วันศุกร์, 10 ตุลาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ 9 ตุลาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม  ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น

การเมืองภาคใหญ่ของประเทศที่ขับเคลื่อนโดยรัฐบาล 120  โดยมีอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐนาวาในการนำพา ประเทศไทย และคนไทย กว่า 76 ล้านคน เดินไปข้างหน้า ภายใน 120 วัน ก่อนที่จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคืนอำนาจ ให้กับประชาชน เพื่อการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการล้างไพ่ ตามหลักการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย

การตอกย้ำ ให้สังคมโลก ได้รับรู้ ว่า รัฐบาล นี้มีอายุ แค่ 120 วัน ทางหนึ่งเป็นการให้คำมั่นสัญญา กับประชาคมโลก ให้รู้เห็นทิศทาง ของประเทศไทย และให้ประชาคมไทย รับรู้ในเงื่อนไขของ เอ็มโอเอ ว่าปี 2568 จะมีการเลือกตั้ง และประเทศไทย จะมีรัฐบาล ใหม่ เพื่อเข้ามารับช่วง ในการบริหารประเทศ เป็นการส่งสัญญาณ ในการเตรียมความพร้อม ทั้งพรรคการเมือง และประชาชน ในการเข้าสู่าโหมด ของการเลือกตั้ง

แต่ในทางที่กลับกัน คือ ใน 120 วัน จะไม่มีการขยับขับเคลื่อน ในการลงทุน ใหม่ๆ ทั้งจากนักลงทุน ในประเทศและจาก นักลงทุน ในต่างประเทศ เพราะนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือต่างประเทศ ต่างดูทิศทางลม ดูเสถียรภาพ ของรัฐบาล ใน ประเทศนั้นๆ เป็นสำคัญ ดังนั้น ใน 120 วัน  รัฐบาล ที่มีอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเร่งรีบ ในการผลักดัน นโยบาย ที่เร่งด่วนให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และ สะสาง ปัญหาต่างๆ ที่คาราคาซัง ให้เรียบร้อย และ เตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ที่จะมาถึงตามสัญญาประชาคมที่ได้ตกลงกันไว้

กลับมาสู่โหมดของการก่อการร้าย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ซึ่งเป็นเสือข้ามห้วย มาจากรองแม่ทัพภาคที่ 2  มารับตำแหน่งแม่ทัพเพียง 5 วัน ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ก็แผลงฤทธิ์ ด้วยการบุกเข้าปล้นร้านทองเยาวราช ในห้างบิ๊กซี อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดย กวาดเอาทองรูปพรรณไปถึง 600 บาท มูลค่ากว่า 35 ล้าน เป็นการต้อนรับแม่ทัพคนใหม่ ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ พบกับผู้นำศาสนาพุทธและผู้นำศาสนาอิสลามในวันที่เกิดเหตุ และเป็นการต้อนรับ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผบ.ฉก.นราธิวาสคนใหม่ ที่เดินทางไปรับตำแหน่ง ผบ.ฉก.นราธิวาส นั่นคือ พล.ต.ยอดยุทธ พึ่งพักตร์ ซึ่งมาจากรองแม่ทัพภาคที่ 1  ที่เป็น เสือห้ามห้วยมาเพื่อภารกิจ ในการดับไฟใต้

ก็เคยบอกหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าจุดอ่อน ของการพ่ายแพ้ต่อกองกำลังติดอาวุธของบีอาร์เอ็น คือการข่าว เมื่อการข่าวบอดมืด ไม่มีเบาะแส ของฝ่ายตรงข้าม จึงทำให้กองกำลังติดอาวุธ ของบีอาร์เอ็น สามารถข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก เข้ามาปฏิบัติการในการปล้น ครั้งนี้ได้อย่างสะดวกโยธิน หลังปล้นเสร็จ ก็วางระเบิดแสวงเครื่องเป็นการสกัดกั้น กำลังของเจ้าหน้าที่ ในการติดตาม และก็เล็ดลอด ข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ไปนอนตีพุง อยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

ที่ชายแดนด้านประเทศกัมพูชา สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. มีการอนุมัติงบประมาณ ให้ทำรั้วกั้นชายแดน ในจุดที่มีการปีกปันเขตแดนแล้ว แต่กับชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีการปักปันเขตแดน กันแล้ว และมีปัญหา ของการก่อการร้าย ที่มีเป้าหมาย ในการแบ่งแยกดินแดน ทำไมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จึงไม่เคยมีแนวคิด ในการสร้างรั้วชายแดน เพื่อแก้ปัญหาการก่อการร้ายเพื่อแบ่งแยกดินแดน หลังจากนี้สมช. ต้องกลับไปทบทวน ในเรื่องของยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาการแบ่งแยกดินแดน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสียใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องรั้วกั้นชายแดนไทย-มาเลเซีย

มี ประชาชน ชาวอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ร้องเรียนมาพร้อมกับเขียนแผนผัง ของบ่อนการพนันบ่อนใหญ่ ที่ตั้งอยู่หลังศูนย์ราชการ ของอำเภอนาทวี จ.สงขลา มีเชื่อเซียนพนัน ให้ความ เชื่อถือ ว่าเล่นบ่อนนี้ แล้วปลอดภัย เพราะมีหุ้นส่วน เป็นนายตำรวจที่มียศสามดาวมงกุฎครอบ ก็ฝากให้ พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ตรวจสอบดูหน่อยครับ

ส่วนที่ อ.สะเดา ร้องมาว่า มีคนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำ ตู้พนันไฟฟ้า กว่า 50 ตู้ วางทั่วด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา เล่นการพนันตู้ไฟฟ้า ไม่ว่า ตู้ม้า ตู้สล็อต และตู้พนันบาคาร่า ใครรับผิดชอบ ตรวจสอบดูก็น่าจะดีครับ

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์