการ”พูดคุย” และ”นายกรัฐมนตรี” ของ”มาเลเซีย” ที่จะสามารถ”บังคับ” ให้”หมายเลข 1” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่มี”ฐานที่มั่น” อยู่ใน”รัฐบาลตัน”รับปากที่จะขึ้น”เวทีการพูดคุย” ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ “เวทีการพูดคุย” ก็”เดินต่อ” ถ้า”ทำไม่ได้” ก็”ป่วยการ” ที่จะ”พูดคุย” กับ”ตัวแทน” ที่เป็นเพียง”หุ่นเชิด”ของ”รัฐบาลมาเลเซีย” ที่” บีอาร์เอ็น” ที่เป็น”หมายเลข 1” ไม่ยอมรับ ที่”สำคัญ” ถ้า”นายกรัฐมนตรี” ของ”มาเลเซีย” ยังมี”ธง”หรือมีความ”ประสงค์” ที่จะให้การ”พูดคุย”ระหว่าง”รัฐบาลไทย”กับ”บีอาร์เอ็น” จบลงที่ให้”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็น”เขตปกครองตนเอง” หรือ”เป็นเขตปกครองพิเศษ” ก็ไม่ต้องมี”เร่งเร้า” ให้”รัฐบาลไทย” ดำเนินการ”พูดคุย” เพราะนั่นไม่ใช่”แนวทาง”ของ”ประเทศไทย” ในการแก้ปัญหา”ความไม่สงบ”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้”
วันนี้ นโยบาย ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มี”พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาคที่ 4 ดำเนินการอยู่ เป็นเรื่องการแก้ปัญหา”ภายในพื้นที่” ที่”ถูกต้อง” แล้ว นั้นคือไม่ใช้”ความรุนแรง” มีการ”จับกุม” ผู้ที่มี”ความผิด” อย่าง”ต่อเนื่อง” โดยไม่มีการ”วิสามัญฆาตรกรรม” เพื่อไม่ไป”เข้าทาง”ของ”บีอาร์เอ็น”…..นโยบายของ”พล.ท.ไพศาลหนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 จึงไม่เป็นที่”ต้องการ”ของ”บีอาร์เอ็น” ดังนั้น”บีอาร์เอ็น” จึงต้องการให้มีการ”ย้าย” พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” ออกจากตำแหน่ง”แม่ทัพภาคที่ 4 “ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้อง”จับตามอง” ว่า” ในการ”โยกย้าย” ประจำปีในเดือนกันยายน” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์” จะมีการ”เปลี่ยนตัว” แม่ทัพภาคที่ 4 หรือไม่…..มีข่าวจาก”แหล่งข่าว” ใน”กลันตัน” ซึ่งเป็น”ฐานที่มั่น” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” แจ้งมาว่า หลังวันที่ 15 สิงหาคม “กองกำลังติดอาวุธของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่จะ”ก่อเหตุ” ครั้งใหญ่แบบ”ปูพรม” อีกครั้ง” โดย”เป้าหมาย” ในครั้งนี้ จะเน้น “ฐานปฏิบัติการ”ของ”ตำรวจ” เป็นหลัก ซึ่งนอกจากเป็นการ”ทำสอบฝีมือ”ของ”แนวร่วม” อีกรุ่นที่”จบหลักสูตร” การฝึกการ”ก่อการร้าย” แล้ว ยังมีเรื่องที่”ตำรวจ ศชต.” จับยาเสพติดที่เป็น”ยาไอซ์” เกือบ 200 กิโลกรัม ที่เกี่ยวกับ” นักการเมือง” ใน”จังหวัดนราธิวาส” และ”เกี่ยวพัน”กับ”บีอาร์เอ็น”ที่มี”ผลประโยชน์”ร่วมกัน มีการ”แจ้งเตือน” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า”ต้อง”ระวังป้องกัน”เพราะ”เมื่อเห็นควัน”ก็ย่อมที่จะ”มีไฟ”
พื้นที่”จังหวัดพัทลุง” คือเส้นทางเสือผ่าน” ของ”สินค้าผิดกฎหมาย” จาก”ชายแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และจาก”ชายแดนอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล โดยเฉพาะ”ขบวนการน้ำมันเถื่อน” จาก”สองจังหวัด” ที่ต้องผ่าน”พ้นที่”ของ”จังหวัดพัทลุง” ทั้งถนนสายเอเชีย และถนนเลียบริมทะเลสาบ ถ้า”ตำรวจ” ใน”สภ.ต่างๆ” ที่เป็น”ทางผ่าน” ไม่มีการให้”ไฟเขียว” ไม่มีทางที่”สินค้าเถื่อน” จะผ่าน”หูผ่านตา”ของ”ตำรวจ”ไปได้ ก็ฝากถึง พล.ต.ต. เชาวลิตร เลี้ยงสุพงศ์” ผบก.ภ.จว.พัทลุง “สั่งการ” ให้”สภ.ต่างๆ ที่เป็น”ทางผ่าน”ของ”น้ำมันเถื่อน” สร้างผลงานการ”จับกุม”บ้าง ไม่ใช่มีแต่”ข่าว” รถบรรทุก”น้ำมันเถื่อน” เกิดเหตุในพื้นที่”พัทลุง” เป็นข่าว เพียงอย่างเดียว
บรรทัดนี้ ฝากไปยัง” พ.ต.อ.บัญฑูรย์ เทพสุวรรณ “ ผกก.สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา มีผู้ร้องเรียกว่าในพื้นที่ของ สภ.คลองหอยโข่ง” มี”คอกน้ำมันเถื่อน” ตั้งอยู่ และในแต่ละวันมี”รถบรรทุกพ่วง” ที่วิ่งระหว่างไทย-มาเลเซียและรถบรรทุกกระบะดัดแปลงนำ”น้ำมันเถื่อน”ไป”ขาย” ให้กับ”คอกน้ำมัน”ดังกล่าว เป็นจำนวนมาก และมีรถบรรทุกน้ำมันที่เป็น รถ 10 ล้อ มารับน้ำมันที่”คอกน้ำมันเถื่อน” ไป”ส่งต่อ” ให้”ลูกค้า” ใน”จังหวัดสงขลา” วันละหลายๆเที่ยว ชาวบ้านในพื้นที่และผู้”ผ่านทาง” เห็นกันทั่ว แต่”สายตรวจ” สภ.คลองหอยโข่ง มองไม่เห็น….พูดถึง”ถนนสายลองหอยโข่ง” จากแยกสนามบินหาดใหญ่ ผ่านไป ต.พะตง อ.หาดใหญ่ และผ่านไป ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็น”ถนนทางหลวงชนบท” ที่กลายเป็น”เส้นทางโจร” เพราะ”มีการปล่อยให้”รถขนสินค้าเถื่อน” ทุกชนิด ใช้”เส้นทาง” นี้เพื่อ”เลี่ยง”ถนนกาญจนวนิช” ที่เป็น”ทางหลวงแผ่นดิน” และยังมี”รถบรรทุกหนัก” เช่น”10 ล้อบรรทุกน้ำมัน” รถบรรทุกพ่วง” ใช้เป็นเส้นทาง”ขนส่งสินค้า” เพื่อ”หลีกเลี่ยงด่านชั่งน้ำหนัก” ที่”ถนนกาญจนวนิช” ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จน”ถนนสายโจร” เส้นนี้เป็นที่”เก็บเกี่ยวผลประโยชน์” ของ”เจ้าหน้าที่บางกลุ่ม” เรื่องนี้ฝากไปยัง “พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฏิ์” ผบก.สภ.จว.สงขลา ให้”สั่งการ” ให้”ตำรวจ” จับกุมคนที่”ทำผิด” เพื่อสร้าง”ผลงาน” ….ที่ สำคัญ” สำนักทางหลวง สำนักงานขนส่ง จ.สงขลา ต้อง”ดูดำดูดี” นำ”เครื่องชั่ง” ไป”ติดตั้ง” เพื่อ”จับกุม” รถบรรทุกที่”หลบหลีก”เครื่องชั่งน้ำหนัก” บนถนนสายหลัก ไปยัง”ด่านศุลกากรสะเดา” แล”ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์” และวันนี้”แม้แต่ทัวร์” จากประเทศมาเลเซีย ก็ใช้”เส้นทางโจร” จาก”หาดใหญ่”ไปยัง”ด่านสะเดา”และ”ด่านปาดังเบซาร์” เช่นกัน ที่”สำคัญ” ถนนสายคอลงหอยโข่ง”เป็น”ทางหลวงชนบท” ไม่ใช่”ทางหลวงแผ่นดิน” การที่”รถบรรทุก” ใช้”เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลัก” ย่อมสร้างความเสียหายให้กับถนน” หน่วยงานที่รับผิดชอบต้อง”คิดอ่าน” ในการ”แก้ปัญหา”
มาดูเรื่องของ”การเมืองระดับชาติ” ที่วันนี้”กระสากลิ่น”ของการ”ยุบสภา” หลายพรรคการเมืองมีการ”จัดทัพ”ของ”ผู้สมัคร”กันแล้ว เพื่อ”รับศึก”ของการ”เลือกตั้ง” ที่เชื่อว่าในการ”เลือกตั้ง” ที่จะมาถึง ต้องมีการ”แข่งขัน”กันสูงกว่า”ปกติ” …..พรรคที่”เตรียมพร้อม” ก่อน”ใครเพื่อน” คือ”ภูมิใจไทย” ที่มี”เสี่ยหนู” และ”เสี่ยเน” เป็น”ผู้นำ” และมี”โกเกี๊ยะ” หรือ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เป็นผู้”รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้” ที่ทั้งสาม”แกนนำ” เข้าพบกับ”นิพนธ์ บุญญามณี” อย่าง”เปิดเผย” เพื่อให้” นิพนธ์ บุญามณี” ซึ่งเคยเป็น”แกนนำ”ของ”ประชาธิปัตย์”ในภาคใต้ และเป็น”รมช.มหาดไทย มาเป็น”แกนนำ” พรรคภูมิใจไทย เพื่อ”รับผิดชอบ”การเลือกตั้งใน “จังหวัดสงขลา” และ”บางเขต”ของ”จังหวัดใกล้เคียง” ซึ่งได้รับการ”ตอบรับ” อย่างดีจาก”นิพนธ์ บุญญามณี” และมีการ”เปิดตัว” ผู้สมัครเขต 2 คือ”จุรี นุ่มแก้ว” อดีต”ดาวติ๊กต๊อก” มี”ผู้คน” รู้จักเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึง”การันตี”ได้ว่าในการ”เลือกตั้ง” ครั้งต่อไป”โกถึก” หรือ”สมยศ พลายด้วง” สส.เขต 3 สงขลา และ”สรรเพ็ชญ์ บุญญามณี” ต้อง”ใส่เสื้อ”พรรค”สีน้ำเงิน” อย่างไม่ต้องสงสัย ข่าวว่า” 3 ที่นั่ง” ใน จ.สงขลา เป็น”ของตาย” ของ”ภูมิใจไทย” อยู่แล้ว ส่วนอีก 3 เขต “นิพนธ์ บุญญามณี” กำลัง”ตัดสินใจ” ว่าจะ”เอาใคร” มา”วัดบารมี”กับ”ผู้แทน” ปัจจุบัน….สำหรับ”ศาสตรา ศรีปาน” สส.เขต 2 สงขลา ซึ่ง ปัจจุบัน เป็น สส.ในสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ เที่ยวนี้ ข่าวว่า ต้อง” โบกมือ บ้ายบาย” จากหัวหน้า”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาคย์”อย่างแน่นอน และจะไป”สวมเสื้อ” พรรคของ”เสี่ยกลาง”และ”ปลัดฉิ่ง” คือ”พรรคโอกาสใหม่” เพราะมี”น้ำเลี้ยง” ที่สามารถ”ต่อกร” กับผู้สมัครของ”พรรคคู่แข่ง”ได้อย่าง”สมน้ำสมเนื้อ”ส่วนอดีต”ดาวดัง”ของ”ประชาธิปัตย์”อย่าง “ศิริโชค โสภา” อยู่ระหว่างเต้น”ฟุตเวิร์ค”และ”ฟาดงวง ฟาดงา” ใส่”คู่ปรับเก่า” อยู่ระหว่าง”ตัดสินใจ” ว่าจะ”ใส่เสื้อ” ของ”พรรคการเมืองไหน เพราะมีทั้ง”ผู้กองนัส”และ”ปลัดฉิ่ง” ยื่นข้อเสนอให้เลือก ซึ่งต้องใช้เวลาในการ”ดีดลูกคิดรางแก้ว”
เช่นเดียวกับ”ร่มธรรม ขำนุรักษ์” สส.เขต 3 พัทลุง ที่อาจจะย้ายจาก”ประชาธิปัตย์”ไปยัง”พรรคการเมืองอื่น” เพราะมองเห็นแล้วว่า”ประชาธิปัตย์” ในการเลือกตั้ง”สมัยหน้า”ไม่”สดใสกาววาว” อย่างใน”อดีต” ข่าวว่าคนที่นั่ง”ตีขิม” ในการ”กดเครื่องคิดเลข” เพื่อ”บวก ลบ คูณ หาร คือ”ยอดคุณพ่อ” นริศ ขำนุรักษ์” อดีต สส.เขต 3 พัทลุง ส่วน”สุพัชรี ธรรมเพชร” สส.เขต 1 “ประชาธิปัตย์” ยังจะ”สวมเสื้อ ปชป. หรือไป”สวมเสื้อ” พรรคการเมืองอื่นๆ อยู่ที่การ”ต่อรอง” ในเรื่อง”ตำแหน่ง” ของ”คนใกล้ตัว” ถ้าได้ “ตำแหน่ง” ผู้อำนวยการกรมใหญ่ ของ”กระทรวงเกษตรฯ” ก็อาจจะอยู่”พรรคเดิม” ข่าวว่าเกม”ต่อรอง” ครั้งนี้ เล่นเอา”เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค”แม่ธรณีบีบมวยผม” ต้อง”คิดหนัก”
เรื่อง”เศรษฐกิจ” กันบ้าง สิ้นเดือนนี้”สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช. ) ต้อง สรุป”รายงาน” การทำ”สิ่งแวดล้อม” เรื่องของ”เมืองต้นแบบฯ” หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ”ให้กับ”รัฐบาล” ตามที่”รัฐบาลลูงตู่”มอบหมายให้”สศช.” เป็น”เจ้าภาพ” ในการดำเนินการ”รับฟังความคิดเห็น” จาก”ประชาชน” เรื่อง”เมืองต้นแบบฯ” หรือ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” แทน”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ศอ.บต. ) ซึ่ง โครงการนี้ ล่าช้า มาแล้ว 5 ปี เป็นเรื่องการ”เสียโอกาส” ในการสร้าง”เศรษฐกิจ”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโครงการนี้ “รัฐบาล” ไม่ต้อง”ควักเงินลงทุน” เพราะเป็นโครงการของ”เอกชน” ในการ”ลงทุน”ทั้งหมด ก็ต้อง”กระตุ้น” ให้”สศช.” เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ และประกาศให้ “ประชาชน” ได้รับทราบโดยเร็ว เพื่อที่ เจ้าของโครงการ จะได้”ขับเคลื่อน” ให้เกิดการ”พัฒนาอุตสาหกรรม” เพื่อ”ประโยชน์” ของ”ประชาชน” ใน”ภาคใต้ตอนล่าง” อย่างแท้จริง…..แล้วพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก