วันเสาร์, 7 มิถุนายน 2568

สธ.สงขลา เตือนประชาชนร่วมป้องกันโรคเลปโตสไปโรซิส

27 ต.ค. 2566
123
นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวว่า ในระยะนี้จังหวัดสงขลาเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง โรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน เป็นกลุ่มโรคที่มีความสำคัญและมีการแพร่กระจายในช่วงที่มีฝนตกและน้ำท่วมขัง โรคเลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) หรือโรคฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า เชื้อเลปโตสไปร่า (Leptospira) เข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือโดยการไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน
ซึ่งมักจะระบาดหน้าฝนและโดยเฉพาะหลังน้ำลด มักพบผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกลุ่มบุคคลที่ต้องเดินลุยน้ำ
มีน้ำขัง หรือพื้นดินชื้นแฉะที่มีโอกาสปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ ได้แก่ วัว ควาย หมู หมา แพะ หนู รวมทั้งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์/โรงฆ่าสัตว์/ผู้ที่ชำแหละสัตว์ที่มีเชื้อโรคฉี่หนู เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้

2 ทางคือ ทางตรงโดยการสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้ออยู่หรือโดนสัตว์ที่มีเชื้อกัด และทางอ้อม เช่น เชื้อจากฉี่หนูปนอยู่ในน้ำหรือดิน เข้าสู่คนทางบาดแผล เยื่อบุในปากหรือตา หรือแผล ผิวหนังปกติที่เปียกชื้น เชื้อก็สามารถไชผ่านไปได้ เชื้ออาจจะเข้าร่างกายโดยการดื่มหรือกินอาหารที่มีเชื้อ ระยะฟักตัวของโรค เฉลี่ยประมาณ 10 วันหรืออยู่ระหว่าง 4 -19 วัน ระยะติดต่อการติดต่อจากคนสู่คนเกิดได้น้อยมาก ส่วนอาการของโรคฉี่หนู จะมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเจ็บกล้ามเนื้อที่โคนขาและน่องอย่างมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ตาแดง บางรายอาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง ไอมีเลือดปนหรือ ตัวเหลืองตาเหลือง มีเลือดออกในปอด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ตับวาย ไตวาย และเสียชีวิตได้ กลุ่มบุคคลที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น เกษตรกร ชาวไร่ชาวนา ชาวสวน คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โค สุกร ปลา กรรมกรขุดท่อระบายน้ำ เหมืองแร่ โรงฆ่าสัตว์ กลุ่มอื่น ๆ เช่น แพทย์ สัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องทดลอง ทหารตำรวจที่ปฏิบัติงานตามป่าเขา และกลุ่มผู้สัมผัสแหล่งที่ทำให้เกิดโรค เช่น ผู้มีอาชีพเก็บของป่า ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับป่าไม้ พระที่ออกธุดงภ์ รวมถึงผู้ที่ชอบเดินป่า ท่องเที่ยวตามแม่น้ำ ทะเลสาบ น้ำตก เป็นต้น