วันอังคาร, 15 กรกฎาคม 2568

รอบรั้วเมืองใต้ : 10 สิงหาคม 2566

รอบรั้วเมืองใต้ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น…

นี่ก็ หมู ไม่กลัว น้ำร้อน ร้านอาหารที่ใช้ใบอนุญาตผิดประเภทโดยการทำเป็นผับที่มีนักร้องนักดนตรีและพนักงานบริการ และเปิดเกินเวลา หรือไม่เกิน ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนธรรมนูญวิถี ใกล้กับวัด และโรงเรียน  จำนวนหลายราย ถูกฝ่ายปกครอง สั่งปิด 7 วัน เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไข ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีประชาชนทำหนังสือร้องเรียน ไปยัง เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา กลุ่มทุน ที่เป็น เจ้าของ ซึ่งมีทั้ง ลูกตำรวจ ทั้ง นักการเมือง ประกาศเปิดใหม่อีกครั้ง ก็ต้องถามว่า การเปิดใหม่ ได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องแล้วหรือยัง และถ้ามีใบอนุญาตที่ถูกต้อง แล้ว กรณีที่อยู่ใกล้วัดใกล้โรงเรียน จะแก้ปัญหาอย่างไร อย่าบอกนะว่าที่ปิดไป 7 วัน เพื่อการวิ่งเคลียร์ เพื่อขอไฟเขียว มีการจ่ายเพิ่ม เพื่อกลับมาทำผิดกฎหมายได้เหมือนเดิม… ที่สำคัญ ในพื้นที่ของ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาที่มี พ.ต.อ.บัญฑูร เทพสุวรรณ เป็น ผกก. ไม่ได้มีสถานบันเทิง ที่ผิดกฎหมาย เฉพาะในย่านธรรมนูญวิถี แต่มีอีกหลายสิบแห่ง ที่เป็นในลักษณะเดียวกัน คือใบอนุญาตผิดประเภท และเปิดเกินเวลาและไม่เกินเวลา ที่สำคัญ บางแห่งตั้งอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล ก็มี เรื่องอย่างนี้ แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครองต้องเอาจริง สั่งการให้“ผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอ” ดำเนินการให้ถูกต้อง ในเมื่อกำหนดโซนให้แล้ว ทำไมจึงไม่ไปเปิดในโซนที่กำหนดให้ ทำไมต้องเลือกทำเล ที่ ใกล้วัด ใกล้โรงเรียนทำไมต้องขอถามหน่อย..แล้วที่สำคัญ ถนนสายดังกล่าว ยังมีการตั้งแก๊งมาเฟียจัดเก็บค่าจอดรถคนที่มาเที่ยวสถานบันเทิงด้วย จริงเท็จอย่างไร เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูด้วย

วันนี้ เพื่อไทยจับมือกับภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีคะแนนอันดับสามในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพื่อเป็นแกนนำ ในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ดูแล้วก็ไม่ง่ายนะ เพราะสองพรรคมีคะแนน 200 เสียงกว่านิดๆ ซึ่งต้องได้รับเสียงสนับสนุน จากพรรคการเมืองอื่น ซึ่งนอกจากพรรคประชาชาติ ที่เป็นพันธมิตรดั่งเดิมและพรรคเล็กพรรคน้อย ก็ยังต้องอาศัยเสียงของพรรคการเมืองอื่นๆ อีกไม่น้อยกว่า 2-3 พรรค หรือต้องมีก๊วนการเมือง ยกมือสนับสนุนโดยอาจจะมีเสียงของฝั่งวุฒิสมาชิกที่ยกมือเห็นชอบ กับการตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นตัวช่วย  แต่ก็

ยังไม่มีใครกล้าฟันธง ว่านายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยจะเป็นเศรษฐาหรือ อุ๋งอิ๋ง หรือแจ๊กพอต จะแตกที่บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สำหรับการเมืองแบบไทยๆ ออกได้ทุกหน้าเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งก็ต้องรอดูหลังวันที่ 16 สิงหาคม นี้  ว่า วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนัดประชุมเพื่อเคาะ การเลือกนายกรัฐมนตรีวันไหน เพราะต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดกรณีของการโหวตเลือกพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็น นายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ได้หรือไม่ ถ้า ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีการชี้ขาด การเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเจอโรคเลื่อน ออกไปก่อน…

การเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี ยิ่งลากยาวออกไป ยิ่งมีปัจจัยอื่นๆ ที่ถาโถมเข้ามา และถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เป็นตัวแปร ของการต่อรอง จาก พรรคการเมือง และกลุ่มก๊วน การเมืองมากยิ่งขึ้น เข้าทำนอง วิกาลยาวนาน ฝันยุ่งเหยิง เพราะมีการต่อรอง เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ในกระทรวงเกรดเอซึ่งทุกพรรคการเมืองหมายปอง…

ก็ต้องจับตาตามที่ ภูมิธรรม เวชยชัย ตัวจริง เสียงจริง ของเพื่อไทย ที่ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาลพิเศษ เพราะต้องผ่าทางตัน ในการนำประเทศให้เดินหน้า ว่าสุดท้ายแล้วจะพิเศษอย่างไร… แต่ที่บอกได้คือเป็นรัฐบาล ที่ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างแน่นอน เพราะแค่เปิดตัว พรรคภูมิใจไทย ผสมพันธุ์ กับพรรคเพื่อไทย ก็มีการลงถนน ต่อต้านจาก กลุ่มนั้น กลุ่มนี้กันแล้ว ถ้ามีการเปิดตัว พรรค หรือ ก๊วน ของ สองลุง เข้าร่วมผสมพันธุ์ โดยมีประชาธิปัตย์ ร่วมด้วยช่วยกัน โดยที่มีรุ่นใหญ่อย่าง ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่เห็นด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่และอาจจะมีเสียงยี้ สนั่นเมือง…

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์